เปลว สีเงิน
รู้จักคำว่า “หมาเร้ากัน” มั้ย?
ถ้าไม่รู้จัก ก็คงเคยดูคลิปหมา “นอกรั้ว-ในรั้ว” ฮึ่มแฮ่ เห่ากระโชกใส่กัน
ประมาณว่า อยากจะฟัดกันให้มันรู้ “หมาเป็นหมา” ไปข้าง แต่จนใจ “รั้วกั้น” ทำได้แค่แฮ่ๆ เห่าสะบั้นใส่กันเท่านั้น
แต่พอเปิดรั้วให้…..
จากจะกัดกันให้ตายไปข้าง กลับกระดิกหาง ครางๆ หงิงๆ ให้กัน กลายเป็น “ศัตรูของศัตรูคือมิตร” ไปซะงั้น!
การเมืองเรื่องถ่มถุยก็ประมาณนั้น นอกจากหนวกหู น่ารำคาญแล้ว ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “หมาเร้ากัน”
แต่สังคม “นิยมจริต” ชอบนะ
เผลอๆ ถือหางหมา ยุให้กัดกันด้วยซ้ำ บ้านเมืองเป็นแบบนี้แหละ จึงไม่ต้องไปไหนกัน สนุกไปวันๆ กับการกระตุกโซ่หมา
ความจริง พลันที่ ๒ ราชอาณาจักร คือ……..
“ราชอาณาจักรไทย” กับ “ราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย” ฟื้นสัมพันธ์ ณ วันที่ ซาอุฯ เชิญนายกฯ ประยุทธ์เยือน
นั่นถือว่า “โอกาสมา-ฟ้าใหม่” ที่มืดมิดนานทุกด้าน ๓๒ ปี คืนกลับสว่างใส จำรัส-เจิดจ้า และจำเริญขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ!
แต่น่าเสียดาย……..
“อิจฉา-ริษยา” บังตา-บังใจ นักการเมืองและนักล่มเมืองแยกแยะไม่ได้ ระหว่าง “ประโยชน์ตน” กับ “ประโยชน์ประเทศชาติ, ประชาชน”
ก็กรรมนะ
เป็นกรรมจาก “นักการเมือง” บางคนก่อ แต่ประเทศและคนไทยทุกคน กลับต้องเป็นผู้รับ “ผลของกรรม” ที่ไม่ได้ก่อนั้น เต็มๆ
ช่วงนี้…เป็นช่วงตรุษจีน เขาถือ ให้พูดแต่เรื่องดี เป็นมงคลฉะนั้น ก็มาดูเรื่องมงคลที่จะเกิดกับประเทศไทย-คนไทยต่อจากนี้บ้าง
“สิ่งดี-สิ่งมงคล” มาจากทิศไหนบ้าง อาจารย์สมเกียรติชี้ทิศไว้เมื่อวาน ผมอาราธนามาทั้งกระบิ ดังนี้
…………………………………..
สมเกียรติ โอสถสภา
· จีนกับไทย
หนึ่ง.เมื่อสามปีที่แล้ว ก่อนมีโควิด ช่วงตรุษจีน ทางการจีนขอให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้จีนเพิ่มเที่ยวบินมาเชียงใหม่ วันละ 100 เที่ยว
เพราะคนจีนนิยมมาก จนเครื่องไม่พอ
สอง.ตอนนี้ จีนคิดวัคซีนใหม่ได้ ผมมั่นใจว่า จีนจะผลิตและฉีดให้คนจีนครบทั้งหมดเข็มสามในปีนี้
ปีหน้า หวังว่าคนจีนจะมาเที่ยวไทยมากมาย คงไม่ไปออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อเมริกา แคนาดา ยุโรปแล้ว ด้วยเหตุผลที่รู้กันอยู่
สาม.เจอยุทธการตีเว่ยช่วยจ้าวของรัสเซียเข้า ย่านเอเซียน่าจะสงบดี
สี่.อนาคตส่งออกของไทยดีมาก พาณิชย์ไวมาก
ห้า.ความสัมพันธ์ไทย-จีนนั้น ลึกซึ้งมาก คนเชื่อมกันด้วยใจ แต้อ๊วงนั้น มาจากตระกูลแต้ ตระกูลใหญ่อันดับสิบสองของจีน
แค่เชิญผู้นำตระกูลใหญ่มาไทย จะยกขบวนมาเที่ยวไทยกันหลายร้อยล้านคนเลย.การบินของไทยจะรุ่งโรจน์เหมือนเดิม เราทำได้
หก.โชคดีที่คุณจุรินทร์ไปเปิดการค้ากับมณฑลเมืองต่างๆ ไว้ดีเยี่ยม อินเดียด้วย คุณจุรินทร์ไหว้เมื่อวานนี้
เจ็ด.คณะของซาอุจะมาแล้ว เตรียมงานทั้งสองฝ่ายดีมาก
แปด.เรื่องทางลาว พม่า เรียบร้อยดี จีนประสานได้ เรื่องดีๆ กำลังจะมาเยอะมาก
เก้า.ข่าวดีพิเศษ การเสด็จร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวของ “กรมสมเด็จพระเทพฯ” จะเกิดคุณูปการใหญ่หลวงต่อความสัมพันธ์ไทยจีน. และยังประโยชน์ต่อสันติภาพในโลก
ชื่นชมพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านและพระบรมวงศานุวงศ์เสมอมา
ข่าวดีมาเพียบ
ขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง
สวัสดีวันตรุษจีนครับ ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกๆ คน
ไม่ได้เป็นสส. ผมจึงมีเวลาคิดอ่านทำงานให้ประเทศได้เยอะเลย แปลก ทำไมอยากเป็นกันจัง
ให้ผมวิ่งไหว้คน ผมไม่เอาดอก เสียเวลาคิดงานใหญ่
………………………………..
ครับ ขาวดี ข่าวมงคลของไทย มาทางทิศตะวันออก คือจีน และตะวันออกกลาง คือซาอุฯ รวมทั้งกลุ่มประเทศอิสลาม นั่นเอง!
เรื่องการค้า การลงทุน ทั้งด้านอุตสาหกรรม ด้านเกษตร
และด้านท่องเที่ยวนั้น เคยคุยกันไปแล้ว
แต่อีกด้าน ต้องนับว่า “สำคัญยิ่งยวด” กับไทยมากและไม่ได้มองกันมากนัก คือด้านความมั่นคง เกี่ยวกับปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้
จำที่นายกฯ แถลง “รายงานประชาชน” หลังกลับจากซาอุฯ เมื่อ ๒๖ มกรา.ได้มั้ย?
๑ ใน ๙ ด้าน จากผลสำเร็จของการฟื้นสัมพันธ์ ๒ ราชอาณาจักร ด้านที่ ๖ มีว่า……..
“6.ด้านความมั่นคง:ซาอุดีอาระเบียถือเป็นประเทศอิสลามสายกลางที่มีอิทธิพลสูงในกรอบ “องค์การความร่วมมืออิสลาม” (OIC)
สามารถมีบทบาทช่วยส่งเสริมการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” อย่างยั่งยืน ตามแนวทางสันติสุข
นอกจากนั้น ยังสามารถมีความร่วมมือกันด้านข้อมูลข่าวสารความมั่นคง และการต่อต้านการก่อการร้ายอีกด้วย”
ประเด็นนี้แหละ…….
ปัญหา “ยะลา-นราธิวาส-ปัตตานี” ๓ จว.ใต้ ที่มีขบวนการพยายามแยกตัวตั้งเป็น “รัฐอิสระ” มันเป็นหนามในเนื้อที่ยากบ่งมาจนถึงบัดป่านนี้
บ่งได้-ไม่ได้ หัวใจอยู่ที่ OIC “องค์การความร่วมมืออิสลาม” (Organisation of Islamic Cooperation) นี่แหละ
สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่เมืองเจดดาห์
“ดร.ยูซุฟ บิน อะห์มัด อัลอุษัยมีน” เป็นเลขาธิการใหญ่
OIC เราได้ยินมาตลอด แต่ในภาคประชาชน มีความรู้-ความเข้าใจบทบาทและความสำคัญของ OIC น้อยมาก
ก็อยากจะบอกว่า OIC นี่แหละ “ชี้เป็น-ชี้ตาย” ปัญหาชายแดนใต้ได้โดยตรง!
เพราะ OIC เป็น “องค์การระหว่างรัฐบาล” ที่สำคัญที่สุดของโลกมุสลิม มี ๕๗ ประเทศ “ทั่วโลก” เป็นสมาชิก
ประชากรโลกตอนนี้ ๗,๓๐๐ ล้านคน ในจำนวนนั้น ร้อยละ ๒๒ เป็นประชากรกลุ่มประเทศองค์การ OIC!
ไทยไม่ได้เป็นสมาชิกโดยตรง
แต่เป็นประเภท “ประเทศผู้สังเกตการณ์ของ OIC” เมื่อปี พศ.๒๕๔๑
ความพยายามแยกชายแดนใต้เป็นรัฐอิสระ มีมานาน แต่ที่พยายามยกปัญหาเข้าสู่เวทีระดับโลก พยายามให้ที่ประชุม OIC สนับสนุนการแยกตัว เริ่มเมื่อปี ๒๕๑๗
แต่ประเทศมุสลิม “ไม่ให้การสนับสนุน”!
เหตุที่ OIC ไม่ยกระดับปัญหาชายแดนใต้เข้าที่ประชุม ต้องชม “รัฐบาลไทย” แต่ละยุค
ว่าเดินแต้มผ่าน “มิตรประเทศ” ที่เป็นสมาชิก OIC ได้เยี่ยม ก็สมแล้ว ที่โลกยกนิ้วให้ไทย ด้าน “การเมืองระหว่างประเทศ”
คนละเรื่องเดียวกันกับ “ไซมิส ทอล์ค” ละกระมังนะ!
“ทุกครั้ง” ที่กลุ่มก่อการ ผลักดันให้เรื่องชายแดนใต้เข้าสู่ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของ ๕๗ ชาติสมาชิก OIC ทีไร
มีอันต้อง “ถูกยับยั้ง” ไปก่อนทุกที!
จนปี ๒๕๔๑ ที่ไทยได้รับสนับสนุนเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์นั่นแหละ ถึงมีโอกาสเข้าไปชี้แจง ทำความเข้าใจกับที่ประชุมโดยตรง
จะว่าไป ต้องชมกันเอง ไทยเรานี่ด้านวิเทโศบายเจ๋งที่สุด ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่คลุกวงในเก่ง
เป็นสมาชิก OIC ไม่ได้
ก็ไปเข้าทางองค์กรด้านเศรษฐกิจในเครือข่าย OIC อย่างเช่น อาทิ สภาหอการค้าอิสลาม อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม (ICCIA)
ปี ๒๕๕๐ “สมาคมนักธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยมุสลิม (TITIA) ทำ MOU กับ ICCIA ด้านส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
นั่นหมายความว่า ไทยจะขยายตลาดการค้าไปได้ในโลกมมุสลิม ในสินค้าอัญมณี เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น
โดยเฉพาะด้าน “อาหาร” และ “สินค้าฮาลาล”
เพราะการที่ “สถาบันมาตรฐานและมาตรวิทยาสำหรับประเทศอิสลาม” (SMIIC)ของ OIC รับรอง “สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย” เข้าเป็นสมาชิก ล่าสุด ปี ๒๕๕๙
นั่นเท่ากับไทยเป็นศูนย์กลาง “อาหารฮาลาล” และ “สินค้าฮาลาล” ของโลก
โอกาสเปิดกว้างมาก ซึ่งอยู่ที่เราคนไทยนี่แหละ จะใช้โอกาสนั้นขนาดไหน
ปัญหาชายแดนใต้ ทำท่าจะสมูธ แอส ซิลค์ แต่พอมาเกิดเหตุปล้นปืนค่ายทหาร เมื่อ ปี ๒๕๔๗ ในยุคทักษิณ
ตามด้วยการสังหารใน “มัสยิดกรือเซะ” ปัตตานี และการสลายผู้ชุมนุมหน้า สภ.อ.ตากใบ นราธิวาส ตายจำนวนมากนั่นแหละ
ทาง “ราบรื่น” พลิก “ไถลลื่น” เป็นงานหนักของกระทรวงต่างประเทศต้อง “ปิดทองใต้ฐานพระ” กันใหม่อีกยก
ในการยับยั้ง OIC มิให้มีมติ “ยกระดับ” ปัญหาใต้ เข้าสู่ที่ประชุมรมว.ต่างประเทศสมาชิก ๕๗ ชาติมุสลิม
ไม่เช่นนั้น พูดได้คำเดียว…เละ!
ยาวนานกว่า ๑๕ ปี จนเมื่อ ๒๖ มกรา.๖๕ ในรายงานประชาชนของพลเอกประยุทธ์ ในความสัมพันธ์กับซาอุฯ ถึงได้มี “ด้านที่ ๖” ว่า……
“…….สามารถมีบทบาทช่วยส่งเสริมการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” อย่างยั่งยืน ตามแนวทางสันติสุข”
เรื่องนี้ยาว แค่ขยุ้มมาคุยยังยืดไม่จบความ แต่จบก่อนดีกว่า
เพราะมัน “ดึกแล้วคุณขา” พรุ่งนี้ว่ากันใหม่นะ
