พรรคร่วมรัฐบาลก็จะกอดคอกระท่อนกระแท่นกันไปแบบนี้
ถ่ายเลือดกันเอง!
ยังไม่ถึงสถานการณ์สละเรือ
ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถือเป็นมิติใหม่ทางการเมือง ทุกพรรคอยู่ภายใต้กลุ่มทุนเหมือนกันหมด แม้จะมีการวางโครงสร้างพรรคชัดเจน แต่หาความชัดเจนในทางปฏิบัติไม่ได้เลย
ทุนใหญ่ยังชี้ขาดทุกอย่าง
พรรคเพื่อไทยเป็นตัวอย่าง
วันนี้ใครคือเบอร์ ๑ กันแน่!
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
หรือ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
สุดท้ายต้องพึ่งนักโทษหนีคุกตัดสิน
ความสับสนเช่นนี้ คือแหล่งบ่มเพาะงูเห่าชั้นดี
อย่างที่เป็นอยู่!
วานนี้ (๙ ธันวาคม) ๗ พรรคร่วมฝ่ายค้านเขาประชุมกัน ประเด็นหลักที่หารือคือจะถามให้รู้ดำรู้แดงว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ จะยังเป็นฝ่ายค้านหรือไปร่วมรัฐบาล
เป็นเรื่องน่าอนาถพรรคเพื่อไทยพยายามดึงพรรคเศรษฐกิจใหม่ล่มหัวจมท้ายเป็นฝ่ายค้านกันต่อไป ขณะเดียวกัน งูเห่าในเพื่อไทยเริ่มเลื้อยออกจากพรรคบ้างแล้ว
นั่นคือวิกฤติของพรรคนายทุน
เมื่อทุนไม่ชัดเจน ผลประโยชน์ไม่แน่ชัด
พร้อมที่จะเปิดตูด!
แล้วพรรคเศรษฐกิจใหม่จะย้ายขั้วหรือเปล่า?
โอกาสย้ายมีสูง แต่ต้องขึ้นกับการปรับคณะรัฐมนตรี……..ว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่ ไปฟรีไม่มีแน่
อย่างน้อยๆ ต้องได้ “เก้าอี้รัฐมนตรีช่วย” ปลอบใจ
สำหรับพรรคอนาคตใหม่ ตายแหล่มิตายแหล่
ยุบ-ไม่ยุบ
ไปดูเอกสารที่ “ศรีสุวรรณ จรรยา” บอกว่าเป็นเอกสารหลุดจาก กกต.
เป็นความเห็นของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในคดี “ธนาธร” ปล่อยกู้ พรรคอนาคตใหม่
“…..สำนวนนี้นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ร้องที่ ๑ นายสุวัชร สังขฤกษ์ ผู้ร้องที่ ๒ ได้ร้องคัดค้านว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้องที่ ๑ กระทำโดยไม่ชอบด้วยมาตรา ๖๖ ประกอบมาตรา ๑๒๔ และมาตรา ๑๒๕ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ กล่าวคือการบริจาคเงินกว่า ๑๐ ล้านบาท ให้แก่พรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ ๒ เกินกว่า ๑๐ ล้านบาทต่อปี
พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานตามรายงานการไต่สวนแล้วเห็นว่า สัญญากู้เงินสัญญากู้ยืมเงินระหว่างผู้ถูกร้องที่ ๑ และที่ ๒ จำนวน ๑๖๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ฉบับลงวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๒ (เอกสารหน้า ๑๒๕) นั้น นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรคอนาคตใหม่ ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นผู้ลงนามในสัญญากู้อ้างว่าผู้ถูกร้องที่ ๑ ให้ผู้ถูกร้องที่ ๒ กู้เงินโดยจ่ายเป็นสำเนาเช็คเงินกู้จำนวน ๑ ฉบับ โดยมีหลักฐานสำเนาเช็คหลักฐานการชำระหนี้คืนบางส่วน และรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ลงมติให้กู้เงินจากผู้ถูกร้องที่ ๑ ซึ่งจะส่งมาประกอบภายในวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ แต่ก็ไม่ยอมส่งมาประกอบการพิจารณา จึงเป็นข้อพิรุธประกอบกับการกู้ยืมเงินมิได้เป็นรายได้ของพรรคการเมืองตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๖๒ (๑)-(๗) ซึ่งจะนำไปใช้ในการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง
ดังนั้นจึงน่าเชื่อว่าเงินจำนวน ๑๖๑,๒๐๐,๐๐๐ บาทดังกล่าว เป็นเงินบริจาค ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๖๖ วรรคหนึ่งบัญญัติว่า ‘บุคคลใดจะบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า ๑๐ ล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้…’
และวรรคสองบัญญัติว่า ‘พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้’
และมาตรา ๑๒๔ วรรค ๑ บัญญัติว่า ‘ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖๖ วรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด ๕ ปี’
และมาตรา ๑๒๕ บัญญัติว่า พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดมูลค่าเกินที่กำหนดไว้ในมาตรา ๖๖ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคมีกำหนด ๕ ปี และให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินมูลค่าที่กำหนดไว้ตามมาตรา ๖๖ ตกเป็นของกองทุน
จึงเห็นควรดังดำเนินการดังนี้
๑.ดำเนินคดีอาญาแก่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้องที่ ๑ ในความผิดตามมาตรา ๖๖ วรรคหนึ่งประกอบมาตรา ๑๒๔ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ. ศ.๒๕๖๐ และขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งมีกำหนด ๕ ปี
๒.ดำเนินคดีอาญาแก่พรรคอนาคตใหม่ผู้ถูกร้องที่ ๒ ในความผิดตามมาตรา ๖๖ วรรคสองประกอบมาตรา ๑๒๕ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ และขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่มีกำหนด ๕ ปี และขอให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดส่วนที่เกินมูลค่าที่กำหนดไว้ในมาตรา มาตรา ๖๖ ตกเป็นของกองทุน
จึงขอเสนอความเห็นพร้อมสำเนามาเพื่อประกอบการพิจารณาอันหนึ่งเนื่องจากเป็นกรณีเรื่องเร่งด่วนให้เสนอสำนวนต่อที่ประชุมกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา…….”
ครับ…ถ้า กกต.เคาะคำร้องไปตามนี้ไม่ยุบแน่
แต่… “ธนาธร” อาจถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งมีกำหนด ๕ ปี พร้อมๆ กับกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่
ชนชั้นสูงในพรรคอนาคตใหม่ถูกกวาดเรียบ
ส.ส.ก็ไม่ต่างทหารแตกทัพ
ใครจะไปไหนอย่าโทษใคร เพราะนี่คือผลลัพธ์ของพรรคที่เกิดจากทุน.