เปลว สีเงิน
เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ
ดูท่าฝนฟ้าจะอำนวย ลากยาวเป็นเรื่อง “รามเกียรติ์+สามก๊ก” ไปจนถึงปลายปี
ฉะนั้น ไม่เพียงกทม.และปริมณฑล
ทั้งเหนือ, อีสาน, กลาง “อัตตาหิ อัตตโน นาโถ” ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เตรียมเสบียงกรัง ข้าวปลาอาหารแห้ง สัตว์เลี้ยง และข้าวของทองเงินกันไว้ให้พร้อม นั่นแหละดี
เฉพาะในกทม.น่ะ ผมไม่ห่วงหรอก!
ใช่ว่าจะไม่ท่วม แต่ที่ไม่ห่วง เพราะกทม.มีมนุษย์วิเศษผู้แข็งแกร่งในปฐพีเป็นผู้ว่าฯ
ลองถึงขั้นรับประกันตัวเองตอนหาเสียงว่า “ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าอาสามาเป็นผู้ว่าฯ”
ฉะนั้น ผม “หมดห่วง” เรื่องน้ำท่วมกทม.
ถ้าท่วม แล้วเขาทำไม่ได้อย่างที่พูด คำพูดมันก็จะกลายเป็น “คำโม้” ผสม “ขี้ฟัน” ล้วนๆ
แล้วเขาจะตากหน้าดูดขี้ฟันตัวเองอยู่ได้อย่างไร?
ขืนอยู่ อย่าว่าแต่ “เสียคน” เลย ในเชิงเปรียบเทียบ ชาวบ้านเขาเปรียบว่า
“เสียถึงหมา” ขนาดนั้นเลย!
แต่ตอนนี้ ผมก็ชักหวั่นๆ อยู่เหมือนกันนะ เพราะเดินซอยแถวบ้านไปตลาด ปกติมีนักเลงคุมอยู่ ๔-๕ ตัว มันปรี่เข้ามา
แต่ผมเป็นผู้ชำนาญการเรื่องหมา จึงใช้ความสงบสยบเสียงแฮ่
เพราะตอนเป็นเด็ก เคยถูกไล่งับ พอจมูกมันชนก้น…เย็นแว๊บ
ผมโจนโครม ลงท้องร่องสวนเลย!
ทีหลังเลยได้วิชา เห็นหมาที่ไม่ซี้กัน อย่าไปจ้องตามัน ทำเป็นใจดีสู้หมา แล้วเดินไปเรื่อยๆ อย่างดีมันก็แฮ่ๆ วิ่งไล่ซักพัก เมื่อเราไม่สน มันก็หยุด
แต่ถ้าเราหยุด หันหน้าไปจ้องมัน มันโดดฟัดเลย!
หมานี่ มันศักดิ์ศรีสูงนะ
การจ้องตา-สบตา ถือเป็นการท้าทาย ทำนอง…มึงแน่เรอะ เอากะกูมั้ย ประมาณนั้น!
ฉะนั้น เราอย่าไปฟัดกะหมา สู้มันไม่ได้หรอก ยอมๆ ให้เกียรติมันบ้าง
ที่เล่านี่ คือจะบอกว่า สี่ซ้าห้าวันที่ฝนตก หมาในซอยมันดูหงอยๆ เจอแล้วหลบๆ เลี่ยงๆ
ไม่เห่าเสียงดัง เหมือนตอนเดือนพฤษภา. มีแต่เสียง งื๊ดๆๆๆ เหมือนหมาหนาวฝน
เรื่องฝน เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์น่ะ….
ผมจำที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ท่านโขมงโฉงเฉงตอนหาเสียงได้
แต่คงเก่งเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์กับด้านไลฟ์สดศาสตร์แค่นั้นจริงๆ
ส่วนด้านบริหารงานและการบริหารบุคคล รวมทั้งด้านอุทกศาสตร์ คงไม่เป็นประสาเลย
ฝนตกขนาดนี้ ไม่ท่วมก็แสดงว่า กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนยอดเขาหิมาลัย ฉะนั้น น้ำท่วมขังกทม. “รอระบาย” เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ไม่ว่า คนไหนมาเป็นผู้ว่าฯกทม.ผมก็ไม่ตำหนิ ถ้าทำให้ระดับผู้ว่าฯ อัศวิน
สมัยคุณอัศวินเป็นผู้ว่าฯ ฝนก็ตก น้ำก็ท่วม บางจุดไม่กี่ชั่วโมงก็แห้ง บางจุดแถบชานเมือง ถ้าตกกลางคืน ตอนเช้าก็แห้งแล้ว
แต่มาถึงชัชชาติ ที่คุยว่าศึกษางานกทม.มา ๒-๓ ปี พูดคล่องน้ำไหล-ไฟดับ รู้หมด ทุกซอกที่ซ่อนเร้น และทุกปัญหากทม.
แค่เจอฝนกลางพรรษาเข้าหน่อย ขอโทษ….สภาพเหมือน “หมาหลงกลางฝน”!
ไปไม่ถูก ทำไม่เป็น เงอะงะ-งงงัน ได้แต่โทษนั่น-โทษนี่ เหมือนเอา “หนังผี” กับหนัง “ผู้แข็งแกร่งในปฐพี” มายำเป็นม้วนเดียวกัน!
เพราะสภาพนี้แหละ เสียงด่า “ชัชชาติขี้โม้” จึงกลบเสียงอวย “ชัชชาติโลกสวยแดงส้ม”
“กองอวย” ที่ออกมาแก้ตัวให้ชัชชาติว่า “ถูกวางยา” นั้น
ผมจะบอกว่า “วาง-ไม่วาง” ช่างมัน
แต่พวกมึง “วางถุงกาว” ก่อน ดีมั้ย?
เหตุที่เสียงด่ากลบเสียงอวย แม้กระทั่งจากคนเคยอวยมาก่อน นั่นเพราะอะไร รู้มั้ย?
หลักๆ คือ ไม่ใช่เพราะน้ำท่วม แต่เพราะหมั่นไส้ โม้แล้วทำไม่ได้ ทั้งการบริหารงานที่ไม่เป็นทั้งสับปะรด ทั้งบักนัด
เคยหวังไว้สูง แต่เอาเข้าจริง ต่ำมาตรฐาน ถึงขั้น “ติดลบ”!
มีที่ไหนในโลก…..
ขนาดผู้รักษาการตำแหน่งนายกฯ “พลเอกประวิตร” โทรไปหา ด้วยห่วงใย เพราะมองเห็นว่า “อุบัติภัยธรรมชาติ” จากฟ้าฝนหนักแน่
กทม.มีแผนรับมือแล้วหรือยัง ขาดเหลือเครื่องไม้-เครื่องมืออะไร ต้องการเอาทหารไปช่วยยังไง ก็ให้รีบประสาน-รีบบอก จะช่วยกัน
หนอยแน่ะ….
ไอ้กองอวย ดันเอาไปเบิ้ล “รัฐบาลมาอิงชัชชาติ” ซะงั้น!
สรุปแล้วทั้งคณะ ตั้งแต่ผู้ว่าฯ ตัวรอง ตัวอะไรมิต่ออะไรที่ตั้งกันไปเข้าเป็นทีม “แดงส้มผสมเอ็นจีโอ” บริหาร
ล้วน “งานเป็นตรี-เซลฟี่เป็นโท-โม้เป็นเอก”
และโพสต์แซะ “ประยุทธ์ออกไป” เป็นระดับอภิมหาศาสตราจัญไรศาสตร์ แทบทั้งทีม!
นี่แค่ฝนตกระดับทดสอบ ยังไม่เป็นประสา
แล้วตกตุลา-พฤศจิกา.ตามที่ผู้ชำนาญทางฟ้าฝนเขาเตือน จะหนักกว่านี้ มรสุมคลุ้มคลั่ง ทั้ง” น้ำเหนือมา-น้ำป่าหลาก-น้ำทะเลหนุน”
คนกรุงมิต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนภูเขาทองกันรึนั่น!?
“บิ๊กป้อม” เห็นอย่างนั้นเถอะ ลึกๆ แล้ว ยังมีวุฒิภาวะนักบริหาร สมกับเป็นผู้ใหญ่ และเป็นผู้มองการณ์ไกล
เมื่อวาน (๑๔ กย.๖๕) เหมือนผู้ปกครองจูงมือลูกไปเข้าโรงเรียน ท่านต้องออกไปดูพื้นที่ชานเมืองเอง เอาของไปแจกชาวบ้าน
และเท่าที่ฟังท่านตั้งประเด็นซักถามชัชชาติที่กางแผนที่รายงาน ท่านถามเข้าจุดเป๊ะๆ ในเสียงถามต่อหน้าสาธารณชนนั้น
บิ๊กป้อมมีศิลปะ ในประเด็นที่ถาม แฝงไว้ซึ่งการตำหนิในการทำงานของชัชชาติ แต่เคลือบไว้ด้วยการไว้หน้า ต่อสาธารณชน
“มีปัญหาก็ให้ปรึกษากับหัวหน้าเขตเขา”!
ตาย…ตาย…ตาย…
แบบนี้ตายเลย เท่ากับบอกว่า
๑.ชัชชาติไม่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารคน
๒.ชัชชาติไม่ได้รับการยอมรับและการร่วมมือในการทำงานกับหัวหน้าเขตแต่ละเขต
๓.ชัชชาติยังหลงตัวและงมงายอยู่กับเสียงอวยของพวกแดงส้มและเอ็นจีโอที่ต่าง “สมประโยชน์” กันมาตลอด
๔.ชัชชาตินึกว่าการจัดอิเวนท์ คือผลสำเร็จของคนเป็นผู้ว่าฯ
๕.ชัชชาติไม่รู้จริงกายภาพกทม.และปัญหากทม.เลย จึงสั่งงานไม่ถุูก และทั้งไม่ได้รับความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เขต
หัวหน้าเขตและละเขตนั้น….
ถ้าไม่ “เขี้ยว” จริง ไม่ได้เป็นหรอก!
ดังนั้น เมื่อชัชชาติยกโขยงเข้ามาในเชิง “พวกข้า…คนรุ่นใหม่” ตั้งเป้าเป็นปฎิปักษ์กับพวกเขา
เขาจึงทำแค่ “ตามหน้าที่” เพราะพวกเขารู้ดี เจอฝนตก-น้ำท่วม สั่งงานไม่เป็น ก็เจ๊งแล้ว
ซึ่งก็จริง ไม่มีใครโทษ “แต่ละเขต” ทั้งหมดยักลงต่ำที่ “ผู้ว่าฯ” คือชัชชาติคนเดียว
ไอ้กองอวย พยายามช่วยเบี่ยงกระแส โทษชัชชาติไม่ได้ ต้องไปโทษรัฐบาลโน่น…น้ำท่วม!
๖ เดือน ยังเละ เหลวเป๋ว ผันเงินแก้น้ำท่วมไปเป็นเงินท่องเที่ยงอ้างสัมมนากันขนาดนี้
แล้วอีก ๓ ปี ๖ เดือน เห็นทีจะต้องไปจองคอนโดฯ ใต้เมืองบาดาลไว้ล่วงหน้าซักยูนิตแล้ว
กายภาพกทม.เท่าที่ ผู้ว่าฯ อัศวินทำไว้ ทั้งด้านความเป็นระเบียบ ไม่ปล่อยปละให้พ่อค้า-แม่ขายยึดทางเท้าทำเละเทะ ทั้งด้านความสะอาด และด้านบริหารน้ำท่วม
ยังพอให้ชัชชาติ “เกาะผลงาน” เขากิน ได้อีกซักพัก
ฉะนั้น ใช้ช่วงเกาะผลงานเขากินนี้ เอาเวลาไป “ปรับทัศนคติ” กับระดับผู้บริหารเขต
เรียนรู้ปัญหาพื้นที่จากเขา รู้จักคำว่า “งูดิน-งูเจ้าถิ่น” ไว้บ้าง เพื่อจะได้รับความร่วมมือในการทำงานในแต่ละเขต
ไม่ใช่เพื่อเสริมบารมีผู้ว่าฯ หรอก
หากแต่ว่า พ่อพวกเทวดาแดงส้มเหาะเหล่านี้ ไม่ยอมเห็นหัวเจ้าหน้าที่ ฝ่ายที่เดือดร้อนโดยตรง คือชาวบ้านในแต่ละเขตนั่นแหละ
“สภากทม.” ซึ่งเป็นสภาสก.แดงส้ม รู้สึก-รู้สาอะไรกับปัญหาพื้นที่บ้าง เข้าไปแล้ว งานแรก เอางบมาหารแบ่งกันสนุกสนาน
อย่าให้มันเข้าตำรา “โกงเอามาแบ่งกัน” ในยุคสภาเบ็ดเสร็จระบอบทักษิณให้เร็วนัก!
สรุปแล้ว เรื่องปัญหา “ฝนตก-น้ำท่วม” ในกทม.ตอนนี้ เป็นสัญญานบอกว่า ไว้ใจผู้ว่าฯชัชชาติกับทีมบริหารไม่ได้
รัฐบาลต้องลงมา “คุมแผนใหญ่” รับมือ ๒ เดือนข้างหน้าเองแล้ว!
ปล่อยชัชชาติน่ะ ชัชชาติไม่พังหรอก เพราะเขาหนา
รัฐบาลนั่นแหละ….
เมื่อประชาชนเดือดร้อน เขาก็จะด่ารัฐบาล และพวกแดงส้มก็จะสร้างกระแสผสม ถลมด่านายกฯ ประยุทธ์!
เอ้อ….
รู้แล้วใช่ไหมครับ เรื่อง ๘ ปีนายกฯ
เมื่อวาน “ศาลรัฐธรรมนูญ” กำหนดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ
และนัด “อ่านคำวินิจฉัย” แล้ว ในวันศุกร์ที่ ๓๐ กันยา.เวลา ๑๕.๐๐ น.
ก็รอฟังวันสิ้นเดือนนะ ถ้าถามว่าผลจะออกมาเช่นไร?
เอางี้…
ฟังสิ…ฟัง ตอนนี้ เพื่อไทยเขาว่าไงกัน ถ้ามั่นใจว่า ๘ ปี นับจาก ๒๕๕๗ ลุงตู่ เสร็จแน่ เขาก็จะเงียบ กระดิกตีนรอฟัง
แต่นี่กลับตะโกน “ให้ลาออกไปเอง”!
แบบนี้ หมายความว่าไง ง่ายกว่าตัวเลขในขันน้ำมนต์เจ้าพ่อศรีสุทโธซะอีก!
เปลว สีเงิน
๑๕ กันยายน ๒๕๖๕
