ครับ……….
ก็เป็นไปตามที่จั่วหัวไว้นั่นแหละ คือตั้งแต่ช่วงสันตติกาลคืนวันที่ ๒๗ สืบต่อวันที่ ๒๘ กค.เว็บ plewseengern.com ไม่สามารถสนองตอบขาจร-ขาประจำที่เปิดเข้ามาดูข้อมูลข่าวสารได้
สัญญานชีพเว็บเพิ่งถูกปั๊มขึ้นมาตอนเช้าแก่ๆ นี่แหละ สอบถามไปทางคนดูแล เขาก็บอกว่า ถามไปที่ host แล้ว เขาตอบกลับมาว่า traffic ล้น คนเข้าเว็บเยอะเกิน แล้วเขาบอกจะเปิดให้ใช้ก่อน ส่วนการแก้ไขไม่ให้ปัญหาอย่างนี้เกิดอีก เขาไม่ได้บอก เพียงบอกว่า “เปิดให้ใช้ก่อน”
ครับ..ใช้ก่อนก็ใช้ก่อน
ผมเลยต้องมาบอกกล่าวราวเรื่องให้ทราบ เกรงบางท่านจะนึกว่ามีใครเข้ามาแกล้งก่อกวน คือเว็บเราถึงไม่สวยเหมือนช่อมาลีบานฉ่ำก็จริง แต่น่ารักจะตายไป ฉะนั้น อย่านึกในทางร้ายกับใคร ใจเราจะเหม็นคาวเปล่าๆ
กรณีนี้ทำให้ต้องคิดว่า ทุกวันนี้ วงจรชีวิตไม่เพียงคน ต้องบอกว่า “โลกทั้งใบ” ตกอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมของไอที พูดให้เห็นเป็นรูปธรรม สังคมโลกทุกวันนี้ อยู่ใต้คอนโทรล Google Facebook ด้วยกองทัพระบบ Big Data Cloud AI
IOT ที่มีอาจารย์กูและเฮียมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เป็นผู้บัญชาการใหญ่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งหมดในความเป็นสังคมโลก รวมศูนย์ด้วยระบบเหล่านี้ นั่นก็คือ ไม่ว่าฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายแค้น ฝ่ายสังคมนิยม ฝ่ายประชาธิปไตย จะรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ รุ่นสัมภเวสี รุ่นสามเหลี่ยมจับปิ้ง ผยองเพ้อเจ้อกันไปเหอะ
แต่ให้รู้ไว้ ตรงเอ็นร้อยหวาย และรูจมูกทุกคนในโลก ถูกอาจารย์กูและเฮียมาร์ก ร้อยเชือกรั้งไว้เบ็ดเสร็จนานแล้ว
แค่เขาบอกว่า วันนี้ “เฟซล่ม” โว้ย โลกทั้งใบก็จบแล้ว!
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะทุกข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารติดต่อกันทุกชนิด รวมทั้งปูมประวัติชีวิต การเงิน การทอง การทำธุรกิจการค้า รวมถึงการสงคราม การปล้น การสอน การศาสนา การปลุกระดม การรับจ้างโพสต์ แม้กระทั่งการกิน การนอน การอยู่ การขับเคลื่อนทุกชนิด
เขาว่า “ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก ขาดแม่เหมือนแพแตก” อันที่จริงไม่มีใครว่า ผมเขียนบรรยายภาพใต้ภาพไว้เอง สมัยเป็นหัวหน้าข่าวอยู่ไทยรัฐเมื่อ ๓๐ ปี ก่อน
แต่โลกตอนนี้ ถ้าขาด กูเกิ้ล เฟซบุก จะยิ่งกว่าเพลงวณิพก ของพี่แอ๊ด เพราะของพี่แอ๊ดแค่ “ดวงตาฉันมันมืดมิด แต่ชีวิตฉันยังไม่มืดลง”
แต่ถ้าโลกขาดกูเกิ้ล เฟซบุก ทั้งตาก็จะมืดมิด ทั้งชีวิตพลโลก ก็จะมืดลงไปพร้อมกัน
ตายมั้ยพี่น้อง แบบนี้!
นี่แหละ New World Order อำนาจเดียวครองโลก ในความเป็น “รัฐบาลโลก” ตามเป้าหมายขบวนการลับ ที่เริ่มแนวคิด “รวมโลกเป็นหนึ่งเดียว” มาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๑ จนถึงทุกวันนี้ และขณะนี้ขับเคลื่อนด้วยขบวนการที่เราเริ่มรู้จัก คือ CFR
เราสรุปเป็นความเข้าใจว่า สหรัฐฯ คือตัวการใหญ่ที่บงการ-วางแผน ขับเคลื่อนองคาพยพเหล่านั้น ชักใยอยู่เบื้องหลัง
ทั้งอาจารย์กูและเฮียมาร์ก ก็แค่ “นอมินี” เหมือนเฮียพงษ์ และคนชื่อหน่อย แต่หญ่ายมากกกคนนั้น ใช้ฉากประชาธิปไตยขับเคลื่อนขบวนการแตกแบงก์พัน สู่ระบบ “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา”
นั่น…ถูกครึ่งเดียวครับ!
เพราะลึกลงไปถึงแก่น ประเทศสหรัฐฯเองก็ตกอยู่ใต้กลไกการควบคุมของสมาคมลับ Freemasonry, Illuminati, Skull and Bones อีกที
ฉากหน้า เป็นตัวขับเคลื่อน “จัดระเบียบโลกใหม่” สู่ศตวรรษที่ ๒๑ ด้วยองค์กร Council on Foreign Relations ที่เรียก CFR
แต่ฉากหลัง ล้วนขับเคลื่อนด้วยตระกูลใหญ่ทรงอำนาจในยุโรป อันต่อเนื่องจากตระกูล-สู่ตระกูลมาเรื่อยๆ เป็นร้อยๆ ปี เรียกว่า เศรษฐกิจ-สังคม-อำนาจ ในยุโรป-สหรัฐฯ อยู่ภายใต้กลไกสมาคมลับเหล่านั้น
ศตวรรษนี้ กลุุ่มตระกูล Warburg ที่เข้าไปผสมพันธุ์กลมกลืนในสหรัฐฯ ร่วมกับอีก ๘ กลุ่มตระกูลผู้ทรงอิทธิพล ควบคุมเศรษฐกิจ-สังคม และการเงินโลก โดยตั้ง “ธนาคารกลางสหรัฐ” Federal Reserve Bank ที่เรียกกันว่า เฟดๆ ที่กำหนดดอกเบี้ยขึ้น-ลง ลากตลาดเงิน-ตลาดทุน ให้ดีใจ ร้องไห้กันแต่ละวันทั้งโลก นั่นแหละ
สืบสานไปแล้วก็ “ยิว” ร้อยละ ๙๙ คือกลุ่มทรงอำนาจสูงสุดในการควบคุม-ดำเนินการ ทั้งตัวประเทศสหรัฐเอง รวมทั้งอาจารย์กู เฮียมาร์กอีกที
เฟด กระทั่งแบงก์โลก องค์การสหประชาชาติ นั่นก็ล้วนถือกำเนิดเกิดขึ้นภายใต้กลไก “อำนาจเดียวครองโลก” นี้ทั้งสิ้น
เฟด ที่เรียกว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ” อย่าเข้าใจว่าเป็น “แบงก์ชาติของสหรัฐฯโดยสหรัฐ” เหมือน “แบงก์ชาติ” ของเรานะ
สหรัฐฯแค่ “ผู้ถือหุ้น” คนหนึ่งในจำนวนแบงก์เอกชนผู้ถือหุ้นอันดับต้นๆ ๘ แบงก์ใหญ่ในยุโรป-สหรัฐ ซึ่งล้วนอยู่ในเครือข่ายสมาคมลับที่มาผสมพันธ๋ร่วมขยายฐานเศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง คุมโลกผ่านสหรัฐฯทั้งสิ้น ในโฉมหน้า เฟด
ออกอ่าว-ออกทะเล มาตั้งนาน ก็อยากจะบอกว่า ถ้าเกิดสงครามโลกจริงๆ ไม่มีใครชนะสหรัฐฯได้หรอก
เพราะ “ข้อมูล” ทั้งหมด ไม่ว่าส่วนโลก ส่วนบุคคล ส่วนการเงิน การคลัง กระทั่งการสงคราม ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย ล้วนกลไกไอทีทั้งนั้น
นั่นคือ แค่ใครแตะสวิตซ์อะไร ยังไม่ต้องยิง ไม่ต้องกด ด้วย IOT อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิ้ง สหรัฐฯ รู้ก่อน รู้หมดแล้ว ว่ามึงจะทำอะไรกัน!
เว้นแต่ประเทศไหน เช่น จีน พัฒนานวัตกรรมไอที สร้างระบบใหม่เป็นของตัวเอง เรียกว่าปลดแอก พ้นจากความเป็นทาส กูเกิ้ล เฟซบุก ประกาศอิสรภาพด้วยฐานข้อมูลใหม่ สร้างเป็น “ระบบใหม่” ของตัวเองได้ละก็
ค่อยเยิ่นกับสหรัฐฯ “แมวเชื่อง” ในมือยิวได้มันยกร่อง พอๆ กับตู่น้องประกาศตัดพี่-ตัดน้องกับตู่พี่ “กลางสภา” ประมาณนั้น
ด้วยสมมุติฐานที่ผมคิดเอง-เออเองนี้ ทำให้ต้องฟุ้งสร้านต่อว่า ที่เฮียมาร์กกำลังผลักดันเงินเฟซบุกคอยน์ ที่เรียก Libra ออกใช่้นั้น ด้วยฐานะ “ทาสไอที” เมื่อเขาบอกว่าดี ก็ต้องดีไปตามเขา
แต่ถ้าจู่ๆวันไหน-ชั่วโมงไหน อาจารย์กู เฮียมาร์ก บอก “เน็ตล่ม” เฟซบุกใช้ไม่ได้
ทาสไอทีทั้งหลาย-ทั้งโลก…..
ไม่ชักแหง่กๆ ตายกันหมดหรือ ด้วยทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกอย่างสลายหายไปในอากาศ เหลือแต่ลมที่ผายจากก้นอย่างเดียว
หรือที่ไหน ช่วงไหน ไฟดับ แบตหมด ไวไฟไม่มี ชีวิตที่อยู่กิน จับจ่ายด้วย Libra ไม่ประสาทแด๊กเหมือนพ่อของฟ้าสายตะพายหลุดเดินสายเพ่นพ่านไปทั่วหรือ?
ทุกอย่าง ในดีมีร้าย,ในร้ายมีดี ประเด็นสำคัญที่อยากบอก คือ
จงอยู่กับโลกจริงแบบรู้ทัน และไม่ประมาท
ไม่ประมาทแล้วควรทำอย่างไร ในยุคสังคมโลกปรับเปลี่ยนที่ยากคาดเดาไปทางใด-ทางหนึ่งได้ชัดเจน?
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลดอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ทรงตรัสบอกทางนั้นไว้ให้แล้ว ตั้งแต่ปี พศ.๒๕๑๗ และทรงย้ำเตือน และทรงขยายความให้เข้าใจกันมาทุกปี ตราบพระชนมายุสังขาร
คือ เขาจะไปโลกพระจันทร์ พระอังคาร โลกวิทยาการไอทีสูงสุดทะุลจักรวาลขนาดไหน เขาไป เราก็ไปกันกับเขา
แต่สิ่งสำคัญ เราต้องมีก๊อก ๒ สำรอง พร้อมเป็น ก๊อก ๑ เมื่อโลกวิทยาการใหม่หมดพลังขับเคลื่อน กลายเป็นขยะอากาศ หล่นคืนสู่โลก
เขาตายกันพรึ่บๆ
แต่เราจะไม่ตาย กลับงอกขยาย โตใหญ่พรึ่บๆด้วย ก๊อกสำรอง ตามที่ “พระบรมนาถบพิตร” ทรงมองทางไกล และตรัสบอกทางนั้นไว้กับลูกๆ เหล้าพสกนิกร คือ
ทาง”เศรษฐกิจพอเพียง”นั่นแล!