กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 3 แนวทางในการจัดการศพที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 อย่างปลอดภัยจากโรงพยาบาลจนถึงวัด พร้อมเน้นย้ำทีมจัดการศพให้ใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19เมื่อกลับถึงบ้านให้อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนับเป็นความสูญเสียที่กรมอนามัยต้องขอแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบและสูญเสียสมาชิกไปด้วยโรคโควิด-19 ดังนั้น การจัดการศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19อย่างปลอดภัย กรมอนามัยมีคำแนะนำ 3 แนวทาง ดังนี้ 1) ยืนยันสาเหตุการตายโดยแยกเป็น 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 เสียชีวิตในโรงพยาบาลจะดำเนินการโดยทีมจัดการศพโดยศพผู้เสียชีวิตจะถูกบรรจุใส่ถุงบรรจุศพและทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายนอกถุงบรรจุศพตามมาตรฐานแพทย์ที่ทำการรักษาจะออกหนังสือรับรองการตาย (ท.ร.4/1) ระบุสาเหตุการตายว่าเป็นการตายด้วยโรคโควิด-19
ส่วนกรณีที่ 2 เสียชีวิตนอกโรงพยาบาลทีมจัดการศพจะนำศพใส่ถุงบรรจุศพตามมาตรฐานแล้วแจ้งพนักงานสาธารณสุขใกล้บ้านหรือพนักงานควบคุมโรคติดต่อของโรงพยาบาล โดยให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และตำรวจบันทึกสภาพศพ และหลักฐานต่าง ๆ ลงสาเหตุการตาย โดยให้ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกหนังสือรับรองการตาย (ทร4)
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า แนวทางถัดมาคือ 2) การแจ้งตาย กรณีเสียชีวิตทั้งในและนอกโรงพยาบาล ให้นำเอกสารรับรองการตาย (ทร. 4) จากโรงพยาบาลพร้อมด้วยบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านนำไปแจ้งการตายต่อนายทะเบียน ณ ที่ทำการปกครองอำเภอหรือท้องถิ่น และออกใบมรณบัตรภายใน24ชั่วโมง เพื่อให้ญาติสามารถนำศพออกจากโรงพยาบาลไปฌาปนกิจได้
และ 3) การขนศพผู้เสียชีวิตและการประกอบพิธีทางศาสนากรณีญาติมีความพร้อม หลังจากที่ญาติรับทราบแนวปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และมีใบมรณบัตร สามารถประสานวัดและอาสาสมัคร หรือกู้ภัย หรือมูลนิธิ เพื่อขนศพ แต่หากญาติไม่มีความพร้อมหรือติดโควิดทั้งครอบครัว และศพไม่มีญาติให้แจ้งโรงพยาบาลเพื่อประสานกับทางวัดเพื่อดำเนินการขนศพ ซึ่งขณะนี้ระบบ Thai Stop COVID Plus ของกรมอนามัย ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวบรวมข้อมูลรายชื่อวัดที่รับฌาปนกิจผู้ติดเชื้อโควิด-19 ฟรี โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อวัดสถานที่ตั้ง และแผนที่วัด ได้ที่ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/dashboard_regious/
“ทั้งนี้ การจัดพิธีศพทางศาสนาทั้งการเผาศพหรือฝังศพทั้งถุงขอให้ดำเนินการในพื้นที่ที่จัดเตรียมเฉพาะ ห้ามเปิดถุงบรรจุศพอย่างเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ควรดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดซึ่งการเผาศพที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ให้ใช้เตาเผาศพเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเผากลางแจ้ง และควรใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิในห้องเผาศพไม่น้อยกว่า 760 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในห้องควันไม่น้อยกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ตลอดระยะเวลาการเผาศพ
โดยในระหว่างการเผาศพไม่ควรเปิดประตูเตาเผาศพ หลีกเลี่ยงการเขี่ยศพหรือพลิกศพ เมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเชื้อโรคถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว จากนั้นให้ดำเนินการเก็บกระดูกเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไปสำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานในพิธีเผาศพอาจไม่จำเป็นต้องใส่ชุด PPE หากไม่พบการฉีกขาดของถุงบรรจุศพและภายหลังเสร็จพิธีเผาศพเมื่อกลับถึงบ้านให้อาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที”อธิบดีกรมอนามัยกล่าวในที่สุด