ไม่สำนึกผิดจำนำข้าว-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ช่วงนี้การเมืองมีตรรกะเพี้ยนๆ

ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะเมากาว

เรื่องจำนำข้าวกลับมาเป็นประเด็น เพราะ “ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” โฆษกพรรคเพื่อไทย โจมตี ๗ ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ

“…กู้เงินมามากกว่า ๕.๘ ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับชาวนาเลย กู้เงินจำนวนมหาศาล รัฐบาลนำไปใช้ในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ และอื่นๆ เป็นภาษีของประชาชน และเป็นภาระหนี้ที่แม้แต่ชาวนาก็ต้องรับภาระหนี้ด้วย…”

“…ชาวนาคือเส้นเลือดหลักหล่อเลี้ยงชีวิตคนไทยและคนทั่วโลก ข้าวจากประเทศไทยสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล

ทุกวันนี้ชาวนาจำนวนไม่น้อยบ่นคิดถึงโครงการจำนำข้าว ที่เคยเป็นที่พึ่งหลังเก็บเกี่ยวข้าว มีรายได้ที่แน่นอน

หากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ยังดำรงตำแหน่งอยู่ คงไม่ปล่อยให้คนไทยลำบากแบบนี้…”

ครับ…ฟังแล้วขนแขนสแตนด์อัป!

พลิกความอัปยศเป็นโอกาสชัดๆ

ชาวนาถูกปั่นหัวว่าโครงการรับจำนำข้าวคือทางออกของความยากจน

แต่ความจริง จำนำข้าวไม่รู้กี่ฤดูกาล ชาวนาไม่เคยลืมตาอ้าปากได้

ยังจนเหมือนเดิม

ช่างบังเอิญว่า พรรคเพื่อไทยรื้อฟื้น จำนำข้าว ช่วงเวลาเดียวกับการจากไปของ “ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ รามางกูร”

ดร.โกร่ง เคยเป็นประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ท่านได้ เขียนบทความเรื่อง “จำนำข้าวเปิดช่องทางทุจริต ทำลายโครงสร้างตลาด” ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ เตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก่อนที่จะเกิดหายนะกับโครงการรับจำนำข้าว

นำมาให้อ่านกันอีกครั้งครับ

——————-

“…ฟังว่าจะใช้เงิน ๔-๕ แสนล้านบาทหมุนเวียนซื้อสินค้าเกษตรมากักตุน ก็เท่ากับคิดจะปั่นราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก หรือภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า corner the market ตลาดโลกข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดจึงเป็นไปไม่ได้

คนที่เคยทำแล้วล้มละลายก็มีมาก ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ ที่ล้มก็สืบเนื่องมาจากการพยายามปั่นตลาด หรือจะ corner ตลาดใบยาสูบ

ดังนั้นเมื่อผลิตได้เท่าไหร่ รีบส่งออกได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี แล้วก็ปลูกใหม่

ในทางปฏิบัติยิ่งมีปัญหา วิธีทำก็คือการเลือกโรงสีเข้าร่วมโครงการ โรงสีไหนได้รับเลือกก็เหมือนถูกหวย

เมื่อรัฐบาลตั้งราคารับจำนำไว้สูงกว่าราคาตลาด สมมุติ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ โรงสีก็จะซื้อข้าวเปลือกในราคาตลาด หรือไม่ก็ไม่ซื้อเลย แล้วทำใบประทวนสินค้าปลอมว่าซื้อข้าวใส่โกดัง แล้วให้ชาวนาหรือลูกจ้างของตนมาลงชื่อว่าเอาข้าวมาจำนำเท่านั้นเท่านี้เกวียน

เอาค่าลงชื่อไป ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท อาจจะซื้อข้าวชาวนาอิทธิพลบางรายในราคาที่รัฐบาลประกาศบ้าง เวลาทางการมาตรวจเช็กก็จะให้เอาชาวนา ๕-๕ คนนี้มายืนยัน

เวลาทางการมาตรวจสต๊อก ก็เอาสต๊อกข้าวของตนเองมาแสดงพอเป็นพิธี ชาวนาโดยทั่วไปเมื่อขายข้าวให้โรงสีก็ขายในราคาตลาดนั่นเอง นี่คือการฉ้อราษฎร์บังหลวงในรอบแรก

ต่อมาเมื่อข้าวเปลือกที่นำมาจำนำเป็นของรัฐบาล อาจจะมีข้าวจริงบ้าง ข้าวลมบ้าง กระทรวงพาณิชย์ก็เอาไปขายเป็นข้าวรัฐบาล

โดยจะมีบริษัทส่งออกที่รู้กันกับรัฐมนตรี ไปเร่ขายในตลาดต่างประเทศ และกล้ารับคำสั่งซื้อเพราะรู้กันกับรัฐมนตรีว่าจะสามารถซื้อข้าวจากรัฐบาลได้ในราคาเท่าใด รายอื่นไม่กล้ารับคำสั่งซื้อ เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะขายให้หรือไม่ในราคาเท่าใด

ผู้ส่งออกรายอื่นๆ จึงไม่อาจจะรู้ต้นทุนของตน ยกเว้นรายที่ทำมาหากินกับรัฐมนตรีพาณิชย์หรือนายกรัฐมนตรี ประเทศเราส่งออกปีละ ๙-๑๐ ล้านตัน บางปีข้าวรับจำนำของรัฐบาลมีปริมาณถึง ๓.๕ ล้านตัน

โครงการนี้จึงเป็นโครงการทำลายโครงสร้างตลาดข้าวในประเทศ โรงสีที่ไม่มีเส้นสายเข้าร่วมโครงการก็ล้มละลายไป เพราะไม่มีข้าวส่งออก ทำให้โรงสีมีน้อยลง

โรงสีที่เคยมีการแข่งขันก็กลายเป็นการผูกขาดโดยโรงสีที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เท่านั้น เป็นการเพาะศัตรูให้กับพรรครัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา เพราะโรงสีที่ไม่ได้ร่วมโครงการ หรือผู้ส่งออกที่ไม่ใช่พวกรัฐมนตรี มีมากกว่าที่เป็นพวกรัฐมนตรี

ในกรณีรับจำนำมันสำปะหลังก็ดี ยางพาราก็ดี หรือแม้แต่ลำไยก็มีลักษณะเดียวกัน

กล่าวคือ โรงมัน โรงเก็บยางแผ่น ซื้อมัน ซื้อน้ำยาง ยางแผ่นในราคาตลาด ให้ชาวไร่ชาวสวนยางลงชื่อเพื่อรับเงินค่าลงชื่อ แล้วก็เอามาจำนำกับรัฐบาลในราคาสูงกว่าราคาตลาด

เมื่อรัฐบาลจะขายก็ขายในราคาต่ำกว่าราคาตลาดให้กับผู้ส่งออกที่หาเงินให้รัฐมนตรี ไปขายในตลาดโลกตัดราคาผู้ส่งออกรายอื่น เอาคำสั่งซื้อไป เพราะตนรู้อยู่คนเดียวว่าจะสามารถซื้อจากรัฐบาลได้ในราคาเท่าใด

เมื่อรัฐบาลจะขายข้าว ขายมัน ขายยาง โดยรับคำสั่งซื้อแล้วก็จะไม่ส่งออกเอง แต่มอบให้พ่อค้าผู้ส่งออกประมูลไป

การประมูลก็ทำหลอกๆ เพราะมีการกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติให้ตรงกับผู้ส่งออกที่รัฐมนตรีกำหนดตัวไว้แล้ว แบ่งกำไรกันกิน

นี่คือการฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือคอร์รัปชันจากโครงการจำนำสินค้าเกษตรรอบสอง

รัฐบาลเสียเงินขาดทุนมากมายส่วนเกษตรกรไม่ได้อะไรเลย ขายของได้ในราคาตลาดเท่านั้นเอง ที่ประชาธิปัตย์ทำไว้โดยการประกันรายได้นั้นดีแล้ว จ่ายส่วนต่างระหว่างราคาตลาดกับราคาประกันตรงให้ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวนเลย ถ้าชาวนา ผู้ใหญ่บ้าน กำนันจะโกง

ก็ยังดีกว่าโรงสีผู้ส่งออก รัฐมนตรีโกง…”

————-

เสียงเตือนจาก ดร.โกร่ง เกิดก่อนที่ยิ่งลักษณ์ จะใช้เส้นทางธรรมชาติหนีความผิด ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

การทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และโครงการต่อเนื่อง เช่นขายข้าวจีทูจีเก๊ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

มีรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง ติดคุกกันระนาว

ไม่เฉพาะ ดร.โกร่ง ที่เตือนให้ระวังคอร์รัปชัน

คนในแวดวง “ทักษิณ” อย่าง “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” ก็ออกโรงเตือน “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ก่อนติดคุุกแทนนาย แทนเจ๊

“…เวียนมาเจอและร่วมงานอีกครั้ง เมื่อ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเข้ามาเป็น ‘เลขาธิการนายกรัฐมนตรี’ หลังพ้นการตัดสิทธิ์ ปี ๒๕๕๕

‘เพื่อน’ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปเยี่ยมห้องครัวเพื่อนไฟไหม้ ที่กระทรวง ยังหัวเราะกันอยู่

จน ‘เพื่อน’ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผมเป็นเลขาธิการนายกฯ ได้เจอกันบ้าง แวะไปคุย เห็นเพื่อนแฟ้มเต็มโต๊ะ ยังเป็นห่วง

‘ใครดูให้มึง แต่ละเรื่องน่ากลัว’ ผมแอบพลิกแฟ้มดู

ช่วงวิกฤติ ผมงานหลายด้าน แต่ก็ไม่วายห่วงเพื่อน ส่งเรื่องจากทำเนียบก็คอยเตือนว่าเรื่องไปแล้วรีบจัดการ เราเป็นเพียง ‘เสมียน’ ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางทั้งหมด แต่รู้สึกเสมอว่าเพื่อน ‘ไม่สบายใจ’

หลังพายุพัดผ่าน รัฐประหารไปแล้ว เคยนั่งจิบไวน์คุยกันสองคน

ผมถาม​ ‘มึงเล่าให้กูฟังหน่อยว่าเรื่องเป็นยังไง’ ผมนับถือน้ำใจมันที่ตอบ ‘กูพูดไม่ได้’

เราร่ำสุราจนดึก แล้วไม่แตะเรื่องนั้นอีกเลย…”

สุดท้าย “บุญทรง” ติดคุก “ยิ่งลักษณ์” หนี

ฉะนั้นคำกล่าวที่ว่า “…หากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ยังดำรงตำแหน่งอยู่ คงไม่ปล่อยให้คนไทยลำบากแบบนี้…” สะท้อนให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย ไม่เคยสำนึกผิดต่อการคอร์รัปชันในโครงการรับจำนำข้าว จีทูจีเก๊ ที่สร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาทแม้แต่นิดเดียว

ในทางการเมือง หากประชาชนตามไม่ทัน เครือข่ายทักษิณก็พร้อมกลับมาโกงอีกครั้ง

เมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ



Written By
More from pp
จอห์น เกรย์ ตำนานแห่งท้องทะเลและการท่องโลกสำรวจถ้ำด้วยเรือแคนู ‘We Don’t Do Anything Normal’ เรื่องธรรมดาเราไม่ทำ
การผจญภัยเล็กๆ ได้เริ่มขึ้นท่ามกลางทะเลสีครามของอ่าวพังงา ฝีพายจากเรือแคนูลัดเลาะไปตามเกาะแก่งหินผาเสาะแสวงจนเจอถ้ำน้อยใหญ่ที่แฝงตัวอยู่หลังชะง่อนหินและเมื่อเรือล่องผ่านถ้ำและความมืดมิด… ลากูนสีเขียวมรกตโอบล้อมไว้ด้วยสวรรค์บนดินงดงามจนมิอาจละสายตาได้ปรากฏขึ้นอยู่เบื้องหน้า… ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกซุกซ่อนจากกาลเวลา จนกระทั่งจอห์น เกรย์ และเรือแคนูของเขาได้ไปถึง
Read More
0 replies on “ไม่สำนึกผิดจำนำข้าว-ผักกาดหอม”