เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนการให้บริการวัคซีนโควิด 19 ว่า
เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) มีการอนุมัติกรอบการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในกลุ่มประเทศยุโรป เพราะตอนนี้เราต้องใช้แอสตร้าฯ มาฉีดเป็นเข็มที่ 3 ให้ประชาชน และด้วยศักยภาพการฉีดที่สูงถึงวันละ 9 แสนโดส ทาง สธ. ก็จะต้องเร่งหาวัคซีนให้เพียงพอต่อประสิทธิภาพการฉีด
ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับผู้ที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.64 ที่ผ่านมาเราฉีดเข็ม 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์แล้วกว่า 5 แสนคน
มีรายงานจาก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคว่า ได้เริ่มให้บริการแก่ประชาชน ที่ภูเก็ตแล้ว จากนี้ จะเป็นการฉีดแก่ประชาชนทั่วไป ประมาณ 2 ล้านคน คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในเดือน ต.ค.64
แผนปีนี้จะฉีดให้ครอบคลุมประชาชนทั้งประเทศ ส่วนการจัดหาวัคซีนในปี 2565 เป็นการเน้นจัดหาวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นหลัก
ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้ถามถึง ปัญหาการพบผู้ติดเชื้อที่ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” นายอนุทิน ตอบ ว่า ติดตามปัญหามาตลอด ทุกหน่วยงาน ทำงานเต็มที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์
ทั้งนี้ ระบบ สธ.ในต่างจังหวัด มีตั้งแต่ รพ.หลัก รพ.อำเภอ รพ.สต และยังมีเขตสุขภาพ โดยได้รับรายงานจากเขตสุขภาพที่ 11 ถึงสถานการณ์อยู่ตลอด การเจอผู้ติดเชื้อ เมื่อเจอแล้ว ต้องนำเข้าสู่ระบบการรักษา ต้องไปดูยอดผู้ป่วยอาการรุนแรง เรื่องนี้ ไม่ประมาท ต้องเร่งควบคุมสถานการณ์
“ช่วงเช้าวันนี้มีข้อสั่งการในที่ประชุมอีโอซีของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็รับนโยบายเกี่ยวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และจังหวัดใกล้เคียง เรื่องเร่งด่วน คือ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่ทุกคน ไปจนถึงระบบการควบคุม และรักษาที่ต้องมีประสิทธิภาพ”
