‘๓ ป.’ ชี้เป็นชี้ตาย – ผักกาดหอม

www.plewseengern.com

ผักกาดหอม

คึกคักจริงๆ

ช่วงนี้ข่าวความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ต้องจับตาอย่ากะพริบครับ

เผลอแป๊บเดียวอาจตามไม่ทัน ไม่รู้ใครจะย้ายไปพรรคไหนบ้าง

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปี ๘ ในปี ๒๕๖๘ ส่งผลต่อทิศทางทางการเมืองของหลายพรรคการเมืองมากทีเดียว

แน่นอนครับพรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์จากกรณีนี้มากพอควร เพราะคนในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคในเครือ “ลุงป้อม” ต้องคิดหนักว่าจะไปต่อกับพรรค หรือย้ายขั้ว ย้ายพรรค

จึงไม่แปลกกับข่าวเลือดไหล!

ที่จริง ส.ส.พลังประชารัฐหลายสิบคนมีรากเหง้ามาจากพรรคระบอบทักษิณ

บางคนย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา

ฉะนั้นโอกาสเลือดไหลออก จึงมีความเป็นไปได้

ทั้งหมดอยู่ที่ความชัดเจนทางการเมืองของ ๓ ป.

“ลุงตู่” ไปหาเสียงเป็นนายกฯ ๒ ปี ในทางการเมืองเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายกับประชาชนว่า พร้อมกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

“ลุงป้อม” ในวัย ๗๗ ปี กับสุขภาพที่ไม่ดีนัก พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีจริงหรือ

“ลุงป๊อก” เวลานี้ถูกเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นทายาททางการเมืองของ “ลุงตู่” ได้

ฉะนั้นการไปต่อ หรือไม่ไปต่อของ ๓ ป. จะเป็นปัจจัยชี้เป็นชี้ตายพรรคพลังประชารัฐ

กรณี “ไปต่อ” ก็ยังเป็นปัญหาว่าไปต่ออย่างไร

การเลือกตั้งครั้งถัดไปจะต่างจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ ค่อนข้างมาก

นอกจากต่างในกติกาแล้ว คู่แข่งทางการเมืองก็ต่างกัน

แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยคือคู่แข่งเบอร์ ๑

แต่พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทย จะเป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้งที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐหมดโอกาสในการเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้

ตามข่าวคร่าวๆ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ๘ คน อาจย้ายไปพรรคภูมิใจไทย

๑.นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท

๒.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ

๓.นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม

๔.นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก

๕.นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี

๖.นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี

๗.นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี

๘.นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี

กลุ่ม ส.ส.กทม.เตรียมจะลาออกต้นเดือนธันวาคม บางส่วนจะย้ายไปกับ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์”

กลุ่ม ส.ส.ปากน้ำ ๖ คน ที่เคยโหวตสวนในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ก็จะไม่ไปต่อ

กลุ่มบ้านริมน้ำของ “สุชาติ ตันเจริญ” ก็จะย้ายกลับพรรคเพื่อไทย

นี่เป็นรายชื่อล็อตแรก

ถ้าล็อตแรกลาออกจากพลังประชารัฐ ล็อต ๒ จะตามมาแน่นอน

ล็อตแรก จะเริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๔ กันยายนที่ผ่านมา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ มาตรา ๑๐๕ เขียนยกเว้นไว้ว่า ในกรณีที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรเหลือไม่ถึง ๑๘๐ วัน เปิดโอกาสให้ ส.ส.ย้ายไปอยู่สังกัดพรรคใหม่ได้

โดยไม่ต้องมีเลือกตั้งซ่อม

ส่วนล็อต ๒ รายชื่อจะเริ่มปรากฏหลังวันที่ ๒๔ ธันวาคมนี้เป็นต้นไป

เป็นวันนับถอยหลัง ๙๐ วัน ของอายุสภาผู้แทนราษฎร ที่กฎหมายกำหนดให้คนที่จะลงสมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน นับถึงวันเลือกตั้ง

เว้นแต่ในกรณียุบสภา ลดเวลาเหลือ ๓๐ วัน

นั่นคือไทม์ไลน์สำหรับ ส.ส.ที่จะย้ายพรรค

ฉะนั้นความเคลื่อนไหวในเงื่อนเวลาดังกล่าวนี้ จึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

แม้ ๓ ป. จะเป็นปัจจัยชี้เป็นชี้ตายพรรคพลังประชารัฐก็ตาม แต่หากเกิดความไม่ชัดเจนในทิศทางของ ๓ ป. การย้ายค่ายของ ส.ส.ก็จะเป็นตัวชี้อนาคตของ ๓ ป.เช่นกัน

ส่วนกลุ่มใหญ่คือ “สามมิตร” มีอยู่กว่า ๒๐ คน ยังเงียบอยู่

หากกลุ่มนี้โบกมือลาด้วยก็จบครับ

ที่จบไม่ใช่อะไร เพราะจำนวน ส.ส.รัฐบาลแทบจะไม่เหลือพอที่จะค้ำบัลลังก์รัฐบาลในสภาได้

มันปริ่มน้ำเกินไป

ยิ่งใกล้เลือกตั้งเท่าไหร่ ส.ส.เลือกที่จะอยู่ในพื้นที่มากกว่ามาประชุมสภา ฉะนั้นสภาล่มจะเกิดขึ้นแทบทุกสัปดาห์

เมื่อสมการเปลี่ยน การตัดสินใจทางการเมืองอาจต้องเปลี่ยนตาม

“ลุงตู่” อาจเลือกยุบสภา! มากกว่าที่จะไปต่อ

ตัวเลขกลมๆ ล่าสุดรัฐบาลมี ๒๖๖ เสียง ส่วนฝ่ายค้านมี ๒๑๒ เสียง

ห่างกัน ๕๔ เสียง

หากยกโขยงลาออกเพื่อย้ายพรรค ส.ส.รัฐบาลที่เหลือแทบต้องนอนเฝ้าสภา

เงื่อนไขการเมืองหลังจากนี้จึงพันกันไปหมด อยู่ที่อะไรจะมาถึงก่อนกัน

นี่ยังไม่นับเสียงกดดันให้ปรับคณะรัฐมนตรีจาก ส.ส.พลังประชารัฐบางกลุ่ม ที่ต้องการโค่น “บิ๊กป๊อก”

ความขัดแย้งภายในนี้รอวันระเบิดอยู่เช่นกัน

ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้มาจากปากคนอื่น แต่มาจากคนในพรรคพลังประชารัฐเอง

วานนี้ (๑๐ ตุลาคม) ไม่รู้ว่า “สายัณห์ ยุติธรรม” ส.ส.นครศรีธรรมราช เผลอพูดหรือตั้งใจ

“..การปรับคณะรัฐมนตรี ถ้าจะมีการปรับ ก็อยากบอกว่าภาคใต้เป็นภาคหนึ่งของประเทศไทย และ ส.ส.ใต้ไม่เคยไม่เคารพมติพรรค โหวตตามมติพรรคทุกครั้ง

ไม่เหมือนบางกลุ่มที่โหวตสวนมติพรรค หากกลุ่มที่โหวตสวนมติพรรคได้รับตำแหน่งทางการเมืองก็กระไรอยู่…”

ก็ตามนั้นแหละครับ!

ฝั่งพรรคเพื่อไทยชัดเจนขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

ดีลจากดูไบน่าจะจบลงไปแล้ว กลุ่มธรรมนัสย้ายไปพรรคเพื่อไทยค่อนข้างชัดเจน แต่ที่ปฏิเสธเสียงแข็งว่า “นายใหญ่” ไม่เกี่ยวก็เข้าใจได้

ขืนรับว่า “นายใหญ่” เป็นคนปิดดีล พรรคเพื่อไทยถูกยุบแน่ เพราะปล่อยให้คนนอกครอบงำ แถมยังเป็นต่างชาติจากมอนเตเนโกรเสียด้วย

และที่ชัดเจนยิ่งกว่าคือ พรรคเพื่อไทยตั้งศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มี ผอ.และคณะกรรมการทั้งสิ้น ๕๕ คน

๒ ในนั้นคือ พานทองแท้ ชินวัตร และแพทองธาร ชินวัตร

นี่เป็นการตอกย้ำสืบทอดการเมืองทางสายเลือด



Written By
More from pp
จำคุก 6 ปี ‘ไอซ์-รักชนก’ โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบัน ผิดม.112
ศาลอาญาสั่งจำคุก 6 ปี ‘ไอซ์ รักชนก’ สส.กทม.ก้าวไกล โพสต์ข้อความ หมิ่นสถาบันฯ ผิด112 ไม่รอลงอาญา ‘ชัยธวัช’ เตรียมใช้ตำเเหน่งยื่นประกัน
Read More
0 replies on “‘๓ ป.’ ชี้เป็นชี้ตาย – ผักกาดหอม”