หยุดโควิดอยู่ที่ ‘คน’ -ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

โควิด-วัคซีน

ดูเหมือนยาก แท้จริงแล้วยิ่งกว่ายาก

            ที่ว่ายากคือการทำความเข้าใจ

            ความรู้เรื่อง ไวรัสโควิด-๑๙ และวัคซีนโควิด เปลี่ยนไปแทบทุกวัน

            ฉะนั้นความรู้เมื่อวานอาจใช้ไม่ได้กับความรู้ในวันนี้

            และความรู้ในวันนี้ อาจเก่าไปแล้วสำหรับวันพรุ่งนี้

            แต่เรื่องเก่าที่เราไม่รู้ก็มีเยอะ

            ฟัง “วิษณุ เครืองาม” ให้สัมภาษณ์วานนี้ น่าจะทำให้ความเข้าใจเรื่องวัคซีนกระจ่างขึ้น

            ไม่ใช่ประเด็นวัคซีนยี่ห้อนี้ป้องกันโควิดได้กี่เปอร์เซ็นต์ ยี่ห้อโน้นฉีดแล้วชัวร์กว่าอีกยี่ห้อ เพราะโอกาสตายน้อยกว่า

            แต่เป็นเรื่องสัญญาซื้อขายวัคซีน

                “…ผมได้มีโอกาสดูสัญญาบางฉบับ ที่กระทรวงสาธารณสุขนำมาให้ตรวจดูก็รู้สึกแปลกใจ

                เพราะฝ่ายผู้ขายหรือผู้ผลิตบอกว่าถ้าไม่เซ็นสัญญาไม่ต้องซื้อของจากเขา และมีเงื่อนไขว่าถ้าส่งล่าช้าจะไม่รับผิดชอบ

                บางยี่ห้อบอกไม่คืนเงินและเราไปคิดค่าปรับ ยึดทรัพย์  หรือฟ้องร้องอะไรไม่ได้ และไม่รับผิดชอบความเสียหายใดๆ

                ที่สำคัญคือระบุว่าห้ามเปิดเผยสัญญา เนื่องจากการขายให้แต่ละประเทศเขียนสัญญาไม่เหมือนกัน

                มีทั้งเอื้ออารี และเข้มงวด

                ถ้าใครเอาไปเปิดเผยจะขายให้ครั้งเดียวและไม่ขายให้อีกเลย

                จะเห็นว่าที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลจะไม่พูดเรื่องสัญญาการซื้อวัคซีนเลย แต่ยืนยันว่ารัฐไม่ได้โกหกหรือหลอกลวง

                แต่ในบางเรื่องพูดไม่ได้ ทำให้บางคนที่พยายามพูดให้ดูดี จนกลายเป็นทำให้รัฐถูกมองว่าพูดกลับไปกลับมา…”

            นี่แหละครับถึงบอกว่า บริษัทวัคซีนทุกบริษัทในโลกนี้ดีลกับรัฐบาลเท่านั้น

            เอกชนรายไหน หรือคนที่ไม่ใช่คนของรัฐบาลคนไหน เคลมว่าตัวเอง ติดต่อขอซื้อวัคซีนกับบริษัทโดยตรง และติดต่อมานานแล้ว สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ตอแหล

            เพราะวัคซีนทั้งหมดยังใช้ในกรณีฉุกเฉิน

            ฉีดแล้วเจ็บ-ตาย ฟ้องร้องบริษัทวัคซีนไม่ได้ รัฐบาลแต่ละประเทศจึงต้องตั้งงบประมาณเพื่อชดเชยเยียวยา

            ประเทศไหนมีวัคซีนทางเลือก ดำเนินการโดยโรงพยาบาลเอกชนหลังได้รับจัดสรรวัคซีนจากการดีลให้โดยรัฐบาล ก็บังคับขายประกันพ่วง พร้อมส่วนต่างกำไร

            โรงพยาบาลเอกชนใจไม่ถึงพอที่จะควักเงินเยียวยาให้ครับ

             ที่จริงประเด็นนี้น่าจะจบไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีคนขุดมาแซะกันอยู่เรื่อยๆ ว่า รัฐบาลกันท่าไม่ให้เอกชนนำเข้า

            ครับ…ทีนี้มาถึงประเด็นสำคัญ

            จากนี้ไปวัคซีนหลักของไทย ไม่ได้มีแค่ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า

            จะมี สปุตนิก วี, ไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ตามมาช่วงปลายปี ถึงต้นปีหน้า

            และอาจรวมถึงวัคซีนสัญชาติไทยแท้ “HXP-GPOVac” เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย จากความร่วมมือวิจัยพัฒนาระหว่าง คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม ด้วย

            เพราะจะเริ่มทดสอบในมนุษยระยะที่สองเดือนสิงหานี้แล้ว

            นั่นคือวัคซีนหลัก

            วัคซีนหลักก็คือวัคซีนฉีดฟรีโดยรัฐบาล

            ส่วนวัคซีนทางเลือก ขณะนี้เข้ามาแล้วคือ ซิโนฟาร์ม  ประมาณ ๒ ล้านโดส

            เตรียมนำเข้าอีกประมาณ ๓ ล้านโดส

            อีกยี่ห้อคือ โมเดอร์นา ที่กำลังตกเป็นข่าวดรามา ล็อตแรก ๕ ล้านโดส

            วัคซีนทางเลือกก็คือวัคซีนนำเข้าโดยเอกชนผ่านการดีลของรัฐ

            เป็นวัคซีนฉีดแบบเก็บเงิน

            ซิโนฟาร์ม เก็บเงินองค์กร หน่วยงาน รัฐและเอกชน  เพื่อไปฉีดให้คนในองค์กร หรือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบฟรี

            สำหรับโมเดอร์นา ใครอยากฉีดเก็บรายหัวพร้อมประกันภัย เก็บเงินก่อนฉีดทีหลัง

            นั่นคือข้อมูลพื้นฐานที่รู้กันอยู่แล้ว แต่ต่อให้รู้ก็มีคนนำไปบิดเบือนข้อเท็จจริงกันรายวัน แถมมีคนพร้อมจะเชื่อด้วย

            บางคนบอกว่าเห็นมั้ยสุดท้ายรัฐบาลเลิกแทงม้าตัวเดียว เตรียมนำ สปุตนิก วี, ไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เข้ามา

            จะคิดแบบนั้นก็ได้ แต่มันเกิดจากที่เกริ่นไว้ข้างต้นคือ ความรู้เรื่อง ไวรัสโควิด-๑๙ และวัคซีนโควิด เปลี่ยนไปแทบทุกวัน

            เดิมทีไม่มีไวรัสกลายพันธุ์

            เริ่มแรกไม่มีใครรู้ว่า วัคซีนแต่ละชนิดสามารถป้องกันไวรัสได้แค่ไหน

            เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างปรากฏเป็นวิทยาศาสตร์  มันก็ต้องปรับเปลี่ยนครับ

             ฟังคุณหมอ อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโคโรนาไวรัส 2019 (ศบค.)  แถลงวานนี้ ชัดเจนเข้าใจง่าย

            สายพันธุ์เดลตาระบาดแล้ว ๙๖ ประเทศ

            สำหรับไทยเพิ่งจะพบสองเดือนที่แล้ว

            เดิมทีสายพันธุ์อัลฟาระบาดในไทย ๘๕-๙๐ แต่ตอนนี้ ภาพรวมเป็นเดลตา ๓๐%

            ใน กทม.-ปริมณฑล กว่า ๕๐% เป็นเดลตา

            ไฟเซอร์เจออัลฟาประสิทธิภาพการป้องกันลดลง  ๗.๕ เท่า เจอเดลตาลดลง ๒.๕ เท่า

            ส่วนแอสตร้าเซนเนก้าเจอเบตาลดลง ๙ เท่า เจอเดลตาลดลง ๔.๓ เท่า

            ซิโนแวค พบว่า ๒ เข็ม เมื่อเจอเดลตาลดลง ๔.๙ เท่า

            ถ้าแปลงตัวเลขทางคลินิกวัคซีนที่กระตุ้นภูมิได้สูงสุด คือวัคซีน mRNA หมายถึงไฟเซอร์ และโมเดอร์นา  รองลงมา แอสตร้าฯ ซิโนแวค

            ในแง่การป้องกันโรค พบว่าไฟเซอร์ ป้องกันเดลตา ลดลงจาก ๙๓% เหลือ ๘๘% แอสตร้าฯ ลดลงจาก  ๖๖% เหลือ ๖๐%

            แต่ที่สำคัญวัคซีนที่มีตอนนี้สามารถป้องกันการต้องนอนโรงพยาบาล เจ็บป่วยรุนแรงได้

            ไฟเซอร์ป้องกันได้ ๙๖% แอสตร้าฯ ป้องกันได้ ๙๒ %

            ซิโนแวค ๒ เข็ม สามารถป้องกันเจ็บป่วยและตายได้มากกว่า ๙๐%

            ฉะนั้นความรู้ที่ต้องปรับ ณ เวลานี้คือ วัคซีนทุกตัวไม่มีทางป้องกันได้ ๑๐๐%

            แต่ทุกตัวมีประสิทธิภาพ ป้องกันการป่วยรุนแรงหรือตายได้เกิน ๙๐%

            รวมทั้งซิโนแวค ก็สามารถป้องกันเจ็บป่วยรุนแรงได้

            ขณะนี้ถือเป็นการระบาดระลอกที่ ๔ แล้ว เพราะเป็นสายพันธุ์เดลตา

            พฤติกรรมระบาดไม่เหมือนเดิม เพราะแพร่ระบาดในชุมชน ในครอบครัว ในองค์กร หาที่มาที่ไปไม่ได้ เข้ากับคำจำกัดความ “เวฟใหม่”

            และยังติดเชื้อระดับ ๕-๖ พันต่อวัน

            คำถามยอดฮิตคือจะจบเมื่อไหร่

            คำตอบคือขึ้นกับการเคลื่อนไหวของคน

            เพราะเชื้อโรคไปเองไม่ได้.

Written By
More from pp
กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ กูร์เมต์ อีทส์ จัดงาน “VEGETARIAN FOOD FESTIVAL 2021” เปิดกรุตำนานอาหารเจ พร้อมคัดสรรวัตถุดิบเจ จากตลาดและร้านดัง
กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ กูร์เมต์ อีทส์ ต้อนรับเทศกาลกินเจ จัดงาน “VEGETARIAN FOOD FESTIVAL 2021” เปิดกรุตำนานอาหารเจ...
Read More
0 replies on “หยุดโควิดอยู่ที่ ‘คน’ -ผักกาดหอม”