วันที่ 18 ธันวาคม 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดย กระทรวงแรงงาน เตรียมพร้อมจ่ายเงินเยียวยา ในโครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในกิจการสถานบันเทิง และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ โดยกำหนดให้ผู้ประกันตนในกิจการดังกล่าว ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทต่อคน
โดยกระทรวงแรงงานอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดโครงการ ซึ่งจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในเร็ว ๆ นี้ คาดว่าจะสามารถโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) ที่ผูกบัญชีกับเลขบัตรประชาชนรอบแรกภายในปลายเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ประกันตนที่ทำงานเกี่ยวกับสถานบันเทิง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่จะได้รับสิทธิเยียวยาตามโครงการนี้ จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทำงานในกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องได้รับการรับรองจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยหรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การรับรอง
ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และรีบชำระเงินสมทบให้ทันภายในวันที่ 14 ม.ค. 2565 พร้อมให้ทางสมาคมดังกล่าวข้างต้น รับรองภายในวันที่ 28 ม.ค. 2565 จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ให้รีบสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งนอกจากจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐแล้ว ยังมีสิทธิประโยชย์ที่สำนักงานประกันสังคมคุ้มครอง เช่น การจ่ายเงินทดแทนกรณีประสบอันตรายเจ็บป่วย เมื่อนอนโรงพยาบาล
“ผู้ที่จะสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องมีสัญญาติไทย อายุ 15-65 ปี เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตน จะมี 3 ทางเลือก คือ 1) จ่ายเงินสมทบเดือนละ 70 บาท 2) จ่ายเงินสมทบเดือนละ 100 บาท 3) จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท สามารถสมัครได้หลายช่องทาง ทั้งที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ , เซเว่น อีเลฟเว่น , บิ๊กซี , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร” น.ส.ไตรศุลี กล่าว