ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
พระสงฆ์องค์เจ้าแสดงหนัง-ละครได้ด้วยหรือ?
นี่..เป็นความสงสัยที่อยู่ในใจผมมานาน แต่ก็ไม่รู้จะหาคำตอบเอาจากใครได้ หรือใครที่มีความรู้ในศาสนาพุทธอย่างลึกซึ้ง ถ้าจะกรุณาช่วยชี้แจง-อธิบายความ ก็จักขอบคุณ!
และวันนี้ที่ให้นึกถามเรื่องนี้ขึ้นมา ก็ด้วยเห็นข่าวจากสื่อที่หยิบเอาข้อความของคุณพชร์ อานนท์ ผู้กำกับหนัง ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมมารายงาน..
“ กราบนมัสการหลวงพี่ ก่อนอื่นต้องขอกราบขอบพระคุณหลวงพี่ทั้ง 2 ท่าน พระมหาไพรวัลย์ พระมหาสมปอง ที่มาช่วยคลายทุกข์คลายเครียดให้กับญาติโยม
ให้คลายทุกข์คลายโศกมีรอยยิ้มดีๆ เกิดขึ้น ในสถานการณ์แบบนี้ อย่าคิดอะไรกันเยอะ
ศาสนาที่เราเคารพนับถือก็ยังอยู่ พระที่เราบูชาก็คือพระ พวกเราแยกออก แค่ท่านมาสร้างรอยยิ้มให้คนพวกเรา ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว
คลายเครียดๆ จากโควิดอย่าคิดเยอะ ญาติโยมจะได้มีความสุขกันถ้วนหน้า หอแต๋วแตกแหกโควิด หลวงพี่ต้องมาแล้วล่ะ”
ประโยคท้ายนี้แหละ ที่ทำให้ผมต้องตั้งคำถาม เพราะดูท่าคุณพชร์ ผู้กำกับที่ได้ฉายา “สิงห์ปืนไว” จะนิมนต์พระ 2 รูปนี้ไปเล่นหนังแน่ ยิ่งอวยซะขนาดว่า..
“ศาสนาที่เราเคารพนับถือก็ยังอยู่ พระที่เราบูชาก็คือพระ พวกเราแยกออก แค่ท่านมาสร้างรอยยิ้มให้คนพวกเรา ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว”
ยิ่งไม่ต้องสงกะสัย ได้ “แหก” กันจีวรปลิวแน่ แต่ก็ขอให้ “เป็นบุญ” เฉพาะคุณพชร์เถอะนะไม่ต้องเผื่อแผ่มาถึงผมหรอก เพราะที่บอก “พวกเราแยกออก” นั้น..
ดูเหมือนจะเข้าตามตำรา.. “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย” เสียแล้วล่ะ!
อย่างไรก็ตาม อ่านข่าวที่พระพยอม กัลยาโณ กล่าว..“ในกระแสไลฟ์สดที่มีผู้กำกับหนังถึงกับขนาดอยากนิมนต์พระมหาทั้ง 2 รูป ไปเล่นหนังนั้น อาตมาว่าไม่เหมาะสม เลยเถิด
ถ้าคุณจะทำกับพระอย่างนั้น อาตมาว่าไปหานักแสดงมาสวมบทบาทแทนจะเหมาะสมกว่าขอเตือนนายทุนเหล่านี้ว่าที่ผ่านมาเคยมีผู้กำกับหนังในอดีตมานิมนต์พระจริงๆ ไปเล่นหนัง
หลังจากนั้นมาผู้กำกับคนนี้ก็ประสบความหายนะมาโดยตลอด ทำกิจการแย่ ทำมาหากินไม่ขึ้น และเกิดอุบัติเหตุตามมาอีก สู้จ้างตัวแทนแสดงแทนจะเหมาะกว่าที่จะนำพระจริงๆ ไปแสดงมากกว่า”
ก็..ทำให้เบาใจขึ้นมาได้หน่อยนึง เหตุที่ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย ด้วยพระคุณเจ้าได้ติดเงี่ยงเอาไว้ว่า.. “การแสดงนั้นเป็นการให้ความรู้เป็นบทสอนใจโดยตรง แค่ฉากสองฉากอาตมาว่าคงพอทำได้
เหมือนในอดีตที่อาตมาเคยเข้าฉากในหนังเรื่องวัลลีมาแล้วเช่นกัน”
ซึ่งถ้าตามนี้ก็หมายความว่า “พระเล่นหนัง-ละครได้” เพราะถ้าจะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับบันเทิง-เริงรมณ์เลย..