26 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ให้การต้อนรับ นายอิสซา อับดุลเลาะฮ์ ญาบิร อัลอาลาวี (H.E.Mr.Issa Abdullah Jaber Al-Alawi) เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทย ขอเข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสรับหน้าที่ และหารือประเด็นการส่งออกข้าวไทย และสินค้าฮาลาล
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตั้งแต่มีสถานทูตโอมานประจำประเทศไทยตลอด 27 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสได้พบกันที่กระทรวงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยโอมานมีประชากรประมาณ 5,000,000 คน เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเป็น Trader (เทรดเดอร์) ในตะวันออกกลาง ซึ่งสำหรับไทย โอมานจะเป็นประตูส่งออกสินค้าไทยไปสู่ตลาดอื่นๆ ในตะวันออกกลาง
โดย โอมานเป็นประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางที่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุดและมีทางออกสู่ทะเล ถือเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของไทยในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และอันดับที่ 41 ของโลกของไทย ปี 63 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 29,260 ล้านบาทหรือประมาณ 30,000 ล้านบาท ไทยส่งออกไปโอมาน 11,000 ล้านบาท ซึ่งยังขาดดุลอยู่ เพราะนำเข้าน้ำมันจากโอมาน แต่ 10 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น 110% การส่งออกไทยไปโอมาน เพิ่มขึ้น 35% มูลค่าการส่งออก 10 เดือนแรก ประมาณ 13,000 ล้านบาท สินค้าไทยที่ส่งออกไปโอมาน เช่นรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง ตู้เย็น อาหารทะเลกระป๋อง และสินค้าอื่นๆ
ประเด็นที่ตนกับท่านทูตเห็นตรงกัน
ประเด็นที่หนึ่ง เราจะช่วยกันดำเนินการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากขึ้นโดยเฉพาะการค้าการลงทุน
ประเด็นที่สอง ควรเร่งรัดการให้การรับรองตราฮาลาลของประเทศไทยโดยโอมาน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นพิเศษเพราะหากโอมานให้การรับรอง ตราสินค้าต่างๆ การส่งออกสินค้าจะทำได้สะดวกคล่องตัวและสร้างภาพลักษณ์ ให้ได้รับความเชื่อถือจากประชากรโอมานและกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมากขึ้น
ประเด็นที่สาม ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยช่วยกันเร่งรัด MoU การลงทุนซึ่งยังค้างคาอยู่
และสิ่งที่ตนเสนอกับท่านทูต ประการที่หนึ่ง อยากเห็นการทำ MoU ระหว่างการยางแห่งประเทศไทยกับโอมานเพื่อสนับสนุนให้มีการนำยางพาราของไทยไปทำถนนในโอมานและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพราะถนนยางพาราสามารถทนต่ออากาศร้อนได้สูง ขณะนี้ได้มีความคืบหน้า แต่ติดขัดช่วงโควิด ขอให้ท่านทูตสนับสนุนให้เกิดโดยเร็วต่อไป
ประการที่สอง ตนขอให้โอมานช่วยนำเข้าสินค้าไทยไปยังโอมานมากขึ้น เช่น ข้าวคุณภาพสูง ยางพารา เครื่องปรับอากาศ ตู้แช่ อาหารกระป๋อง ผลไม้ ซึ่งมะขามหวานเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูงมากในโอมาน
ประการที่สาม ตนขอให้ท่านทูตช่วยประสานงานกับภาครัฐและภาคเอกชนโอมาน เข้าร่วมงานแสดงสินค้าของไทยที่จะจัดในปี 65
1. Bangkok Gems and Jewelry Fair
2.งาน THAIFEX ANUGA Asia (24-28 พฤษภาคม 2565) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาหาร
3. TILOG LOGISTIX (Thailand International Logistics Fair) เกี่ยวกับด้านโลจิสติกส์
4. Bangkok RHVAC งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และ Bangkok Electric & Electronics งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
5.TAPA (Thailand auto parts & accessories) เกี่ยวกับรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
6. Bangkok Style เกี่ยวกับสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น และมาร่วมงาน Online Business Matching (OBM) เซ็นสัญญาซื้อขายกันต่อไป
ส่วนท่านทูตมีข้อเสนอแนะ 2 ประเด็น
ประเด็นที่หนึ่ง ท่านทูตอยากเห็นอยากเห็นประเทศไทยไปเปิดตลาด หรือตลาดแสดงสินค้าของไทยในโอมาน เหมือนกับที่เราไปเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่บาห์เรน ซึ่งตนเห็นด้วยและจะหาลู่ทางเพิ่มเติม ประเด็นที่สอง การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันทั้งภาครัฐและเอกชนระหว่างไทยกับโอมาน ตนก็รับข้อเสนอแล้วจะประสานงานกันต่อไป