DITTO ฟอร์มสวยชูผลการดำเนินการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 แข็งแกร่งสวนกระแสเศรษฐกิจที่ยังผันผวน ทำกำไรสุทธิทะลุเป้า 49 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 34% เผยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกพุ่งกระฉูด 129 ล้านบาทสูงกว่าปีที่แล้วทั้งปี “ฐกร” ประกาศเดินหน้าลุย Data and Document Solutions ธุรกิจ Cyber Security และ ธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีเพราะเป็นธุรกิจที่มีกำไรขั้นต้นสูง มั่นใจกำไรปีนี้ทั้งปีสูงกว่าเป้าแน่
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน (DITTO) ผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลอย่างครบวงจร (Document and Data Management Solutions) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 มีอัตราการเติบโตโดดเด่นสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 34% และมีรายได้จากการขายและบริการ 337 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 38 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 13%
สำหรับไตรมาส 3/2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นสูงขึ้นจาก 26% เป็น 28% จากการบริหารต้นทุนในส่วนงานบริหารจัดการระบบงาน (BPO) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาปรับปรุง Software ที่ใช้ในการทำงานอย่างต่อเนื่องจึงทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นสูงใกล้เคียงกับงวดปีก่อน
ขณะเดียวกันบริษัทย่อยได้มุ่งเน้น การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในโครงการรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีจึงทำให้โครงการของบริษัทย่อยมีความเฉพาะทาง ทางประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนโครงการได้เป็นอย่างดี จึงทำให้บริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น
ขณะที่ภาพรวม 9 เดือนแรกในปี 2564 มีกำไรสุทธิ 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 34 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 36% และมีรายได้จากการขายและบริการ 851 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 93 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 12%
สำหรับการเติบโตในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานั้น มาจากกลุ่มธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและระบบการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cyber Security) มูลค่า 146 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 71 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 95%
ขณะที่งานรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในไตรมาส 3/2564 มีมูลค่า 83 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อนโดยบริษัทย่อยยังคงมุ่งเน้นการขยายงานโครงการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น โครงการท้องฟ้าจำลอง โครงการพิพิธภัณฑ์
ส่วนรายได้จากธุรกิจให้เช่า จำหน่าย และให้บริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ สินค้าเทคโนโลยีอื่น ๆ มีรายได้ลดลงจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลต่อรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการเช่าและบำรุงรักษาเครื่องถ่ายเอกสารซึ่งปรับตัวลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน
แต่ในขณะเดียวกัน รายได้จากการขายและติดตั้งสินค้า Drive-Thru ยังคงมีอุปสงค์อย่างต่อเนื่องจากการปรับตัวในยุค New Normal ของกลุ่มลูกค้า Food Chain ภาคเอกชน
“สำหรับเป้าหมายของบริษัทในปีนี้ ในส่วนของ 3 กลุ่มธุรกิจเราจะยังเดินหน้าตามแบ็กล็อกที่เข้ามา คาดว่าจะทำให้รายได้โตเกินเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอนและจะเน้นขยายผลธุรกิจ Data and Document Solutions ธุรกิจ Cyber Security และ ธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีเพราะเป็นธุรกิจที่มีกำไรขั้นต้นสูง” นายฐกร กล่าวทิ้งท้าย