คิดเล่นๆ แต่เป็นจริงๆ – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…?

เปลว สีเงิน

เข้าตำรา “เรือล่มเมื่อจอด” จนได้!
“คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม เลขาฯ พรรคภูมิใจไทย
เมื่อวาน (๓ มี.ค.๖๖) ศาลรัฐธรรมนูญด้วย “มติเอกฉันท์”
ให้ “รัฐมนตรีศักดิ์สยาม”
หยุด “ปฎิบัติหน้าที่รัฐมนตรี” ไปจนกว่าศาลจะมีวินิจฉัยว่าเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ “หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น” จริง หรือไม่ ตามที่สส.ฝ่ายค้านยื่นคำร้อง?

เพราะการถือหุ้นนั้น เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง(๕)ประกอบมาตรา ๑๘๗
ศาลให้ยื่นคำชี้แจงภายใน ๑๕ วัน

ระหว่างนี้ ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย!

ก็ต้องทำความเข้าใจกันนิด
คุณศักดิ์สยาม ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ เพียง “หยุดปฎิบัติหน้าที่” ในตำแหน่งระหว่างรอศาลวินิจฉัยเท่านั้น

ก็เหมือนนายกฯ ประยุทธ์ถูกศาลให้ “หยุดปฎิบัติหน้าที่” ในตำแหน่งนายกฯ ระหว่างพิจารณา เรื่องอายุ “นายกฯ ๘ ปี” ว่าจะนับตั้งแต่ตอนไหนนั่นแหละ

คงใช้เวลาราวๆ เดือนครึ่ง น่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา ว่าคุณศักดิ์สยามจะพ้นไปเลยหรือกลับมาปฎิบัติหน้าที่ได้ตามเดิม
แต่สภาคงยุบก่อนมีคำวินิจฉัยออกมาแน่!

ประเด็นคือ คุณศักดิ์สยาม มีโอกาสกลับมาทำหน้าที่ “รัฐมนตรีรักษาการ” หรือไม่ เท่านั้นแหละ
เพราะกว่าจะได้รัฐบาลใหม่จากเลือกตั้งเข้ามาแตะมือรัฐบาลเก่า ก็คงไม่หนีสิงหา.คืออีกราวๆ ๕-๖ เดือนโน่น

ฉะนั้น ก็ต้องลุ้นกันตรงประเด็นนี้
ส่วนการ “หยุดปฎิบัติหน้าที่” หรือได้ทำหน้าที่ต่อตามวินิจฉัยศาล
นั่นไม่มีผลต่อการไปลงสมัครรับเลือกตั้งและการใช้สิทธิทางการเมือง

เพราะตำแหน่งรัฐมนตรีเป็น “ตำแหน่งเฉพาะตัว” ตามมาตรา ๑๗๐ ทั้งรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๗ ก็มิได้ห้าม

เข้าใจกันตามนี้นะ!

ที่จริง เมื่อวาน “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัยออกมา ๒ เรื่อง นอกจากเรื่องรัฐมนตรีศักดิ์สยามแล้ว ก็ยังมีเรื่องการตีความคำว่า “ราษฎร” ด้วย

ศาลมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยเช่นกันว่า….

“การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๖(๑)
ที่กำหนดให้ใช้ “จำนวนราษฎรทั้งประเทศ” ตามหลักฐาน การทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง นั้น

คำว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย
กกต.ก็ต้องคำนวณ “จำนวนส.ส.พึงมี” แต่ละจังหวัดใหม่ โดยต้องไม่นำผู้ที่ “ไม่มีสัญชาติไทย” มาคำนวณ เหมือนเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

สรุปเป็นว่า จากจำนวนราษฎรที่ไม่รวมผู้ไม่มีสัญชาติไทย ณ วันที่ ๓๑ ธค.๖๕ ตามประกาศสำนักทะเบียนกลาง มีทั้งสิ้น ๖๕,๑๐๖,๔๘๑ คน

ในจำนวนสส.๔๐๐ ก็จะได้ค่าเฉลี่ยราษฎร ๑๖๒,๗๖๖ คน ต่อส.ส. ๑ คน
ส่งผล “เพิ่ม/ลด” จำนวน ส.ส.ใน ๘ จังหวัด

จังหวัดที่มีส.ส.เพิ่ม ๑ คน มี ๔ จังหวัด อุดรธานี, ลพบุรี, นครศรีธรรมราช และปัตตานี

ที่มีส.ส.ลดลง ๑ คน มี ๔ จังหวัด เชียงใหม่, เชียงราย, ตาก และสมุทรสาคร

เอาเป็นว่า เรามาตั้งโหมดความจำกันใหม่ เกี่ยวกับจำนวนสส.แต่ละจังหวัด จะเป็นดังนี้

กทม.ยังคง ๓๓ คน มากสุด รองลงมาก็ที่ นครราชสีมา ส.ส.๑๖ คน

-สส.๑๑ คน ๒ จังหวัด ขอนแก่นและอุบลราชธานี
-ส.ส.๑๐ คน ๕ จังหวัด นครศรีธรรมราช,ชลบุรี, เชียงใหม่,อุดรธานี และบุรีรัมย์
-ส.ส.๙ คน ๒ จังหวัด ศรีสะเกษและสงขลา

-ส.ส.๘ คน ๔ จังหวัด นนทบุรี,ร้อยเอ็ด,สมุทรปราการ และสุรินทร์
-ส.ส ๗ คน ๕ จังหวัด เชียงราย,ชัยภูมิ,​ปทุมธานี,สกลนคร และสุราษฎร์ธานี
-ส.ส. ๖ คน ๕ จังหวัด กาฬสินธุ์,นครปฐม,นครสวรรค์, เพชรบูรณ์ และมหาสารคาม

-ส.ส.๕ คน ๙ จังหวัด ปัตตานี,ลพบุรี,กาญจนบุรี, นราธิวาส,อยุธยา,พิษณุโลก,ระยอง,ราชบุรี และสุพรรณบุรี
-ส.ส. ๔ คน ๘ จังหวัด กำแพงเพชร,ฉะเชิงเทรา,ตรัง, นครพนม,ลำปาง,เลย,สระบุรี และสุโขทัย

-ส.ส.๓ คน ๒๑ จังหวัด ตาก,กระบี่,จันทบุรี,ชุมพร,น่าน, บึงกาฬ,ประจวบคีรีขันธ์,ปราจีนบุรี,พะเยา,พัทลุง,พิจิตร เพชรบุรี,แพร่,ภูเก็ต,ยโสธร,ยะลา,สระแก้ว,หนองคาย หนองบัวลำภู,สมุทรสาคร และอุตรดิตถ์

-ส.ส. ๒ คน ๑๐ จังหวัด ชัยนาท,นครนายก,พังงา, มุกดาหาร,แม่ฮ่องสอน,ลำพูน,สตูล,อ่างทอง,อำนาจเจริญ และอุทัยธานี

-ส.ส. ๑ คน ๔ จังหวัด ตราด,ระนอง,สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี

อาจมีบางคนร้อง อ้าว…แบบนี้เลือกตั้งปี ๖๒ ที่นับเอาผู้ไม่มีสัญชาติไทยเป็นราษฎรไปคำนวณแบ่งเขตเลือกตั้งด้วย ก็โมฆะซี?

ไม่หรอกครับ ในคำวินิจฉัยศาล ท่านระบุไว้ชัดเจนเลยว่า
“ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป”

คือที่แล้ว…ก็แล้วไป
คำวินิจฉัยไม่มีผลย้อนหลัง จะมีผลเดินหน้าตั้งแต่ ๓ มีค.คือจากเลือกตั้ง ๗ พฤษภา.๖๖ เป็นต้นไป

คุยมาทั้งหมด เกี่ยวกับตัวเลขล้วนๆ มึนหัวกันเลยใช่มั้ย ก็ไม่ได้นำมา “ให้อ่าน” เพียงนำมา “ให้รู้”

จะว่าไป การเลือกตั้งนี่ เป็นทั้งการกระจายรายได้เข้าสู่ระบบ “สร้างสภาพคล่อง” ให้ระบบ นับเป็นหลายหมื่นล้าน

แบบนี้ ให้มีการเลือกตั้งกลางเทอมด้วยละก็ เจ๋งเลย ชาวบ้านบอก ดีกว่าตั้งบ่อนกาสิโนซะอีก

เข้าบ่อน ต้องลงทุน แถมเปอร์เซนต์หมดตูดมากกว่าได้ แต่เลือกตั้ง ไม่ต้องลงทุน ได้แน่ๆ แค่มีบัตรประชาชนใบเดียว จะได้มาก-ได้น้อย ขึ้นอยู่ว่า หัวคะแนนจะ “อมมาก-อมน้อย” เท่านั้น

แต่ละพรรคตอนนี้ ขยันเดินสายกันดีจริงๆ ผมกำลังเก็บตัวเลขจากนโยบายแต่ละพรรคที่หาเสียงว่า พรรคไหนสัญญาจะให้เท่าไหร่

รวมแล้ว แต่ละปี ถ้าได้เป็นรัฐบาล จะต้องใช้เงินกี่แสนล้านบาทแจกจ่ายให้ชาวบ้านกันตามสัญญาในรูปแบบต่างๆ
เห็นทุกพรรค “จะให้…จะให้”
ยังไม่ได้ยินซักพรรคที่บอกว่า “จะหา…จะหา” เงินจากที่ไหน เข้ามาเป็นรายได้รัฐ เหลือเฟือจนสามารถแจกจ่ายกันได้ตามที่หาเสียง

การเมืองเรื่องเลือกตั้ง มันคือกระจกสะท้อนชาวบ้าน
ภาพสะท้อนตอนนี้ ชาวบ้านชอบ “อาหารสำเร็จรูป” และไม่เพียงสำเร็จรูปเฉยๆ ยังต้อง “ปรุงสุก” พร้อมบริโภคอีกด้วย!

“เงิน..เงิน..เงิน”
เงินอย่างเดียว ไม่มี “งาน..งาน..งาน” ยิ่งพวกที่บอกว่า ข้า…คนรุ่นใหม่ด้วยแล้ว “หลอกง่าย” ที่สุด

ไม่เชื่อไปดูซี พวกไหนที่เจ๊ง “บิทคอยน์” นั่นน่ะ พวกรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็กมหา’ลัยนั่นละ สังคมชาติในอนาคต ฝากไว้กับการ “โดดตึก” มากที่สุด!

ประชาธิปไตยใต้นิยาม “เลือกตั้ง” เขาออกแบบมาให้ระบบทุนมาเฟียครองอำนาจ ประชาชนคือ “ลมตด” จากปากนักเลือกตั้งเท่านั้น

กับสังคมที่ “พัฒนามนุษย์” ด้านกายกับด้านจิตสำนึกให้อยู่ระดับเดียวกันยังไม่ได้
ประชาธิปไตยเลือกตั้ง มันก็เข้าลักษณะ “ให้คนป่าเล่นปืน”!

เรื่อง “ซื้อเสียง” เลิกพูด มันปกติไปแล้ว
ทุกวันนี้ แค่ฟังปราศรัย ยังต้องจ้าง

ก็คิดเอาละกัน ว่า ถ้าสังคมชาติเป็นแบบนี้
จะยังเหลืออะไร “เพื่อชาติ” ที่ไม่ต้องซื้อ-ต้องจ้างอยู่อีกบ้าง?

เปลว สีเงิน
๔ มีนาคม ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
“ทอน” ไม่รู้!แล้วจะรอดหรือ
ผักกาดหอม ท่าจะรอดยาก เรื่องตัวเองยังไม่รู้ แล้วจะให้คนอื่นเข้าใจได้อย่างไรกัน ครับ…วานนี้ (๑๘ ตุลาคม) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยาน คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยความเป็น ส.ส.ของนายธนาธร...
Read More
0 replies on “คิดเล่นๆ แต่เป็นจริงๆ – เปลว สีเงิน”