83 Corner Cafe สวนผัก ตลิ่งชัน -

หลังจาก แม่มะลิ ชวนท่านผู้อ่านไปเที่ยวหลายรอบแล้ว วันนี้ แม่มะลิ อยากชวนท่านผู้อ่านสลับไปชิมอาหารอร่อยๆ บ้างค่ะ

เหตุจากนัดกินข้าวกับเพื่อนเก่า และแก่ นัดนี้ให้เพื่อนเลือกร้านว่าจะไปไหนดี เพื่อนเลือกร้านแถวบ้านเค้า แต่แหม….ไกลบ้านเราได้ขนาดน้านนนน

เอาเถอะ ผลัดกันใกล้ ผลัดกันไกล แถวบ้านเค้าบ้าง แถวบ้านเราบ้าง ก็แฟร์ดี เพื่อนฝั่งนู้นบอก ร้านนี้แหละอร่อย ราคาสวยงาม เพื่อนฝั่งนี้ก็ จ้ะ..ไม่ยากอยู่แล้ว ยามมีสหายรักล้อมรอบ ตั้งวงกินข้าว นั่งคุยระลึกถึงความหลัง นัดที่ดวงจันทร์ก็ตะกายไปได้ค่ะ

ร้าน 83 Corner Cafe อยู่ซอยสวนผัก 32 ย่านตลิ่งชัน

สวนผัก มีประวัติศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงมาช้านาน เป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าทั้งเชิงนิเวศและวัฒนธรรม เคยเป็น ที่นา พื้นที่สวนดั้งเดิม เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของคนไทยและจีนทั้งที่นับถือศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และความเชื่อแบบจีน ด้วยความเป็นพื้นที่อยู่ใกล้ใจกลางกรุงเทพมหานครจึงได้รับการพัฒนาและเกิดการเปลี่ยนแปลง

จนปัจจุบันย่านตลิ่งชัน มิใช่ย่านทำนาและสวนผักอีกต่อไป พื้นที่สวนดั้งเดิมเหลืออยู่น้อยมาก ทุกวันนี้ชาวสวนย่านตลิ่งชันที่ยังรักในถิ่นฐานพยายามรักษาวิถีชีวิตชาวสวน วัฒนธรรมชาวน้ำชาวคลองไว้ ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลง ทำให้ปัจจุบันย่านตลิ่งชันยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งระบบนิเวศและวัฒนธรรมที่สำคัญ แห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

ร้าน 83 Corner Cafe ก็เช่นกัน บรรพบุรุษนั้นเป็นเจ้าของสวนผักดั้งเดิม ตั้งแต่ รุ่นปู่ย่า ตายาย ก็อพยพมาจากเมืองจีน มีสวนผักมากมายหลายแปลง อาชีพปลูกผักขาย ต่อมาหลังจากวิถีเปลี่ยน เมืองขยายรุกสวน การปลูกผักแบบเดิมๆ ค่อยๆ หายไป แต่เนื่องจากที่ดินมีมาก ก็เลยเปลี่ยนอาชีพมาขายต้นไม้ ไม้ปลูก ไม้ประดับแทน

โดยตัวเจ้าของร้านเอง เป็นรุ่นหลาน ที่มีประสบการณ์ในเรื่องอาหาร ได้นำที่ดินว่างด้านหน้า ส่วนที่ติดถนน มาสร้างเป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ บรรยากาศร่มรื่นเขียวขจี ด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และไม้ประดับจากสวนตัวเอง

ร้าน 83 Corner เป็นร้านอาหารกึ่งๆ ร้านกาแฟ ไม่กินข้าว ก็นั่งจิบกาแฟ กับเค้ก หรือน้ำผลไม้ ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี บรรยากาศร่มรื่น คลอเพลงเบาๆ ก็ได้อยู่

ส่วนแม่มะลิ กับเพื่อนๆ หิวโซไปกินมื้อกลางวัน อาหารที่สั่งก็ไม่เน้นอะไรกันละ ใครใคร่สั่งก็สั่ง ต่างคนต่างสั่ง แต่แหมจานเด็ดที่ลงคะแนนเสียงกันแล้ว ไปกัน 5 คน ทุกคนบอกอร่อย คือ เมนูนี้เลย

“ซี่โครงหมูบาร์บีคิว” แม่มะลิขอบอก มัน “ฟิน” สุดๆ อ่ะ พ่อครัวบอกขั้นตอนแรกนี่ คือ เอาซี่โครงมาทำความสะอาดตกแต่งให้สวยงาม แล้วนำไปหมักกับซอสและเครื่องเทศต่างๆ ตามสูตรของร้าน แช่เย็นข้ามคืนเพื่อให้เครื่องเทศซึมเข้าไปในเนื้อซี่โครง แล้วจึงนำไปอบ หลังจากน้้นไป freeze ไว้ พอลูกค้าสั่งก็นำออกมาอบต่ออีกที แล้วราดด้วยบาร์บีคิวซอส สูตรของทางร้าน แต่งจานให้สวยเสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายส์ เนื้อซี่โครงนี่เปื่อย นุ่ม จนแทบจะหลุดจากกระดูก เคี้ยวเพลินมาก ตอนเจ้าของร้านมารับออร์เดอร์งี้ บอกว่าพี่ไม่เชื่อหนูพี่สั่งจานเล็ก (5 ชิ้น) มาก่อนดีกว่า ตอนกินนี่ แค่คำแรกเรียกพนักงานมาสั่งอีกจาน ณ บัดนาวเลยอ่ะ อร่อยจริง แม่มะลิคอนเฟิร์ม

“สลัดปูอัดไข่กุ้ง” ผักสดมากๆ เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นคนในพื้นที่เอง ทำให้รู้ว่าซื้อผักที่ไหนดีไม่ดีอย่างไร จึงได้เลือกแต่ของดี มาเสิร์ฟลูกค้า อาทิ กรีนโอ๊ค มะเขือเทศราชินี กะหล่ำปลีม่วง แครอท ฯลฯ ผักบางชนิดก็ยังปลูกเองอยู่ เช่น วอเตอร์เกรส ฯลฯ โรยหน้าด้วยปูอัด และไข่กุ้ง ราดน้ำสลัด 2 ชนิด มายองเนส และน้ำสลัดญี่ปุ่นงาดำ แปลกใจน้ำสลัด 2 อย่างในจานเดียว แต่รสชาติเข้ากั๊น เข้ากัน อร่อย แบบสุขภาพดี สีสันจัดจ้าน หมดเรียบอย่างรวดเร็ว

จานหลัก จานอร่อย “ข้าวผัดพริกโหระพาเนื้อเค็ม” จานนี้เชฟนำข้าวสวยไปผัดคล้ายผัดกะเพรา แต่เลือกใช้ใบโหระพาแทน โดยปรุงรสและผัดข้าวคลุกรวมกับ เนื้อทอดหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า พร้อมเครื่องปรุงทุกสิ่งทุกอย่าง ชอบเผ็ดมาก หรือเผ็ดน้อย ก็บอกไป ความร้อนจะทำให้ความหอมของใบโหระพาแทรกซึมลงไปในเมล็ดข้าวทุกเมล็ด เวลาตักเข้าปากกลิ่นหอมของใบโหระพาขึ้นจมูกทุกคำ จานนี้ลืมไม่ลง มีโอกาสไปคราวหน้าแม่มะลิจะสั่งอีก ส่วนท่านที่ไม่กินเนื้อก็สั่งเป็น หมู ไก่ หรือทะเล ได้

เมนูอื่นๆ ที่ขึ้นชื่ออร่อยไม่แพ้กัน อาทิ หอยนิวซีแลนด์ผักโขมอบชีส สปาเก็ตตีขี้เมา โรลผักโขมอบชีส สเต๊กหมูคูโรบูตะ สเต๊กเนื้อฯลฯ กินไปคุยไปเพลิดเพลินจนลืมเวลา คือบรรยากาศในร้านเหมือนกินข้าวบ้านตัวเอง หรือไปกินข้าวบ้านเพื่อน รู้ตัวอีกทีเกือบบ่าย 4 เข้าไปละ

ร้าน 83 CORNER ซอยสวนผัก 32 เปิดบริการมาเกือบ 2 ปี แล้ว แม่มะลิไปกินมื้อเที่ยงลูกค้าเต็มทุกโต๊ะ ส่วนใหญ่ลูกค้าประจำที่เคยมาแล้วก็จะกลับมาอีก แอบส่องโต๊ะอื่น เห็นสั่ง “ซี่โครงหมูบาร์บีคิว” ทุกโต๊ะเลย ท่านผู้อ่านที่มีโอกาสผ่านไป ที่ซอยสวนผัก 32 ลองแวะชิมดูได้ค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง