สมัคร..รับบริการ…“ครบวงจร”

โควิด-19 ตัวร้ายยังอยู่กับเราไปอีกนาน…

ไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่ คำถามนี้ไม่รู้จะหาใครมาตอบได้ แต่ก็เชื่อมั่นคนไทยว่ามีใจสู้อยู่แล้ว

รอบนี้แม้จะรุนแรงเหลือเกิน แต่ท่ามกลางสงครามมักจะมี”ดอกไม้”งามผุดขึ้นมาเสมอ

เพราะล่าสุด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ผู้มีโครงการช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตเสมอ ก็ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และพันธมิตรทางการแพทย์ อย่างมูลนิธิโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกฯ และโรงพยาบาลปิยะเวท

จัดตั้ง “หน่วยคัดกรอง และโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End)” ขึ้น

พร้อมให้บริการ “ฟรี!” กับกลุ่มประชาชนที่เดือดร้อน

โดยเปิดศูนย์บริการทั้งหน่วยคัดกรอง และโรงพยาบาลสนามแบบครบวงจร

ภายใต้แนวคิด “ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว” แต่การใช้งานก็จำเป็นต้องมีระบบระเบียบหน่อย

โดยคนที่จะเข้าไปใช้ ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “QueQ” โทรศัพท์สมาร์ทโฟนโหลดได้หมดทั้งแอนดรอยและ IOS พอโหลดเสร็จแล้วก็กดเข้าไปเลือกที่เมนู “บริการสาธารณะ”

เข้ามาก็จะมีให้เลือกรูปแบบบริการ เราก็ไปที่ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ที่ระบุสถานที่เป็น EnCo Terminal (ศูนย์ลูกเรือฯ เดิม เยื้องสนามบินดอนเมือง)

และก็ทำการลงทะเบียนโดยมีขั้นตอน คือ ลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งเป็นการพร้อมลงทะเบียนใน Link สปคม. ที่แนบในแอป

เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย เราก็จะได้เลข 4 หลัก ส่งมาทางมือถือ

ซึ่งเราก็เอาเลข 4 หลักนี้แหละไปแสดงเป็นหลักฐานในวันตรวจโควิด-19 ที่หน่วยคัดกรอง รับตรวจ ตามวันและรอบเวลาที่ลงทะเบียน

และที่ต้องลงทะเบียนเนี้ย ก็เพื่อลดความแออัดของจุดตรวจ และก็จองคิวเพื่อรับสิทธิ์ที่เขามีให้ เพราะแต่ละวันจะสามารถให้บริการได้ประมาณ 1,500 – 2,000 คน

“ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า 1 วัน” ด้วยนะ

แล้วที่บอกว่าโครงการ End-to-End ครบวงจรเนี้ย เพราะว่า…

แบ่งเป็น 4 จุด

จุดแรกก็คือจุดตรวจและคัดแยกผู้ป่วย ที่เราต้องลงทะเบียนไปนี่แหละ

โดยตั้งอยู่ ณ อาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer ของ บริษัท Energy Complex ในกลุ่ม ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

มีการวางระบบดิจิทัลเพื่อลงทะเบียน และเริ่มจากการตรวจโดยใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) และหากพบว่ามีการเสี่ยงติดเชื้อ จะนำส่งตรวจ RT-PCR ต่อไป เพื่อให้การแสดงผลนั้นแน่นอน

สำหรับผู้ป่วยระดับ ”สีเขียว” ที่ตรวจพบเชื้อ สามารถทำการดูแลตัวเองเบื้องต้นที่บ้านหรือในชุมชน ก็จะได้รับมอบ “กล่องพลังใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ประกอบไปด้วยชุดอุปกรณ์การทางแพทย์และยาที่จำเป็น รวมทั้งระบบ ติดตามอาการ

ส่วนกลุ่มที่อยู่นอกเหนือจากนั้น ก็มีบริการรองรับไว้ในจุที่ 2 , 3 และ 4

โดยภายใต้โครงการได้จะจัดเตรียมเป็นโรงพยาบาลสนามครบวงจร รองรับการรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ไว้แล้ว ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลปิยะเวท

๐ โดยโรงพยาบาลสนามสำหรับกลุ่มระดับ “สีเขียว”

จะให้บริการในรูปแบบของ Hospitel กระจายไปในหลายโรงแรมในกรุงเทพฯ จำนวนกว่า 1,000 เตียง รองรับผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากหน่วย คัดกรองอย่างเป็นระบบ

๐ ส่วนผู้ป่วยระดับ “สีเหลือง”

คือผู้ป่วยที่มีอาการในระดับหนักขึ้น จะให้บริการโรงพยาบาลสนามในพื้นที่กรุงเทพฯ มีเตียงผู้ป่วยจำนวน 300 เตียง มีระบบออกซิเจนส่งตรงถึงทุกเตียงผู้ป่วย

๐ และสุดท้ายคือโรงพยาบาลสนาม สำหรับผู้ป่วยระดับ “สีแดง”

ได้จัดสร้างโรงพยาบาลสนาม ICU บนพื้นที่4 ไร่ จำนวน 120 เตียง โดยจัดทำห้องรักษาความดันลบแยกรายผู้ป่วย ห้องละ 1 เตียง พร้อมระบบดูแลครบวงจรห้องฉุกเฉินให้บริการ ตลอด 24 ชั่วโมง

คำถามที่ว่าโควิด-19 จะหายไปจากโลกนี้เมื่อไหร่ ก็ยังตอบยากเหมือนเดิม

แต่พอได้ความร่วมแรงร่วมใจกันของ “คนในประเทศ” ของ “ภาครัฐ” ของ “ภาคเอกชน” แล้ว

เชื่อว่าไม่นานนี้หรอก “ประเทศไทย” จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ …. รอดูได้เลย!

 

 

 

 

Written By
More from pp
ผู้ป่วยติดเตียง ลงทะเบียนรับ “ผ้าอ้อมผู้ใหญ่” จากกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นเพื่อคนไทยทุกคน ได้แล้ววันนี้เป็นต้นไป
19 ตุลาคม 2566 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเชิญชวนคนไทยที่มีภาวะพึ่งพิง ป่วยติดบ้าน หรือป่วยติดเตียง (ค่า ADL...
Read More
0 replies on “สมัคร..รับบริการ…“ครบวงจร””