เปลว สีเงิน
วันนี้ต้องขึ้นต้นด้วยการกราบขอภัย “คุณบัณฑูร ล่ำซำ” ก่อนเป็นอันดับแรก
คือ วันก่อน พรรคพวกไลน์โน่น-นี่มาให้อ่าน
มีอยู่เรื่อง ว่าด้วยเสียงเตือนต่อสภาพเศรษฐกิจที่จะเกิดในปี ๒๕๖๕ ระบุว่า “คุณบัณฑูร” เป็นเจ้าของเสียงเตือนนี้
อ่านแล้ว ผมเห็นขลังดี
ประกอบกับอ่านข่าว เฟดส่งสัญญานเลิกทำ QE จะถอนสภาพคล่องออกจากระบบชนิดเข้มข้น
จากนั้นจะทะยอยขึ้นดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า ๓ ครั้ง ๒.๕ ถึง ๓% จากมีนา.ไป จนถึงปลายปี ๒๕๖๕
ฟังข่าวจาก เฟด อย่างนั้น พออ่านเสียงเตือน ก็เลยจับแพะ-ชนแกะ แล้วโมเมเชื่อว่า น่าเป็นเสียงเตือนของคุณบัณฑูรจริง
ก็เลยนำเผยแพร่ออกไป
ปรากฏว่า มีเสียงท้วงติงขรม ว่านี่…ไม่ใช่ข้อเขียนคุณบัณฑูร ไม่ทราบใครเขียน แต่แอบอ้างชื่อคุณบัณฑูร
นอกจากนั้น เคยเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ และทางธนาคารกสิกรไทยก็เคยชี้แจงไปแล้ว ว่าไม่ใช่ข้อเขียนของคุณบัณฑูร
สรุป ผม “ผิด” เอง!
เมื่อทราบ ก็ถอดออกจากเว็บไซด์ไปแล้ว จะเหลืออยู่ก็แต่ในไทยโพสต์ “ฉบับสิ่งพิมพ์” ซึ่งวางแผงไปแล้ว สุดวิสัยจะแก้ไขได้
จึงแจ้งให้ทราบ พร้อมกราบขออภัยคุณบัณฑูรไว้ตรงนี้ด้วย
แต่จะว่าไป ข้อเขียนที่ไม่ทราบใครเขียนนี้ อ่านแล้วก็ไม่เป็นพิษ-เป็นภัยอะไร เป็นมุมมองเศรษฐกิจการเงิน เชิงคาดการณ์ เพื่อเตือนสติกัน เท่านั้น
ไทยเรา ขณะนี้ บาทอ่อน เงินเฟ้อ คนร้อง ข้าวของแพง ตลาดหุ้น ตลาดคริปโตฯ ตลาดพันธบัตรวูบวาบ บ้าน-ที่ดิน คอนโดฯราคาตก ขายยาก
“ทองคำ” เอาแน่-เอานอนไม่ได้ เรียกว่า เศรษฐกิจการเงิน อยู่ในสภาพแกว่ง ยังหาทิศทางที่ลงตัวไม่ได้
เพราะอะไร?
เพราะขณะนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นในระดับแข็งแกร่ง สภาพคล่องในระบบสูงมาก ส่งผลถึง “เงินเฟ้อ” สูงเกินคาดการณ์ไปด้วย
ธันวา.ที่แล้วเดือนเดียว มีการจ้างงานกว่า ๘ แสนตำแหน่ง ถือว่ามากสุด นับแต่ปี ๒๕๕๑ เป็นต้นมา
“เฟด” จึงเห็นตรงกันว่า “เลิกอัดฉีด” ได้แล้ว!
อย่างที่ทราบ นับตั้งแต่ฟองสบู่ในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ แตก จนเกิดผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่ ที่เรียก “วิกฤตสินเชื่อซับไพรม์” เมื่อ ปี ๒๕๕๑ เรื่อยมา
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด อัดสภาพคล่องเข้าระบบต่อเนื่อง ถึงปัจจุบันสูงถึง ๙ ล้านล้านเหรียญยูเอส!
ก็จะ “พอกันที”
คืนความเป็นจริงให้ระบบเศรษฐกิจการเงิน ด้วยการเลิกทำ QE
ทยอยถอนสภาพคล่องออกจากระบบไปเรื่อยๆ ตราสารหนี้ ทั้ง “ระยะสั้น-ระยะยาว” ที่ถือไว้ เมื่อครบกำหนด จะไม่ซื้อต่อ
มีนา.๖๕ เป็นต้นไป จะเริ่มปฏิบัติการ
ผลที่ตามมาในตลาดโลก คือ “ดอลลาร์จะแข็ง” อัตราแลกเปลี่ยนจะผันผวน เตรียมตัวกันไว้เหอะ ดอกเบี้ยพันธบัตรจะสูงขึ้น
และนั่น กับไทยเรา เงินจะไหลออก บาทจะอ่อนค่าลงไป ๓๔-๓๕ บาทต่อ ๑ เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้
เมื่อเฟด ส่งสัญญานอย่างนี้………
มันส่งผลไปทั้งโลก ทั้งตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร คนที่กู้เงินดอกเบี้ยถูก มาซื้อหุ้น ซื้อคอนโด มาลงทุนโน่น-นี่หากำไร ก็เตรียมตัวเถอะ
มีนา.ไปแล้ว จะหนาวดอกเบี้ย ที่ขึ้นไปเรื่อยๆ!
สำหรับเงินบาทไทยนั้น……..
จะอ่อนค่าหรือจะแข็งค่า ไม่ต้องขวนขวายไปหาดูอัตราแลกเปลี่ยน
ถ้าเงียบเสียงพ่อค้าส่งออก แสดงว่า “บาทอ่อน”
แต่วันไหน พ่อค้าส่งออกโวยวาย แสดงว่า “บาทแข็ง”
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เฟดแถลง หมายความว่า จะไม่ได้ยินเสียงพ่อค้าส่งออกร้อง “บาทแข็ง” ทำให้สินค้าราคาแพง สู้เขาไม่ได้ในตลาดโลกไปอย่างน้อย ๓ ปี!
ในสหรัฐ เดือนมีนา. “เฟด” จะดึงสภาพคล่องออกจากระบบ
แต่ในไทย การเมืองซีกค้านผสมหมอดู ประสานเสียงกันว่า มีนา-เมษา จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
หรือไม่ก็ สิงหา-กันยา ถึงขั้นรัฐประหารหรือไม่ก็ยุบสภาหรือไม่ก็ปรับครม.ครั้่งใหญ่ จะมีผู้นำใหม่
ผมก็ว่า มาสไตล์ชักรอกปลาเค็มไว้บนขื่อ แล้วพุ้ยข้าวเปล่า แหงนคอดูแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเข้าปีที่ ๗ ปีที่ ๘ แล้วมั้ง ก็ไม่เห็นเป็นจริงซักที!
นายกฯ นั่นน่ะ เท่าที่ผมดู ใช่ว่าท่านอยากอยู่-อยากเป็น แต่ด้วยสถานการณ์นั่นแหละ ทำให้ต้องอยู่-ต้องเป็น ทั้งที่ใจจริงไม่อยาก
คนเราน่ะ มันก็แปลกอยู่อย่าง อะไรที่อยากได้ มักจะไม่ได้ แต่อะไรที่ไม่อยากได้ มันจะพานพบประสบอยู่เสมอ
ก็อยากเห็นนะ…
ไอ้ที่ว่า “เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการเมือง” ที่พูดกัน
ที่จริง มันไม่ยากเลยที่ใครจะมาเป็นรัฐบาล-เป็นนายกฯ เพราะกฏกติกาที่นำไปสู่ มันมีให้อยู่แล้ว
รัฐธรรมนูญ ว่าด้วยเลือกตั้งบัตร ๒ ใบ ที่อยากกัน ก็แก้กันสำเร็จไปแล้ว กฎหมายลูก ๒ ฉบับ ว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ก็จะเข้าสภาอยู่แล้ว
ซักกรกฏา.ก็เสร็จ ประกาศใช้ รอให้การประชุม APEC 2022 ในเดือนพฤศจิกา.ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเสร็จ ซักต้นปี ๖๖ ผมเชื่อ นายกฯ “พร้อมสนองอยาก”
โดย “ยุบสภา” ให้มีเลือกตั้งตามกติกาใหม่แน่!
แล้วจะมาสร้างข่าว สร้างประเด็น ยุบสภา-ลาออกบ้าง จะมีรัฐประหารบ้างในเดือนนั้น-เดือนนี้ ไปเพื่ออะไร?
เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไป ทุกพรรค-ทุกคนที่ลงแข่งขัน มีสิทธิ์เป็นรัฐบาล-เป็นนายกฯ เสมอเหมือนกันทุกคน
เห็นสร้างกระแสกันว่า คนเบื่อนายกฯ ชาวบ้านไม่เอานายกฯ แล้ว โพลออกมาทีไร นายกฯ เรตติ้งตกฮวบฮาบ
เมื่อเป็นอย่างนี้ จะมาแช่งชักนายกฯ ไปเพื่ออะไร?
แต่ละคน-แต่ละพรรค ลงไปทำตัวให้ชาวบ้านเขารักดีกว่า เขาจะได้เลือกพรรคนั้น-คนนั้น เข้าไปเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯแทนพลเอกประยุทธ์ยังไงล่ะ
สำหรับพลเอกประยุทธ์ ถึงตอนนั้น จะเป็นว่าที่นายกฯ ให้พรรคไหน หรือพอแล้ว ไม่ไปต่อ เท่าที่สังเกต ตัวท่านก็ยังตอบไม่ได้ด้วยซ้ำมั้ง!?
เพื่อไทย อยากเป็นรัฐบาล มีนายกฯ หญิงคนที่สองชื่ออุ๊งอิ๊ง ใครจะไปว่าอะไร ก็เป็นกันให้ครบญาติพงวงศาไปเลย
คุยว่าบัตร ๒ ใบ จะแลนด์สไลด์ ถ้าคนเขาเลือกเข้ามามากกว่า ๒๕๐ สส.ขึ้นไป ก็แลนสไลด์ไปเลย
ไม่เห็นต้องมาประจานความต่ำทรามทางจิตสำนึกด้วยการสรรคำด่า-คำไล่นายกฯ อย่างที่คนพรรคนี้ทำเป็นสันดานอยู่
แต่ถ้าพลเอกประยุทธ์รับเป็นนายกฯต่อไป และคนเลือกพรรคนายกฯ มากเป็นอันดับหนึ่ง
พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่ออีกสมัย จะว่าเป็นการสืบต่ออำนาจเผด็จการอีกมั้ยเนี่ย?
พูดไป-พูดมา เอาจริงๆ นายกฯ เองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำมั้ง ว่า ณ วันเปิดรับสมัคร ตัวท่านจะเป็นนายกฯ บัญชีเลือกตั้งของพรรคไหน?
สมมติเลือกตั้งเสร็จ ไม่มีพรรคไหนได้เสียงเด็ดขาด ต้องเป็นรัฐบาลผสม ผมเชื่อ พรรคนายกฯ ที่จะไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย มันไม่เกิดขึ้นแน่
บิ๊กป้อม “พลเอกประวิตร” กับ “ร้อยเอกธรรมนัส” แห่งพลังประชารัฐ ที่บางคน-บางฝ่าย ถอดรหัสคำพูดทักษิณ “กลับแน่ปีนี้” ว่าหมายถึง “พลังประชารัฐ+เพื่อไทย” ตกลง “สองพรรค” ตั้งรัฐบาล นั้น
นั่นมันยี่เกชัดๆ!
ยี่เกยังไง ไปอ่านสามก๊ก ตอน “อ้องอุ้น” วางอุบายให้ “ตั๋งโต๊ะ” กับ “ลิโป้” ระแวงกัน
ลงท้าย “ลิโป้” ลูกบุญธรรม แท้ๆ ก็ฆ่าตั๋งโต๊ะตาย สำเร็จตามอุบายอ้องอุ้น ที่เสี้ยมให้ผิดใจกันจนสำเร็จตามแผน!
ที่ทักษิณพูดแบบมั่นใจเกินร้อย…..
กลับปีนี้แน่ กลับอย่างสันติ เพื่อเป็นเพื่อนตีกอล์ฟกับนายกฯ ประยุทธ์ ส่วนจะกลับเมื่อไหร่ จะกระซิบ “อุ๊งอิ๊ง” คนเดียวนั้น
มันลูกไม้ตื้นๆ………
หวังเสี้ยมให้คนที่ศรัทธาพลังประชารัฐ “ระแวงพลังประชารัฐ” ถ้าเลือกแล้ว จะไปร่วมตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย
ฉะนั้น จะไม่เลือก
ด้วยตอนนี้ แฟนพลังประชารัฐ ชักระแวงตามที่พูดกันแล้วว่า บิ๊กป้อมส่งธรรมนัสไปดีลกับเพื่อไทย
ทักษิณจึงเคลิ้มกับรายการ “ฝันจะเป็นจริง” พูดจาด้วยมั่นใจ ดึงอุ๊งอิ๊งเข้าไปมีความสำคัญเชิงเทียบชั้นในตำแหน่งนายกฯ
แล้วพลเอกประยุทธ์ไปไหนซะล่ะ?
ก็ไม่ไปไหน ทักษิณบอก “ไปตีกอล์ฟ” กับเขานั่นไง
นี่ละ “คลับเฮาส์” เห่าเพื่อฮารายวันละ!