นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกกลับมาระบาดซ้ำโดยเฉพาะในทวีปยุโรป แม้หลายประเทศฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มครอบคลุมประชากรจำนวนมากแล้วก็ตาม ซึ่งรายงานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ทั่วโลก ได้ดำเนินการฉีดแล้ว จำนวน 7,840 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตการปกครอง
อัตราการฉีดวัคซีนล่าสุด 34.1 ล้านโดสต่อวัน ขณะนี้ทั่วโลกยังมีความกังวลในเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ “โอไมครอน” ที่พบในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ที่กลายพันธุ์หลายตำแหน่ง ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่รุนแรงสุด เปลี่ยนแปลงหนามมากกว่าเดลต้าถึง 3.5 เท่า สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ ทำให้ติดเชื้อได้เร็วขึ้น
ในส่วนของประเทศไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านสาธารณสุข ความมั่นคง คมนาคม การท่องเที่ยว เฝ้าระวังและกลั่นกรองเป็นพิเศษไม่ให้เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เข้าประเทศไทยได้ โดยล่าสุด ได้มีมาตรการห้าม 8 ประเทศ ที่มีการพบและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว ได้แก่ บอตสวานา เอสวาตีนี เลโซโท มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย ซิมบับเว แอฟริกาใต้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่าในส่วนของประเทศไทย ขณะนี้ภาพรวมแผนการบริหารจัดการและการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รัฐบาลเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับทุกคนทุกพื้นที่ วัคซีนมีเพียงพอสำหรับคนไทยทั้งประเทศ และทุกชนิดผ่านการอนุมัติโดย องค์การอนามัยโลก (WHO) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย สามารถสร้างภูมิต้านทานป้องกันโควิด-19 ที่มีอาการได้ถึง 80-90% สามารถสร้างภูมิต้านทานป้องกันโควิด-19 เห็นผลลัพธ์ในการลดอาการติดเชื้อรุนแรงหรือป่วยหนักได้เป็นอย่างดี
โดยวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อลดเหลือ 4,753 ราย และยอดผู้เสียชีวิต ลดเหลือจำนวน 27 ราย ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตลดลงเหลือ 0.99% ยอดผู้ป่วยที่กำลังรับการรักษาอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นราย จำนวนเตียงรักษามีปริมาณที่เพียงพอ ขณะนี้มีการใช้เตียงเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น โดยข้อมูลการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2564 – 28 พ.ย.2564 (23.25 น.) มีการฉีดวัคซีนสะสม 92,320,021 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 สะสม 48 ล้านราย เข็มที่ 2 สะสม 41 ล้านราย เข็มที่ 3 สะสม 3.3 ล้านราย