ผักกาดหอม
ก็คงต้องกลับมานั่งคิดกันล่ะครับ
ผลจากการเผยแพร่เฟกนิวส์ มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คนที่ปล่อยเฟกนิวส์ต้องแก้ไขอะไรบ้าง
และต้องมีความรับผิดชอบอย่างไร
ข่าวจากเว็บไซด์ไทยโพสต์ www.thaipost.net วานนี้
…เพจเฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok ซึ่งเป็นเพจของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้โพสต์เนื้อหาสั้นๆ พร้อมอินโฟกราฟิกเข้าใจง่ายว่า
ปุจฉา! วัคซีนไฟเซอร์กี่โดสเป็น ๑ ขวด แล้วกี่ขวดเป็น ๑ ถาด มาหาคำตอบเกี่ยวกับจำนวนวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สหรัฐฯ บริจาคให้กับไทยได้จากกราฟิกใหม่ที่เข้าใจง่ายของเรา
โดยอินโฟกราฟิกดังกล่าว เริ่มตั้งแต่คลายสงสัยตัวเลข ๑,๕๐๓,๔๕๐ มาจากไหน โดยระบุว่า
สหรัฐฯ ส่งวัคซีนล็อตแรก = ๒๕๗ กล่อง
๑ กล่อง = ๕ ถาด
๑ ถาด = ๑๙๕ ขวด
๑ ขวด = ๖ โดส
๒๕๗ กล่อง x ๕ ถาด x ๑๙๕ ขวด x ๖ โดส เท่ากับ ๑,๕๐๓,๔๕๐ โดส…
เรามาถึงจุดนี้ได้ไง?
จุดที่สถานทูตต่างชาติต้องมานั่งอธิบายเฟกนิวส์จากสื่อไทย
มุมหนึ่งสะท้อนถึงคุณภาพการใช้สื่อโซเชียลของคนไทย
ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
Pfizer ล็อตนี้เคียงคู่มากับเฟกนิวส์ตั้งแต่ของยังไม่มา
อาทิตย์ก่อนแชร์กันเยอะในหมู่สามนิ้วว่า คนที่ดีลไฟเซอร์ ๑.๕ ล้านโดสตัวจริงคือ หมอทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย
ประกอบภาพที่ หมอทศพร ไปยื่นหนังสือหน้าสถานทูตสหรัฐฯ เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ขอให้บริจาควัคซีนให้ไทย
ก็เป็นเรื่องดีครับ คนละไม้คนละมือ ใครมีศักยภาพทำอะไรได้ก็ทำ เพื่อช่วยสังคมส่วนรวม
แต่การเอาภาพหมอทศพร ไปเปรียบเทียบกับ ภาพ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบ Pfizer ๑.๕ ล้านโดส แล้วเขียนข้อความว่า คนอยู่เบื้องหลังดีล Pfizer กับคนเอาหน้า
มันใช่หรือ?
ก็ในเมื่อ “ไมเคิล ฮีธ” อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เผยที่มาที่ไปของวัคซีนล็อตนี้ตั้งแต่วันที่ ๘ กรกฎาคม ว่า
“ผมขอเน้นย้ำว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีคนกลางในการเจรจา ทำเนียบขาว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และสถานทูตสหรัฐฯ ทำงานโดยตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขของไทย”
เขาดีลเสร็จไปนานแล้ว แถมอุปทูตออกมาชี้แจงเป็นคุ้งเป็นแคว
แต่ยังมีคนเชื่อว่า หมอทศพร คือฮีโร่อยู่เบื้องหลัง
นี่คือตัวอย่างของเฟกนิวส์ และผู้เสพข่าวสาร ที่ปลอมกระทั่งความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง
และแน่นอนว่ามุมมองเชิงลบแบบนี้ มีผลชี้นำวิธีคิด และความเชื่อทางการเมือง
ช่วงนี้เห็นเฟกนิวส์วัคซีนโควิดกันเยอะหน่อย ที่จริงแล้วเฟกนิวส์เกิดขึ้นมานานและสร้างความเสียหายให้ประเทศไทยมากมายมหาศาล
โดยเฉพาะเฟกนิวส์การเมือง
แต่คนจำนวนมากพอควรไม่ได้ตระหนักถึงความวิบัติที่ว่านี้
เรื่องเท็จ กับความเชื่อทางการเมือง สองสิ่งนี้ต้องแยกจากกันให้ได้ เพราะถ้าไม่….เข้ารกเข้าพงแน่นอน
ตลอดกว่าสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยหลงทาง มีความเชื่อผิดๆ จากข่าวสารที่ผิดเพี้ยน
อิทธิพลจากสื่อที่ผิดเพี้ยน “คนชั่ว” ถูกทำให้เชื่อว่า เป็น คนดี คนเก่ง
ครับ “พิภพ ธงไชย” เขียนอธิบายเรื่องนี้ไว้ในเฟซบุ๊กชัดเจนทีเดียว
————————–
การแฉของ ดร.สมศักดิ์ ในข่าวของไทยโพสต์
ความหลังเรื่องการขึ้นพูดของหัวโต-ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เมื่อปี ๒๕๕๖ เดือนกรกฎาคม วันที่ ๑๓
ได้เปิดเผยถึงความคลั่งไคล้ตัวคุณทักษิณของมวลชนเสื้อแดง ที่วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมการโกงกินของคุณทักษิณไม่ได้เลย
ความคลั่งไคล้ว่าคุณทักษิณเป็น “สัญลักษณ์ประชาธิปไตย” เพียงมาจากการเลือกตั้งแล้วถูกรัฐประหาร
นำมาสู่การใช้กฎหมายเอาผิดต่อการโกงกินของคุณทักษิณ
โดยมวลชนเสื้อแดงไม่ได้นำเนื้อหาในข้อกล่าวหาว่ามีความจริงกี่ส่วน มีความเท็จกี่ส่วน มาพิจารณาเลย
เมื่อคุณทักษิณมุ่งนิรโทษกรรมตัวเองเป็นหลักชัย
โดยไม่คำนึงว่าจะกระทบการนิรโทษกรรมมวลชนโดยรวมหรือไม่
ทำให้ ดร.สมศักดิ์ไม่เห็นด้วย
และนี่ก็เป็นเหตุให้คุณจตุพร พรหมพันธุ์
ไม่เห็นด้วยเช่นกันกับมวลชนเสื้อแดงและพฤติกรรมคุณทักษิณ
จึงแตกคอกับคุณทักษิณมาตั้งแต่ “พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย”
ที่นำพาให้เกิดการประท้วงใหญ่ยาวนานถึง ๖ เดือนในนาม กปปส.ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้วถูกทหาร “ฉวยโอกาส” ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ ยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้
“ปมการยึดอำนาจของทหาร” หลายสิบครั้ง ตลอดช่วงสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ มาจนถึงวันนี้
กลายเป็นปมใหญ่ทางการเมืองของสังคมไทย
ทำให้การต่อสู้กับทหารในท้องถนนโดยมวลชนกลุ่มต่างๆ ตั้งแต่ ๑๔ ตุลา ๑๖
จนมาถึงวันนี้และคุณทักษิณก็จะใช้โอกาสนี้สวมรอยทางการเมือง
ทั้งที่สมัยคุณทักษิณเองก็ได้สร้าง “ระบบทักษิโณมิก” เป็นเผด็จการทางการเมืองในรัฐสภา และในกลุ่มทุนธุรกิจ
คนลืมไปว่า ในยุคสมัยที่คุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นได้ใช้การอุ้มฆ่าประชาชนมากกว่ายุคสมัยใด
รวมทั้งฆ่าเยาวชนที่ตากใบด้วย
คนลืมกันหมด ว่าคุณทักษิณกลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองใหญ่อีกครั้งวันนี้นั้น
เพื่อกลับมาครองอำนาจทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อให้หลุดคดีความต่างๆ ในเรื่องฉ้อโกงประเทศชาติ
คุณทักษิณเป็นคนที่ไม่ฟังใคร รับคำเตือนไม่ได้
แม้แต่คำเตือนของ พลตรีจำลอง ศรีเมือง ในสมัย พธม.
ผู้มีบุญคุณทางการเมืองต่อตัวคุณทักษิณเอง
คุณทักษิณก็ไม่ฟังแถมดูแคลนพลตรีจำลองเสียด้วย
คุณทักษิณจึงแพ้ซ้ำซาก และจะแพ้ตลอดไป
————————
เรื่องแพ้ซ้ำซากนั่นเรื่องหนึ่ง
แต่การปลอมให้ “ทักษิณ” เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย คือการต้มตุ๋นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ประชาชนนับสิบล้านคนถูกทำให้เชื่อว่า “ขาดทักษิณเหมือนสิ้นประชาธิปไตย”
ที่จริง “ทักษิณ” ถูกจับได้ไล่ทันมาตลอด มีกระทั่งคำพิพากษาของศาลในคดีคอร์รัปชันหลายๆ คดี แต่คนที่เชื่อทักษิณใช่ว่าจะเปลี่ยนความคิดง่ายๆ
ความเชื่อเกี่ยวกับ “ทักษิณ” ยังผิดเพี้ยนอีกหลายๆ กรณี
เช่นกรณีที่ แชร์กันในเพจรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง ว่า “ทักษิณ รอยัลลิสต์ ตัวจริง”
ประเด็นนี้ถูกแย้งโดย สมศักดิ์เจียม ว่า….
“คนที่ไม่เคยอ่านโทรเลขวิกิลีกส์ น่าลองหามาอ่านนะ ทักษิณไม่ใช่คนรักเจ้าหรอก แต่ทักษิณไม่กล้าพูดต่อหน้าและเปิดเผยเรื่องเจ้า ปล่อยให้ตัวเล็กตัวน้อยพูดไป ตัวเองหาโอกาสเมื่อมีโอกาส”
หากจะต่อจิกซอว์ขบวนการล้มล้าง แกนนำม็อบสามนิ้วจะอยู่ล่างๆ ของห่วงโซ่
เหนือขึ้นไปเป็นทอดๆ เห็นเงาตะคุ่มๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน
คือบุคคลในเฟกนิวส์.