สันติ อิ่มใจจิตต์
ชื่อร้าน เจี่ยวจือ
เจ้าของ คุณพนิตนันท์ (แจน) พัฒนยินดี
สถานที่ ตลาดสามย่าน ถนนพระราม 4 วิธีเดินทาง จากหัวลำโพงมาตามถนนพระราม 4 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยจุฬาภรณ์ 5 เข้าไปไม่ไกลจะพบป้อมเข้าที่จอดรถ ด้านขวามือจะพบ Block 28 Creative & Start up Village ร้านอยู่ที่อาคาร A คูหาที่ 3 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. โทรศัพท์ 08-3983-6589 หยุดวันจันทร์
คุณนุชจรินทร์ เฉลิมบุญ เจ้าหน้าที่ส่วนสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรและสนับสนุนการตลาด สำนักงานทรัพย์สินจุฬาฯ ได้โทรศัพท์มาแนะนำว่ามีร้านอาหารจีนอร่อยมาเปิดในโครงการ Block 28 Creative & Startup Village ที่เธอดูแลอยู่
จะไม่ให้ไปชิมได้อย่างไร เพราะร้านที่เธอบอกนั้นชื่อร้านว่า เจี่ยวจือ เพียงแค่ชื่อร้านก็น่าสนใจแล้วครับ
สอบถามเจ้าของร้าน คือ คุณพนิตนันท์ (แจน) พัฒนยินดี ก็ได้ความว่าตัวเธอเองนั้นเรียนจบการศึกษาจากคณะสถาปัตย์อินเตอร์ (INDA) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ไปทำงานที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ระหว่างที่ทำงานก็ใช้ชีวิตแบบคนจีน เช้าก็ขี่จักรยานไปทำงาน กลางวันก็ลงมากินอาหารกลางวัน มีร้านประจำที่กินทุกๆ วัน คือ ร้านขายเกี๊ยว มีคนจีนกินกันเยอะ เพราะรสชาติอร่อยมาก
กลับมาทำงานที่เมืองไทย ก็ยังติดอกติดใจในรสชาติของเกี๊ยวร้านที่ว่าอยู่มิวาย เพราะไม่เหมือนเกี๊ยวบ้านเรา จึงชักชวนคุณพ่อ คือ คุณวีรพันธ์ พัฒนยินดี ซึ่งเป็นมาสเตอร์เชฟและยังเป็นเจ้าของร้านขายอาหารไทย-อิตาเลียน ที่มีบรรยากาศดี อาหารรสชาติอร่อย ชื่อเสียงโด่งดังมากอยู่ใกล้สวนสมเด็จย่านศรีสมาน คือ ร้าน PATA PLANTATION ให้บินไปปักกิ่ง เพื่อไปเรียนวิชาทำเกี๊ยวสูตรโบราณโดยเฉพาะ
ซึ่งชาวจีนที่สอนให้อยู่ในตรอกเล็กๆ บ้านก่ออิฐเก่าๆ ในเมือง Hutong เรียนจนจบทั้งการทำแป้งการทำไส้ ทำได้เหมือนเจ้าของสูตรต้นตำรับ กลับมาเมืองไทยก็ทดลองแล้วทดลองอีก และได้ยังปรับเปลี่ยนสูตรให้เข้ากับรสชาติแบบไทยๆ
เริ่มเปิดร้านแรกที่สวนหลวงสแควร์ มีลูกค้าไปอุดหนุนจนรับลูกค้าไม่ไหว เพราะเป็นอาหารที่แปลกแต่มีรสชาติอร่อย จึงต้องขยับขยายมาเปิดร้านเจี่ยวจืออีกแห่งที่ Block 28 Creative & Startup Village
เดินเข้ามาภายในร้านจะพบว่าร้านตกแต่งแบบจีนสมัยใหม่ ถ้าไม่ทราบมาก่อนก็จะนึกว่านั่งอยู่ในกรุงปักกิ่งด้วยซ้ำไป ร้านมีที่นั่งไม่มากนักมีเมนูแนะนำพร้อมทั้งรูปถ่ายและราคาให้เลือกอย่างชัดเจน
มีทั้งเมนูเส้น เมนูข้าว และที่พลาดไม่ได้คือ เกี๊ยว เพราะชื่อของร้านว่า เจี่ยวจือ นั้นแปลว่า เกี๊ยว มีทั้งเกี๊ยวนึ่งและเกี๊ยวทอด ให้ได้เลือกชิมสำหรับเมนูที่ขอแนะนำก็เช่น
เกี๊ยวหมูต้นตำรับ เป็นสูตรแท้ๆ จากปักกิ่ง ตัวเกี๊ยวจะหนากว่าเกี๊ยวของไทย แต่เหนียวนุ่มเคี้ยวสนุกมีไส้เป็นหมูผสมเห็ด พนักงานจะยกออกมาพร้อมน้ำจิ้ม แต่ถ้าไม่ชอบใจทางร้านก็มีมุมน้ำจิ้มให้เลือกได้ทำเองตามใจชอบ มีทั้ง งาบด พริกขี้หนู หมาล่า ซอสเสฉวน
แต่ถ้าจะให้มีสีสวยงามขอแนะนำให้สั่ง เกี๊ยวหยิน-หยาง มาชิม ซึ่งจะมีเกี๊ยวนึ่งสีขาวและสีดำวางสลับกันเป็นหยินหยาง แปลกตาน่ากินครับ
เกี๊ยวหมูเสฉวนหมาล่า เป็นเกี๊ยวนุ่มๆ คลุกเคล้าด้วยซอสหมาล่าไม่เผ็ดจัด แต่จะมีรสซ่า เผ็ดๆ ของหมาล่าแทรกเข้ามาทำให้รสชาติอร่อยมากขึ้น
เกี๊ยวผักโขมเพสโต้ เป็นเมนูที่ผสมผสานระหว่างเกี๊ยวจีนและอาหารฝรั่งอย่างลงตัวน่าชิม
เมี่ยงเป็ดปักกิ่ง เป็ดปักกิ่งของที่นี่จะใช้ทั้งเนื้อและหนังปรุงรสอย่างดีรสชาติเข้มข้นเข้าถึงเนื้อเป็ด กินคู่กับแผ่นแป้ง ผัก ซอส หมี่กรอบ จะเข้ากันได้อย่างลงตัว ยิ่งเคี้ยวยิ่งมันอร่อยจนต้องต่อคำที่สองที่สามเชียวครับ
ข้าวหมูสามชั้นย่าง เมนูนี้เชฟจะนำหมูสามชั้นไปหมักแล้วนำไปตุ๋นจนเข้าเนื้อ เสร็จแล้วนำไป Burn จนหอมกลิ่นควันไฟ เนื้อหมูจะนุ่มเปื่อยจนแทบจะละลายในปาก แถมได้ความหอมจากการ Burn ส่วนของผมนั้นราดด้วยพริกน้ำปลาลงไปด้วย ก็จะอร่อยจนบรรยายไม่ถูกครับ
บัก เกี๊ยว เต๋ เป็นเมนูที่คิดว่าจะมีอยู่ที่เดียว โดยเชฟจะใช้เกี๊ยวมาใส่กับซี่โครงหมูพร้อมน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม โดยมีเกี๊ยวกรอบแทนปาท่องโก๋ กินแล้วชื่นใจดี
เมนูที่พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดเป็นทีเด็ดของร้าน ใครไปมาต้องสั่งกันแทบจะทุกโต๊ะ ก็คือ
ช้วน ล่า เฟิ่น คล้ายๆ กับวุ้นเส้นต้มยำของไทยแต่อร่อยกว่ากันมาก โดยเชฟจะนำเข้าวุ้นเส้นจากประเทศจีน ไม่เหมือนวุ้นเส้นของไทย น้ำซุปแบบสไตล์จีนเป็นส่วนประกอบของซุปกระดูกหมู พริก จิ๊กโฉ่ พริกหมาล่า พริกเผาจีน ถั่วลิสง หมู กะหล่ำปลี ผักชี รสชาติกลมกล่อม อร่อยมากครับ
ส่วนของหวานที่พลาดไม่ได้ก็คือ พุดดิ้งชาเขียวถั่วแดง รสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมไม่แข็งกระด้าง หอมกลิ่นชาเขียว อากาศร้อนๆ กินแล้วชื่นใจครับ