ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ไม่ได้ดู “ให้รักพิพากษา”
แต่..ได้ดูซีรีส์เรื่อง “สเตรนเจอร์” (STRANGER) ของประเทศเกาหลีทาง Netflix มาตั้งแต่ซีซั่นแรก จนครึ่งของสองซีซั่นสองแล้วณเวลานี้
ก็..ยอมรับล่ะว่าเป็นซีรีส์ (เกาหลี) อีกเรื่องที่ชวนให้ติดตาม อาจจะเป็นด้วยถูกจริตกับตัวเองที่ชื่นชอบแนวสืบสวน สอบสวนที่มีการ “หักมุม” เป็นทุนอยู่ก็ได้หนึ่ง..
กับสอง..เป็นการเล่าเรื่องคอรัปชั่นในวงการอัยการและตำรวจที่ทำให้ได้เปิดหู-เปิดตา ได้รู้ว่าคอรัปชั่นและการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐในทางที่ผิด ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทย!
และให้รู้ซึ้งว่า “อัยการ” ก็เป็นแค่มนุษย์ปุถุชน จะให้มีแต่เฉพาะ “คนดี” ไปเสียทั้งหมดย่อมเป็นไปไม่ได้
กระนั้น ผู้กำกับฯ ก็ไม่ได้จะเหยียบย่ำ-ด้อยค่าองค์กรอัยการ-ตำรวจให้ดูไร้เกียรติ-ไร้คุณธรรม เพราะระหว่างตีแผ่ด้านมืดนั้น ก็มีด้านสว่างนำเสนอให้ได้เห็นควบคู่ไปด้วย
ซึ่งก็เชื่อว่าทั้งตอนเขียนบท และขณะถ่ายทำ จะได้มีอัยการ-ตำรวจคอยให้คำปรึกษา คอยชี้แนะ-ชี้นำ เพื่อให้เนื้อหาไม่พลาดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริง..
ตามแบบอย่างการทำหนัง-ทำละครที่มีเนื้อหาสาระ เรื่องราว ตัวบุคล สถานที่ที่มีอยู่จริง!
นี่..ว่าไปแล้ว ละครไทยเรื่อง “ให้รักพิพากษา” ก็น่าจะใช้วิธีการเดียวกันนี้ แต่ที่นายอดิศร ไชยคุปต์ รองอธิบดีอัยการ บอกว่า..
“บทละครผู้เล่นบทพนักงานอัยการมีการส่อถึงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการที่ไม่ชอบขัดต่อความเป็นจริง และไม่ตรงต่อหลักการดำเนินคดีของพนักงานอัยการ
ที่ต้องมุ่งค้นหาความจริงให้ปรากฏในศาลเพื่อความยุติธรรม พนักงานอัยการไม่ใช่คู่แพ้ชนะกับผู้ต้องหาและจำเลย และการเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานอัยการต้องมีการสอบเข้า
โดยมีคุณสมบัติ เช่นเดียวกับการสอบเข้าเป็นผู้พิพากษา อันเป็นบทบัญญัติตามกฎหมาย บทละครดังกล่าว ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในวิชาชีพพนักงานอัยการ
ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพนักงานอัยการและองค์กรอัยการ และทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นการไม่สร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ต่อสังคม”
มองในมุมอัยการก็ถูก และไม่ควรที่จะถูกตำหนิ ถากถาง เยาะหยัน เพราะนายอดิศรก็มีสิทธิที่จะปกป้ององค์กร-อาชีพของเขา
ละครก็คือละครไม่ใช่สารคดี..ฟังผิวเผินเออก็ถูก-จริง แต่ก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า ละครก็ดี-สารคดีก็ดี มันมีทั้งแนวสนุกเพื่อความบันเทิง กับแนวที่เสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
อย่าง “ให้รักพิพากษา” เมื่อต้องการจะนำเสนอให้รู้-ให้เห็นถึงการทำงานของคนในองค์กร-หน่วยงานที่มีอยู่จริง..
ผู้กำกับ-ผู้เขียนบทก็จักต้องตระหนักและใช้ความระมัดระวังให้มาก เพื่อจะไม่ให้เกิดความผิดพลาด ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใด องค์กรหนึ่งองค์กรใดเสียหาย
ที่สำคัญเมื่อพลาดผิด และมีผู้ท้วงติง ก็ควรรีบออกมากล่าวคำขอโทษ และรีบแก้ไขให้ถูกต้องเสีย..
อย่าห่วงฟอร์ม-ห่วงหน้าให้มากนักเลย!