8 ก.ย.64 – ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการชุมนุมว่าวันนี้มีเพียงกลุ่มทะลุแก๊สว่าที่นัดหมายชุมนุมเวลา 17.30 น.ที่แยกดินแดง ขอเรียนย้ำว่ากรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ประกาศควบคุมสูงสุดการทำกิจกรรมมั่วสุม ชุมนุมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรคไม่สามารถทำได้ ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค และการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สเมื่อวันที่ 7 ก.ย. มีการใช้ระเบิดไปป์บอมป์ ใช้พลุเพลิง พลุไฟ จุดไฟเผาทรัพย์สินของทางราชการเป็นรถ จยย. 1 คัน
พร้อมกันนี้เป็นทรัพย์สินของเอกชนและทรัพย์สินสาธารณะประโยชน์ กรณีนี้ตำรวจมีการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี 15 คน ยึดระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่องและอาวุธที่ใช้ในการทำความผิด แจ้งข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคอีกส่วนหนึ่ง
กรณีที่เด็กและเยาวชนมาร่วมกระทำความผิด พนักงานสอบสวนได้รับตัวไว้ดำเนินคดี 5 คน ผู้ปกครองที่ปล่อยปะละเลยให้เด็กมาทำผิดอาจถูกตั้งข้อกล่าวหา ช่วงเดือนสิงหาคมได้ออกหมายเรียกผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมอีก 195 หมาย เป็นแกนนำ 31 หมายและกลุ่มผู้ชุมุนมอื่นๆ อีก 164 หมาย ส่วนผู้ปกครองของเด็กเยาวชนได้ออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 8 หมาย มาทำการสอบสวน หากมีส่วนให้เด็กมากระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีต่อไป
ส่วนการเผยแพร่ข่าวเท็จเด็กอายุ 14 ปี ถูกรถควบคุมฝูงชนชนได้รับบาดเจ็บ ข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ การเข้าจับกุมวานนี้ เป็นการเข้าจับกุมตามปกติโดยใช้รถยนต์ทำการปิดการจราจรบนถนนก่อนเข้าทำการจับกุมผู้กระทำความผิดไม่ได้ใช้รถยนต์เฉี่ยวชนแต่ประการใด มีคนได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียวเป็นชายอายุ 45 ปี จากรถ จยย.ล้มเป็นเหตุให้ไหปลาร้าหลุด และถูกส่งรักษาที่ รพ.ตำรวจ อาการปลอดภัย เจ้าหน้าที่จะได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้โพสต์ข่าวบิดเบือนตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯต่อไป
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า หนึ่งในจำนวนผู้ถูกจับกุมวานนี้เป็นชายชาวกัมพูชา จึงขอเตือนไปยังพี่น้องต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ถ้ามาทำผิดหรือร่วมชุมนุมหากถูกจับกุมตัวได้จะถูกส่งกลับประเทศตามหลักของกองตรวจคนเข้าเมือง หรืออาจมีคำสั่งให้เนรเทศจากกระทรวงมหาดไทย และอาจจะมีการขึ้นแบล็กลิสต์เป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไม่สามารถกลับมาทำงานในประเทศไทยได้อีก
รอง ผบช.น.ยังกล่าวถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าจับกุมกลุ่มทะลุแก๊สอย่างรวดเร็ววานนี้ว่า ในการรักษาความปลอดภัย ถ้าเจ้าหน้าที่มีการข่าวจะมีการวางเพลิงหรือก่อให้เกิดอันตราย เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าดำเนินการรักษาความเรียบร้อยบังคับใช้กฎหมาย การทำงานของเจ้าหน้าที่มีทั้งจับก่อน จับทีหลังและจับระหว่างเกิดเหตุแล้วแต่สถานการณ์การข่าว และพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด
“ฝากไปยังผู้สื่อข่าวและบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากผู้ชุมนุมพยายามใช้สัญลักษณ์ของสื่อมวลชนและบุคลากรทางแพทย์ ปลอมมาเป็นเจ้าหน้าที่และสื่อขอให้สอดส่องช่วยกันดูแล ถ้าบันทึกภาพได้ขอให้บันทึกไว้เราจะได้ดำเนินคดี อย่างเช่นครั้งที่ผ่านมามีการปลอมเป็นรถพยาบาลนำอุปกรณ์การก่อเหตุมาใช้ในการชุมนุมก็เป็นข้อมูลจากสื่อที่ให้ข้อมูลมาถึงจับได้”