18 มีนาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ความร่วมมือทางด้านแรงงานระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย มีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมมากขึ้น
หลังจากกระทรวงแรงงานได้ขานรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ผลักดันความร่วมมือแรงงานระหว่างทั้งสองประเทศมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนซาอุดีฯ อย่างเป็นทางการครั้งประวัติศาสตร์ จนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงด้านแรงงาน ซึ่งจะลงนามปลายเดือนนี้
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานได้ขับเคลื่อนและผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อให้สามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานในซาอุดีอาระเบียได้เร็วที่สุด
โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานของไทยได้หารือกับ ดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล–นาอีม (H.E. Dr. Adnan Abdullah Mohammed Al Naim) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย และคณะ ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์ด้านแรงงานให้แน่นแฟ้น พร้อมเชื่อว่าการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียจะสำเร็จโดยเร็ว โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อยุติด้านข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการลงนามเพียงอย่างเดียว ซึ่งฝ่ายไทยจะเร่งรัดให้มีการลงนามโดยเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยที่ต้องการไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังระบุว่า มีแรงงานไทยแจ้งความประสงค์ไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ E–service เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th แล้วกว่า 1,000 คน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ การทดสอบฝีมือแรงงาน และการตรวจสอบตำแหน่งที่สมัคร ให้ตรงตามที่ทางซาอุดีฯ ต้องการ โดยไทยจะเดินทางไปลงนามข้อตกลงในวันที่ 28 มีนาคมนี้ และจะได้ไปเยี่ยมชมโรงงาน ดูสภาพการจ้าง เพื่อเป็นข้อมูลมาเผยแพร่ให้คนไทยได้เห็นสภาพการทำงานที่ซาอุดีฯ อีกด้วย
“ผลสำเร็จของการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีฯ จากการเดินทางเยือนซาอุดีฯ อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมีในหลายด้าน ซึ่งเริ่มเห็นความสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือทางด้านแรงงานเป็นอีกมิติที่เห็นความคืบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากการสานต่อและผลักดันของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินงานนี้จะทำให้ภาคแรงงานของไทยสามารถเดินทางกลับซาอุดีฯ ได้อีกครั้ง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการทำงานให้แรงงานไทย รวมถึงช่วยพัฒนาทักษะแรงงานไทย ต่อยอดไปยังความร่วมมือด้านอื่นๆ และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกด้วย” นายธนกรฯ กล่าว