1. ROSA DAMASCENA ออกแบบโดย Amandine Clerc-Marie
“กุหลาบ” เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมสดชื่นและโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติ โดย Amandine Clerc-Marie ได้นำแรงบันดาลใจจากกลีบดอกที่ซ้อนและเรียงตัวกันอย่างงดงามของดอกกุหลาบที่อยู่ในสวนดอกไม้ในวัยเด็กของเธอ โดยกุหลาบนั้นเป็นดอกไม้ที่มอบกลิ่นหอมสดชื่น เบาบางอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับเอกลักษณ์แห่งความสนุกสนานร่าเริงที่น่าประทับใจ แบบไม่มีที่สิ้นสุด
2. LAVANDA ออกแบบโดย Quentin Bisch
น้ำหอมที่เกิดขึ้นจากเสน่ห์ของแสงและเงา โดย Quentin Bisch ได้เก็บภาพจำในวัยเด็ก ขณะช่วงเวลาที่แม่ของเขาเดินออกมาจากสวนดอกไม้ที่มีสีสันสุดร้อนแรง กลับเข้าสู่ภายในบ้านที่เต็มไปด้วยแสงอันอบอุ่น และได้ฉีดพ่นสเปรย์กลิ่น “ดอกลาเวนเดอร์” ลงบนแขนของเธอ เหตุนี้เขาจึงได้เก็บภาพความทรงจำของกลิ่นหอมนั้นไว้แล้วนำมายกระดับความหอมให้เด่นชัดมากขึ้น
3. MAGNOLIA ALBA ออกแบบโดยLouise Turner
น้ำหอมที่เปี่ยมเสน่ห์ส่งกลิ่นหอมสดชื่น ด้วยคุณค่าจากกลีบ “ดอกแมกโนเลีย” ที่มีกลิ่นหอมอวบอวลแสนรัญจวนใจ ทำให้ Louise Turner ชาวพื้นเมืองอังกฤษ นึกถึงวันที่แสงแดดส่องแสงจ้า เกิดเป็นไอเดียนำมาออกแบบน้ำหอมที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความเรียบง่าย นำคุณค่าของกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมะนาวผสานกับความหอมละมุนของดอกแมกโนเลียในช่วงฤดูใบไม้ผลิมารวมไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
4. CEDRUSออกแบบโดยQuentin Bisch
เบื้องหลังความหอมของกลิ่น “เปลือกไม้” นี้ เกิดจากกลิ่นของยางไม้หอม (Balsam) ผสมกับกลิ่นควันที่ชวนให้คิดถึงของขวัญจากคนรักที่เปี่ยมไปด้วยความขี้เล่นแสนซน จากดอกไม้ช่อหนึ่งที่ทำให้ Quentin Bisch รำลึกเมื่อครั้งที่พ่อของเขาเคยมอบให้แก่แม่เขาในวัยเด็ก ซึ่งเป็นช่อดอกไม้ที่มีความงดงามและอ่อนโยนยิ่งนัก ให้ความรู้สึกถึงความละเอียดอ่อน พร้อมด้วยกลิ่นหอมจากมัสก์ก็ทำให้รู้สึกถึงอบอุ่นและความเป็นผู้นำ
5. HIBISCUS ABELMOSCHUS ออกแบบโดย Domitille Michalon Bertier
ในวันที่แสงแดดสาดส่อง เปิดรับความหอมของกลิ่นผลไม้หอมอ่อนๆและกลิ่นกลีบดอกไม้หอมละมุนด้วยคุณค่าของ “ดอกชบา” ราชินีแห่งดอกไม้จากสวนโพลิเนีเชียน ที่ Domitille Michalon Bertier เคยจดจำได้ในวัยเยาว์ ซึ่งดอกชบาได้มอบความอบอุ่นให้แก่ช่อดอกไม้ พร้อมกลิ่นมัสก์ที่ทรงพลัง และกลิ่นหอมแป้งอ่อน ๆ
6. HERBA MIMOSA ออกแบบโดย Amandine Clerc-Marie
น้ำหอมกลิ่นแป้งอ่อน ๆ ที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน ชวนให้นึกถึงความจำในวัยหนุ่มสาว กระตุ้นสัมผัสและปลุกเร้าอารมณ์ด้วยกลิ่นของ “ดอกมิโมซ่า” หรือไมยราบที่เบ่งบานอยู่บนเนินเขากราสเซ่ เมื่อ Amandine Clerc-Marie เธออายุช่วง 20 ปี ซึ่งกลิ่นหอมของดอกมิโมซ่านี้จะมอบความหอมอ่อนๆ ผสมผสานกับกลิ่นจากไม้ และพืชผัก เกิดเป็นกลิ่นที่เข้ากันอย่างพอเหมาะ สุดแสนล้ำค่า
7. NEROLI ออกแบบโดย Sidonie Lancesseur
จากการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านกลิ่นหอมของ “ดอกส้มเนโรลิ” ทำให้ Sidonie Lancesseur ย้อนกลับไปคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองเซวิลล์ ประเทศสเปน เมื่อเขาได้กลิ่นหอมของดอกส้มจึงเกิดความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาและนึกถึงความอบอุ่นของแสงแดง และนึกถึงการเดินทางอันแสนหวาน เต็มไปด้วยความสะดวกสบายอย่างน่าโหยหา ชวนให้หวนกลับมาอีกครั้ง
8. VERBENA ออกแบบโดย Mylène Alran
กลิ่นหอมแนวอโรม่าของ “ดอกเวอร์บีน่า” ดอกไม้นำโชคจากสวนดอกไม้ ที่ Mylène Alran เคยเก็บมาถือไว้ในมือของเธอทุกๆ วัน โดยกลิ่นหอมนี้ที่เกิดจากการนำกลิ่นดอกเวอร์บีน่าที่อยู่ในช่อดอกไม้ ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัวกับกลิ่นหอมสดชื่นของมะนาวที่โดดเด่น เปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
9. JASMINUM SAMBAC ออกแบบโดย Louise Turner
เมื่อ Louise Turner ได้หยิบยกกลิ่นหอมอันมีเอกลักษณ์ของ “ดอกมะลิลา” ที่งดงาม มาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการออกแบบน้ำหอมซึ่งมะลิลาเป็นดอกไม้ที่แสดงออกถึงความรักสำหรับมอบให้แก่แม่ในวันแม่แห่งชาติของคนไทย และเธอได้เคยดมกลิ่นหอมครั้งนั้นที่ กรุงเทพมหานคร ด้วยกลีบดอกมะลินั้นมอบความรู้สึกอ่อนโยนราวกับหยดน้ำค้างที่กลิ้งอย่างนุ่มนวลอยู่ในช่อดอกไม้ที่เจิดจรัสงดงาม
น้ำหอมที่มีส่วนผสมเข้มข้นผ่านกระบวนการผลิตที่กลั่นกรองอย่างปราณีต สู่ขวดน้ำหอมที่หรูหราแบบเหนือกาลเวลา ดีไซน์ขวดได้นำแรงบันดาลใจการจับจีบผ้ามาใช้ ฝาปิดเป็นหินอ่อนสีงาช้างสวยงามสะดุดตา ประดับประดาด้วยคอขวดสีเบจผสมสีทองดูดีมีระดับ นำเอาสีสันที่มีอยู่รอบตัวตามธรรมชาติมาใช้อย่างเรียบง่ายแบบไม่ซ้ำใคร มีให้เลือกด้วยกัน 2 ขนาด คือ ขนาด 50 ml (4,850 บาท) และ 150 ml (9,450 บาท) เหมาะแก่การนำมาฉีดผสมกันจนเกิดเป็นน้ำหอมที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ที่เป็นคุณ
เชิญสัมผัสกับน้ำหอมทั้ง 9 กลิ่นหอม ในคอลเลกชั่นน้ำหอม L’ATELIER DES FLEURS ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์น้ำหอม CHLOE Beauty Hall, ชั้น M ห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอน ชั้น M The Mall Lifestore Ngamwongwan , Sephora Siam Center Sephora Online และ M online