29 ตุลาคม 2564 เวลา 09.30 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะประกอบด้วย นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
ลงพื้นที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในพื้นที่ 6 จังหวัด (กำแพงเพชร ตาก น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์) และร่วมกิจกรรม “เพื่อนช่วยเพื่อน กองทุนหมู่บ้านปันน้ำใจ ฟื้นฟูสมาชิกผู้ประสบภัยหลังน้ำท่วม” โดยมีนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รายชื่อส.ส.เข้าร่วมงาน จ.สุโขทัยดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย เขต 1 นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย เขต 2 และนายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พิจิตร เขต 2 นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 เข้าร่วม
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลใช้เป็นกลไกหลัก ในการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีของการดำเนินงาน กองทุนหมู่บ้านสามารถสร้างการมีส่วนร่วมการเรียนรู้การพัฒนาและการพึ่งพาตนเองได้อย่างดีและเป็นศูนย์กลางทางการเงินให้กับสมาชิกและประชาชนในหมู่บ้าน
“จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ฝากความห่วงใยมายังสมาชิกทุกท่าน รวมถึง นายสุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ผมเป็นตัวแทนในฐานะอนุกรรมการกองทุนฯ ลงพื้นที่มาติดตามให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา พี่น้องกองทุนที่ประสบภัย ตามมติคณะกรรมการกองทุนฯ ที่เห็นชอบให้มีการดำเนินโครงการพักชำระหนี้กองทุน เพื่อให้สมาชิกที่เดือดร้อนได้ผ่อนคลายภาระหนี้ ในรูปแบบ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ได้อย่างแท้จริง” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับโครงการพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นมาตรการที่ช่วยผ่อนคลายภาระหนี้ที่มีกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยสามารถพักชำระหนี้เงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการของเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านในการร่วมกันระดมเงินทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูอาชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกและประชาชน ให้สามารถมีกำลังใจในการกลับมาประกอบอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ หลังจากประสบอุทกภัย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยหลักของเงินหมุนเวียนภายในประเทศเป็นเงินทุนที่มาจากภาคการเกษตร หรือเงินจากดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญจึงมีการกำหนดนโยบายการขับเคลื่อนประเทศโดย BCG model ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านฯ โดยมีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มเข็ง สร้างรายได้และขยายโอกาสเข้าหาแหล่งเงินทุน ทำให้เกษตรกรไทยซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนหลักของประเทศมีความเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกล่าวยืนยันตลอดชีวิตการเมืองตั้งใจทำงานทุ่มเท เพื่อประชาชนมาโดยตลอดไม่เคยพูดให้ร้ายใคร ขอให้คำมั่นสัญญาในฐานะดูแลกำกับกองทุนหมู่บ้านจะเดินหน้าสานต่อนโยบายกองทุนหมู่บ้านให้ดียิ่งขึ้นไปเพื่อสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี หลุดพ้นจากวงจรความยากจนตามนโยบายนายกรัฐมนตรี
จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินสมทบทุน และถุงยังชีพ จำนวน 400 ชุด ให้แก่สมาชิกผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และเยี่ยมชมนิทรรศการกองทุนฯ ก่อนเดินทางกลับ