“ราเมศ” ติง ทุกฝ่าย อย่าข่มขู่ คุกคาม กดดันศาลรัฐธรรมนูญ

www.plewseengern.com

27 กันยายน 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะได้มีการอ่านคำวินิจฉัยกรณีนายกรัฐมนตรีในวันที่ 30 กันยายนนี้ ว่า
หลักการในเรื่องนี้ต้องถือว่าเป็นกระบวนการวินิจฉัยของกระบวนการยุติธรรมคือศาลรัฐธรรมนูญ มีวิธีพิจารณา กระบวนการไต่สวน การรับฟังพยานหลักฐาน รวมถึงการแสวงหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างละเอียด ตรงไปตรงมา เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในท้ายที่สุด

นายราเมศ กล่าวว่าเมื่อเป็นประเด็นที่ร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแน่นอนว่ามีสองฝ่าย ทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง คำวินิจฉัยที่จะออกมาย่อมไม่สามารถที่จะถูกใจใครทั้งหมด แต่บ้านเมืองเมื่อมีกระบวนการให้องค์กรสำคัญคือศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ต้องรับฟังด้วยเหตุและผล ต้องยอมรับและให้เกียรติในอำนาจศาล ไม่เช่นนั้นข้อที่ถกเถียงเป็นประเด็นในสังคมก็ย่อมไม่มีข้อยุติ

ขั้นตอนวิธีพิจารณาที่ตรงไปตรงมาตรวจสอบได้ ทั้งคำวินิจฉัยส่วนตนและคำวินิจฉัยกลาง คดีของนายกรัฐมนตรีก็เช่นกัน เมื่อมีการร้องมายังศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นหน้าที่ที่จะต้องพิจารณาไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และเป็นดุลพินิจของศาล ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่าผลคดีจะมีคำวินิจฉัยออกมาในทิศทางใด ควรรอฟังคำวินิจฉัย

นายราเมศ กล่าวว่า ทุกฝ่ายไม่ควรกระทำการใดในลักษณะ ข่มขู่ คุกคาม กดดัน การทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ตัวอย่างมีให้เห็น การชุมนุม ปี 2552 และ ปี 2553 ก็มีการไปชุมนุมกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขั้นประกาศชื่อที่อยู่ของครอบครัวตุลาการ ข่มขู่ คุกคาม กดดัน ทุกรูปแบบ จนติดคุกกันไปหลายคน เหตุการณ์นั้นผ่านมาเป็น 10 ปี ไม่อยากให้บ้านเมืองต้องวนกลับไปในสถานการณ์เช่นนั้นอีก

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ในส่วนของพรรครอฟังผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่หากคำวินิจฉัยออกมาในแนวทางใดแนวทางหนึ่ง ทุกฝ่ายไม่สามารถคาดการณ์ได้ ในส่วนของพรรคพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเต็มรูปแบบ


Written By
More from pp
รมต.แรงงาน ส่งเลขาฯ เปิดงาน “EEC JOB EXPO 2023” เตรียมตำแหน่งงาน 14,000 อัตรา เพื่อคนชลบุรี
16 มิถุนายน 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมาย ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดงาน “EEC...
Read More
0 replies on ““ราเมศ” ติง ทุกฝ่าย อย่าข่มขู่ คุกคาม กดดันศาลรัฐธรรมนูญ”