“พิชัย” เหมือนห่วงใย “ลุงตู่” ชี้ปล่อยดีเซลเกิน 30 บาท ทำเงินเฟ้อพุ่ง เดือดร้อนกันหนัก  รัฐบาลกู้มาก ไทยต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้สาธารณะปีละ 2.4-3 แสนล้านบาท แนะ ศึกษาภาพรวมเศรษฐกิจ ประคองราคาดีเซล และ คุมเงินเฟ้อ

18 เมษายน 2565-นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จะเลิกอุ้มราคาน้ำมันดีเซลตำ่กว่า 30 บาท โดยจะออกให้บางส่วนแทน โดยอ้างว่าเป็น 1 ใน 10 มาตรการช่วยเหลือ แต่ที่จริงเป็นการเพิ่มภาระค่าครองชีพของประชาชนมากกว่าจะลดภาระ ซึ่งผลของการปล่อยให้ราคาน้ำมันดีเซลเกินกว่า 30 บาทจะส่งผลกระทบให้ต้นทุนสินค้า ต้นทุนค่าขนส่งต้องปรับขึ้นหมด ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าทุกชนิดปรับราคาขึ้น สร้างความเดือดร้อนซ้ำเติมให้กับประชาชนที่ลำบากกันอยู่แล้วให้หนักยิ่งขึ้น

อีกทั้งการปล่อยราคาน้ำมันดีเซลให้ทะลุเกิน 30 บาทจะทำให้เงินเฟ้อของไทยที่สูงอยู่แล้ว ยิ่งสูงมากขึ้น โดยล่าสุดเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมพุ่งสูงถึง 5.73% สูงที่สุดในรอบ 13 ปี ขนาดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยยังต้องส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รมว. คลังเลยว่าคุมเงินเฟ้อไม่อยู่และปีนี้เงินเฟ้อคงทะลุเกิน 4.1% แน่นอน

ทั้งนี้ หากเงินเฟ้อของไทยพุ่งสูงมาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยตามทิศทางของดอกเบี้ยโลกที่ธนาคารกลางของสหรัฐจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยอีกเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยต้องแบกรับภาระกันมากขึ้น

ทั้งนี้ คนไทยส่วนใหญ่ อาจจะยังไม่ทราบว่าการที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์กู้เงินจำนวนมากจนหนี้สาธารณะจะพุ่งเกิน 10 ล้านล้านบาทแล้วนั้น ต้องมีภาระจ่ายดอกเบี้ยอย่างมากยังไม่รวมถึงการชำระเงินต้น

โดยปัจจุบันรัฐจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึงปีละกว่า 240,000 -300,000 ล้านบาทจากหนี้สาธารณะที่พลเอกประยุทธ์ก่อขึ้น ซึ่งจะต้องหักจากงบประมาณประจำปีไปชำระดอกเบี้ย และมาไล่เก็บภาษีเพิ่มจากประชาชน การที่อ้างว่ารัฐบาลกู้ได้ไม่เห็นเป็นอะไรจึงเป็นเข้าใจที่ผิดและเป็นความคิดที่ผิด เพราะรัฐต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละหลายแสนล้านบาทนี้

แทนที่จะนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนหรือนำมาพัฒนาประเทศในด้านอื่นได้ กลับต้องนำมาชำระหนี้ที่พลเอกประยุทธ์กู้มาใช้อย่างสะเปะสะปะมาตลอด และหากไทยต้องขึ้นดอกเบี้ย ภาระดอกเบี้ยที่รัฐบาลจะต้องจ่ายก็จะยิ่งมากขึ้น เงินงบประมาณในการลงทุนก็จะยิ่งลดลง

อีกทั้งงบประมาณยังต้องตั้งวงเงินลดลงเพราะเก็บรายได้ลดลง แถมเจอภาวะเงินเฟ้อสูงอีก รัฐจะแทบไม่เหลือเงินเลย ซึ่งไม่ต้องพูดถึงเงินสวัสดิการที่รัฐจะจ่ายเพิ่มจะแทบจะทำไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น รัฐสวัสดิการ หริอ เบี้ยคนชรา 3 พันบาท คงเป็นได้แค่ฝัน แต่ทำไม่ได้จริงเพราะรัฐไม่มีเงิน นอกจากจะต้องทำเศรษฐกิจไทยให้พัฒนาไปกว่านี้มากๆให้ได้ก่อน

นอกจากนี้ หากดอกเบี้ยต้องขึ้นจะส่งผลต่อภาคธุรกิจและจำนวนหนี้เสียให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเครดิตบูโรคาดว่าอีก 1-3 เดือนจะมีหนี้เสียเพิ่มขึ้นอีก 4 แสนล้านบาท และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การที่พลเอกประยุทธ์กู้เงินมาก แต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตได้ อีกทั้งต้องมาแบกรับภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง ผลคือพลเอกประยุทธ์ที่ไม่เคยหารายได้เป็น จึงต้องมาขึ้นภาษีทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ประชาชนบ่นกันมาก โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่ขาดทุนมากจากนักท่องเที่ยวไม่เข้ามา แต่ต้องจ่ายภาษีมหาโหดสูงขึ้น 10 เท่า

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ยังจะเก็บภาษีการขายหุ้นอีก 0.1% ในภาวะที่ตลาดหลักทรัพย์ ยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตไวรัสโควิด อีกทั้งยังจะเป็นปัญหาในการระดมทุนสำหรับบริษัทรุ่นใหม่ในอนาคต ซึ่งความเป็นจริงในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รัฐบาลที่ฉลาดจะต้องลดภาษีเพื่อให้เงินอยู่ในมือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าที่จะขึ้นภาษีแล้วดึงเงินออกจากระบบ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจยิ่งทรุดลงไปอีก

ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ควรจะต้องชะลอการปล่อยราคาดีเซลเกิน 30 บาทออกไปก่อน โดย ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลงอีกลิตรละ 2.99 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มจะลดลงได้ลิตรละ 3.20 บาท และ การนำเงิน 20,087.42 ล้านบาทที่พลเอกประยุทธ์โอนไปจากกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมาคืนมาเพื่อใช้สนับสนุนราคาดีเซล ซึ่งจะทำให้สนับสนุนราคาต่อไปได้

อีกทั้งงดการซื้ออาวุธ และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อนำมาประคองราคาดีเซลให้นานเท่าที่ทำได้เพื่อชะลอเงินเฟ้อ พลเอกประยุทธ์ต้องฝึกการคิดผลกระทบในภาพรวมให้เป็น ความเชื่อมโยงของ ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ภาษี ฯลฯ อย่ามองเป็นจุดๆ และหากเมื่อไหร่จำเป็นจะต้องปล่อยให้ราคาดีเซลลอยตัวขึ้นจริงๆ ก็จะต้องมีมาตรการออกมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผล ไม่ใช่ออกมาแบบ 10 มาตรการที่ประชาชนแทบไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย อีกทั้งต้องคุมเงินเฟ้อให้อย่าสูงเกินไปเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเดือดร้อนกันมากไปกว่านี้


Written By
More from pp
“ทิพานัน” เผย “พล.อ.ประยุทธ์” ปลื้มกระแสตอบรับงานคัดสรรสุดยอด OTOP ชี้ผลงานรัฐบาลบูม OTOP พุ่ง คาดรายได้ปีนี้ทะยานสู่ 419 พันล้านบาท
“ทิพานัน” เผย “พล.อ.ประยุทธ์”ปลื้มกระแสตอบรับงานคัดสรรสุดยอด OTOP ชี้ผลงานรัฐบาลบูม OTOP พุ่ง คาดรายได้ปีนี้ทะยานสู่ 419 พันล้านบาท สร้างงาน สร้างอาชีพ...
Read More
0 replies on ““พิชัย” เหมือนห่วงใย “ลุงตู่” ชี้ปล่อยดีเซลเกิน 30 บาท ทำเงินเฟ้อพุ่ง เดือดร้อนกันหนัก  รัฐบาลกู้มาก ไทยต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้สาธารณะปีละ 2.4-3 แสนล้านบาท แนะ ศึกษาภาพรวมเศรษฐกิจ ประคองราคาดีเซล และ คุมเงินเฟ้อ”