ผักกาดหอม
รอดูครับ….
สัปดาห์นี้น้ำลายจะท่วมสภา หรือรัฐบาลจะถูกน็อก
ฝ่ายค้านเปิดซักฟอกรัฐบาล เริ่มตั้งแต่วันที่ ๓๑ สิงหาคม ยัน ๓ กันยายน
ลงมติวันเสาร์ที่ ๔ กันยายน
ประเด็นหลักที่จะอภิปราย ตามข่าวมีไม่กี่เรื่อง
อาทิ บริหารโควิดผิดพลาด วัคซีนไม่พอ รวมถึง ปฏิรูปตำรวจ ที่เพิ่งจะงอกมา เป็นต้น
ส่วนที่สับขาหลอก เก็บไว้เซอร์ไพรส์ ในวันอภิปรายจะมีหรือเปล่า…ไม่ทราบครับ
มาตรวจสอบสถานการณ์โควิด-๑๙ ล่าสุดกันหน่อย
จำนวนผู้ติดเชื้อค่อยๆ ลดลง มาแตะหมื่นกลางๆ
ผู้เสียชีวิตยังสูงอยู่ แต่ตัวเลขนี้มาจากจำนวนผู้ป่วยเมื่อสัปดาห์ถึงสองสัปดาห์ที่แล้ว
ฉะนั้นคงต้องรออีกประมาณ ๑ สัปดาห์ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะค่อยๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แต่…ฝ่ายค้านดูไม่ค่อยจะพอใจ
“สุทิน คลังแสง” นักการเมืองหัวเห็ดจากเพื่อไทย ถึงกับข้องใจ
“…รู้สึกสงสัยในข้อเท็จจริงเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตที่ลดลงอย่างผิดสังเกต ซึ่งไม่น่าจะสอดคล้องกับความเป็นจริง
เพราะขณะนี้การตรวจด้วยตัวเองเริ่มมีมากขึ้น ผู้ติดเชื้อกระจายไปตามต่างจังหวัด เกิดคลัสเตอร์และเสียชีวิตในชุมชนมากขึ้น
ตัวเลขจากส่วนนี้ได้นับรวมเข้าระบบหรือไม่ ถ้าไม่แล้ว สถานการณ์จริงจะผิดเพี้ยนไปจากที่รายงานมาก
ช่วงนี้กำลังจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกรงรัฐบาลจะอำพรางสถานการณ์ให้ดูดี เพื่อลดน้ำหนักการอภิปรายและเอาตัวเองให้รอดเท่านั้น
ซึ่งถ้าทำเช่นนั้นขอเตือนรัฐบาลว่าไม่คุ้ม เพราะกรรมจะตกที่ประชาชนหนักกว่าเดิม…”
ครับ…ก็เป็นธรรมดา จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่รอมร่อแล้ว ตัวเลขคนป่วย คนเจ็บ ดันมาอยู่ในช่วงขาลง
ในมุมมองฝ่ายค้านอย่างไรซะก็ตรงข้ามกับรัฐบาลทุกเรื่อง
แต่เรื่องโควิด ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น
ตัวเลขที่ลดลงวันนี้้ ไม่ได้เป็นเพราะรัฐบาลกลัวฝ่ายค้านเลยแต่งตัวเลขหลอกๆ ขึ้นมา
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๑๖,๕๓๖ ราย เป็นผลจากการล็อกดาวน์ มายาวนานตั้งแต่ ศบค.มีมติเคอร์ฟิว ในพื้นที่เสี่ยง ๑๐ จังหวัด ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กรกฎาคม
กลายมาเป็น พื้นที่สีแดงเข้ม ๒๙ จังหวัด ช่วงต้นเดือน
ประเทศ ประชาชน ผ่านความยากลำบากมาเดือนครึ่ง จึงจะมีวันนี้
แต่ฝ่ายค้านกลับผิดหวังตัวเลขคนป่วย คนตาย จากโควิด ที่ลดลง
ราวกับว่าเป็นการดิสเครดิตการอภิปรายของฝ่ายค้านล่วงหน้า
เดือนกว่าในการล็อกดาวน์ และผลที่ออกมา ทุกอย่างเป็นไปโดยไม่มีใครรู้ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจวันไหน
คนที่ทำงานสู้กับโควิด เขาทำงานอย่างหนัก กว่าจะมีวันนี้ได้ แต่นักการเมืองไม่ได้คิดไกลไปกว่าผลประโยชน์ทางการเมือง
ฉะนั้นการจับโยงว่า เป็นการ อำพรางสถานการณ์ เป็นความคิดที่น่าอัปยศอดสูอย่างมาก
คิดในทางกลับกัน
หากตัวเลขผู้ป่วยพุ่งไม่หยุด คนตายจากโควิดเป็นเบือ พรรคฝ่ายค้านจะพึงพอใจสถานการณ์แบบนี้ใช่หรือไม่ เพราะเป็นบวกต่อการไล่รัฐบาล
กรรมจะตกที่ประชาชนหนักกว่าเดิม เป็นฝีมือใคร?
กระบวนการทำงาน กับวิกฤตขนาดใหญ่ มันไม่ง่ายครับที่จะสรุปชั่วข้ามคืนว่า สำเร็จหรือล้มเหลว
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิดเริ่มลดลง การเสียชีวิตก็จะลดลงตามมาติดๆ นี้ จำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตัวเลขล่าสุดฉีดไปแล้ว ๓๐,๙๔๖,๖๖๘ โดส
ฉีดเข็มแรก ๒๒,๙๘๑,๔๗๖ โดส
ก็เท่ากับว่าคนไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว ๒๓ ล้านคน
ส่วนวัคซีนจากนี้เข้ามาเกินเดือนละ ๑๐ ล้านโดส
นั่นคือความคืบหน้า
เช่นเดียวกับมาตรการคลายล็อก บางคนอาจไม่ชอบ มองว่ารัฐบาลคลายเร็วไป เสี่ยงทำให้โควิดกลับมาระบาดซ้ำอีก
ประเด็นนี้ต้องชั่งน้ำหนักครับ
ณ ขณะนี้ ระหว่างเศรษฐกิจ กับ โควิด จะหนักไปทางใดทางหนึ่งไม่ได้แล้ว และจะนำเหตุการณ์ปีที่แล้วมาเปรียบเทียบไม่ได้
เพราะคนละสถานการณ์และความจำเป็น
และหลายประเทศทั่วโลกเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโควิดโดยที่เศรษฐกิจประเทศไม่พัง ไทยเราก็ต้องไปทางนี้แหละครับ
ฉะนั้นมองแค่มุมใดมุมหนึ่งไม่ได้โดยเด็ดขาด
วันที่ ๑ กันยายนคลายล็อกพอสมควร ธุรกิจหลายแขนงที่ปิดไปเดือนกว่าจะกลับมาอีกครั้ง
คร่าวๆ ก็ตามนี้ครับ
โรงเรียน หรือ สถาบันการศึกษาทุกประเภทให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือ การทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากได้
ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถเปิดให้บริหารได้โดยให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา ๒๐.๐๐ น. ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านและจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน ห้องปรับอากาศไม่เกิน ๕๐% ของจำนวนที่นั่งปกติ แต่หากเป็นการบริโภคในพื้นที่เปิดที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ไม่เกิน ๗๕% ของจำนวนที่นั่งปกติ และให้บังคับมาตรการนี้กับร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตีมอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย
สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมให้เปิดดำเนินการได้
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ให้เปิดบริการได้เฉพาะการให้บริการนวดเท้า
ตลาดนัด ให้เปิดได้ตามปกติจนถึง ๒๐.๐๐ น. เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคหรือบริโภค
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตีมอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันสามารถเปิดได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา ๒๐.๐๐ น.
คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สามารถเปิดดำเนินการและให้บริการได้ผ่านการนัดหมาย ส่วนร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมให้เปิดบริการได้โดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเวลาให้บริการในร้านไม่เกินรายละ ๑ ชั่วโมง
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสถานประกอบการนวดแผนไทยให้เปิดดำเนินการได้โดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเฉพาะการให้บริการนวดเท้า
ผลบวกในภาคธุรกิจจะเกิดขึ้นทันที
ส่วนโควิดจะกลับมาระบาดอีกหรือไม่ ก็อยู่ที่ทุกคนนั่นแหละครับ
สำหรับการเมืองโดยเฉพาะฝ่ายค้าน อาจไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะเหตุการณ์ประจวบเหมาะแบบไม่เป็นประโยชน์มากนัก
แต่…โควิดแก้ด้วยเกมการเมืองไม่ได้ครับ
ฝ่ายค้านพยายามบอกว่าเปลี่ยนรัฐบาลแล้วการแก้ปัญหาโควิดจะดีขึ้น
ไปเล่นที่อื่นดีกว่า
ไม่ต้องเปลี่ยนตอนนี้สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว แม้จะไม่มากก็ตาม.
