สันติ อิ่มใจจิตต์
ชื่อร้าน PT Steakhouse x The MeTz
เจ้าของ คุณธนาคาร (เต๋อ) เตชฐิฏิกาล
สถานที่ ถนนเพชรบุรี วิธีเดินทางขับรถเข้าซอย เพชรบุรี 15 ประมาณ 200 เมตร เลี้ยวซ้ายแยกที่ 1 แล้วตรงไปอีกไม่ไกลจะพบร้านอยู่ด้านซ้าย ชั้นล่างของโรงแรม METZ PRATUNAM ที่จอดรถขับตรงไปอีกประมาณ 50 เมตร อยู่ด้านซ้ายมือหัวมุมที่จะออกไปซอยเพชรบุรี 13 เปิดบริการเป็นรอบๆ รอบละ 10 ท่าน วันละ 4 รอบ คือ เวลา 11.00 น.,12.30 น., 16.30 น. และ 18.30 น. ต้องโทรศัพท์จองที่นั่งที่ โทร.06-2749-9249 หรือ Facebook : PT Steak house
ร้าน PT Steakhouse ที่จะแนะนำในวันนี้เป็นร้านสเต๊กรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร แต่เป็นที่นิยมชมชอบสำหรับคอสเต๊กจากทั่วโลกครับ
เจ้าของร้าน คือ คุณธนาคาร เตชฐิฏิกาล หรือ คุณเต๋อ ที่รู้จักกันดีในหมู่เพื่อนและแวดวงการท่องเที่ยว เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านอาหารมาอย่างโชกโชนตั้งแต่เรียนจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบ สอบเข้าเรียนต่อได้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ในขณะที่เรียนมหาวิทยาลัย ด้วยความรักในด้านอาหารได้ย้อนกลับมาที่โรงเรียนสวนกุหลาบ ขอความกรุณาจากอาจารย์เพื่อจะขอเปิดร้านขายอาหารในโรงเรียน
ผลปรากฎว่าทำอาหารได้รสชาติอร่อย ขายราคาไม่แพงจึงมีทั้งอาจารย์และนักเรียนมาอุดหนุนกันคับคั่ง ขายได้ไม่นาน ปรากฏว่าเครื่องครัวต่างๆ ถูกขโมยไปหมด จึงต้องเลิกขายโดยปริยาย
และเพราะตัวเองเป็นลูกกำพร้าอาศัยอยู่กับอาม่า ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ได้ทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งทำร้านกาแฟ ขายโทรศัพท์ไอโฟน ฯลฯ และยังชอบท่องเที่ยวหาความรู้ไปทั่ว โดยเฉพาะด้านอาหาร
เคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นใช้เงินเพียงแค่ 2 หมื่นบาท ได้กินอาหารอร่อยๆ นอนโรงแรมถูกๆ จึงมีความคิดว่าถ้าเราชอบเที่ยวแบบนี้คงจะมีคนที่อยากเที่ยวแบบเราบ้าง จึงเปิดบริษัททัวร์เล็กๆ กับน้องชาย พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ตามที่ลูกค้าอยากไป จนมีนักท่องเที่ยวเป็นลูกค้ามากมาย เพราะชอบใจในอุปนิสัยใจคอ พาไปกินอาหารอร่อยๆ
ประกอบทั้งตัวของคุณเต๋อเองเป็นคนที่ชอบกินเนื้อ ไปที่ไหนๆ ก็จะสั่งเนื้อของแต่ละประเทศมาลองชิม จึงได้ความคิดว่าน่าที่จะต้องมีร้านขายเนื้ออร่อยๆ โดยนำเข้าเนื้อแต่ละประเทศที่มีรสชาติแตกต่างกันไป เข้ามาขายให้ลูกค้าได้ชิม
ซึ่งการสั่งเนื้อนำเข้านั้นไม่ยาก เพราะตัวเองก็เป็นเจ้าของบริษัทท่องเที่ยวอยู่แล้ว
พอดีเกิดวิกฤตในวงการท่องเที่ยว เนื่องจากโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก ธุรกิจทัวร์ต้องหยุดชะงัก คุณเต๋อจึงสบช่องที่จะทำธุรกิจที่ใฝ่ฝันมานาน คือ ร้านอาหาร
เพราะได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกลเม็ดเคล็ดลับในการประกอบอาหารทั้งในและต่างประเทศมานานมาก จึงได้เปิดร้านอาหารขึ้น โดยใช้บ้านของตัวเองเป็นร้านอาหาร มีเพื่อนๆ ที่เชื่อถือในฝีไม้ลายมือและลูกค้าที่ได้มาชิมต่างบอกต่อๆ กันไป
จนกระทั่งเจ้าของโรงแรม METZ PRATUNAM มาชิม แล้วชอบใจในรสชาติจึงชักชวนให้คุณเต๋อให้มาเปิดร้านขายที่ชั้นล่างของโรงแรมจนถึงปัจจุบันนี้
สเต๊กของร้าน PT Steakhouse จะไม่เหมือนใครที่จะต้อง เตรียมวัตถุดิบไว้มากมายหลายอย่าง แต่ที่ร้านของคุณเต๋อจะต้องสั่งจองเท่านั้น
จะเดินเข้ามากินตามสั่งไม่ได้ เพื่อจะได้ควบคุมวัตถุดิบให้สดที่สุด ปรุงใหม่ๆ เพื่อให้ได้รสชาติตามธรรมชาติที่สุด
สเต๊กของร้าน PT Steakhouse จะเปิดบริการเป็นรอบๆ รอบละ 10 ท่าน วันละ 4 รอบ คือ เวลา 11.00 น.,12.30 น.,16.30 น. และ 18.30 น. โดยทางคุณเต๋อจะจัดเมนูไว้ให้เลือก สำหรับผู้ที่ชอบกินเนื้อ และไม่กินเนื้อ ครับ
สำหรับตัวของผมเองซึ่งเป็นคอเนื้อคนหนึ่งก็ได้สอบถามคุณเต๋อว่าทางร้านมีเนื้ออะไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า สเต๊กเนื้อที่นี่ แต่ละจานมีเรื่องราวมีเทคนิคการปรุงที่ไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ เนื้อฝรั่งเศส เนื้อญี่ปุ่น เนื้อ U.S.เนื้อออสเตรเลีย และโดยเฉพาะเนื้อไทย ที่มีรสชาติอร่อยไม่น้อยหน้าเนื้อของประเทศใดในโลก
อาหารที่นี่จะเสิร์ฟเป็นคอร์ส มี 5 คอร์ส แล้วแต่จะเลือกสำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อก็มีปลา ทั้งปลาแซลมอนจากนิวซีแลนด์ และปลาหิมะ (Black Cod) จากฝรั่งเศส ครับ
คอร์สแรกเริ่มต้นด้วยแทนที่จะเป็นขนมปังแบบร้านสเต๊กทั่วๆ ไป แต่ที่นี่จะเป็น ครัวซองต์ ที่ไม่ใช่ครัวซองต์ธรรมดาๆ แต่เป็นครัวซองต์ที่ทำจากฝีมือของคุณเต๋อ โดยทำจากเนยที่ตีเองจะหอมหวานมันอร่อยมาก
อร่อยเสียจนขยับจะเอ่ยปากขอเพิ่มอีกแต่คุณเต๋อบอกว่าอย่าเลยเดี๋ยวจะอิ่มเสียก่อน ทำให้กินอาหารจานต่อไปไม่อร่อย
คอร์สที่สอง เป็น ซุปทรัฟเฟิล ยกออกมาตกใจ เพราะเป็นเหมือนปอเปี๊ยะทอด เอามีดตัดชิมทันทีด้านในจะเป็นครีมทรัฟเฟิลอร่อย คุณเต๋อยกน้ำซุปใส่ลงไปก็ได้ รสชาติไปอีกแบบ น้ำซุปหอมอร่อย กินรวมกันได้รสชาติอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อครับ
คอร์สที่สาม เป็นเมนูให้ล้างปากเพื่อเตรียมกินอาหารจานหลัก ยกมาในถ้วยขนาดกลางเรียกว่า Wagyu Bite ที่จำลองหม้อสุกี้ทั้งหม้อให้มาเหลือนิดเดียวเพียงแค่คำเดียวเท่านั้น อร่อยและแปลกดีครับ
สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อเหมือนเพื่อนของผมที่ไปด้วย คุณเต๋อจะเปลี่ยนเป็นเหมือนเกี๊ยวซ่าทอดกรอบแต่ด้านในเป็นไข่ปลาแซลมอนและครีม ซึ่งเพื่อนก็บอกเพียงคำเดียวว่า อร่อยมาก
มาถึงคอร์สสี่ที่เป็นอาหารจานหลัก ผมเลือก เนื้อฝรั่งเศส ซึ่งคุณเต๋อ บอกว่าจะใช้เนื้อตรงสันในที่ไม่มีมันเลย เพราะจะนุ่ม กลิ่นเบา ต้องเอาไปหมักกับสมุนไพรถึง 14 อย่าง ยกออกมาแทนที่จะมีน้ำเกรวี่ราดกลับเป็นเนยสูตรพิเศษของทางร้านแล้วมา BURN ไฟก่อนกิน เนยจะละลายลงไปในเนื้อ รสชาตินุ่ม หอม อร่อยเกินที่จะบรรยายครับ
ส่วนเพื่อนที่ไม่กินเนื้อนั้นขอเป็นเมนูปลา โดยเลือกปลาหิมะ ที่ทางร้านจะใช้ปลาหิมะชิ้นใหญ่ มาย่างสูตรพิเศษของคุณเต๋อจนผิวด้านนอกกรอบ มีซอสเคียงข้างทั้งของทางตะวันตกที่ทำจากแครอท เนย ไวน์ขาว และซอสทางตะวันออกที่ทำจากขิง โชยุ ซีอิ๊ว เหล้าจีน เคี่ยวกับน้ำตาล ให้เลือกชิมตามใจชอบ
รสชาติของปลาหิมะนั้น เคี้ยวมันนุ่มหอม ซึ่งคุณเต๋อบอกว่าถ้าด้านนอกของปลาหิมะไม่กรอบส่งคืนได้เลยครับ ผมนั่งดูเพื่อนกินปลาหิมะแล้ว คงไม่ต้องบรรยายว่าอร่อยอย่างไร เพราะเกลี้ยงจานจนแทบจะไม่ต้องล้างเชียว
มาถึงคอร์สสุดท้ายที่แทบจะกินไม่ไหวแล้วคือ ของหวาน บราวนี่สตรอเบอร์รี่ รสชาติไม่หวานมาก อร่อยกำลังดี
ขอแนะนำว่าถ้าอยากจะชวนพรรคพวกไปหาความแปลกใหม่อาหารรสชาติอร่อย ราคาสมเหตุสมผลสามารถจับต้องได้ โดยเมนูเนื้อ 5 คอร์ส ราคา 1,250 บาท แต่อย่าลืมว่าต้องสั่งจองล่วงหน้า และแต่ละรอบจะรับเพียง 10 ท่าน เท่านั้นครับ