‘ทิพานัน’ตอกโฆษกเพื่อไทยเพ้อเจ้อ วิจารณ์รบ. แบบคนไม่มีความรู้กฎหมาย หยิบคำพูดคนอื่นมาตีความ แจงชัดยกคดีฝรั่งเศสเทียบเคียงไม่ได้เพราะพฤติการณ์ต่างกัน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหาอย่างเพ้อเจ้อ คล้ายหยิบคำคนอื่นมาตีความว่า รัฐบาลโดย ศบค. กำลังก่ออาชญากรรมต่อชีวิตพี่น้องประชาชน พร้อมกล่าวอ้างกรณีการฟ้องร้องในประเทศฝรั่งเศสต่ออดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ข้อหาฆ่าคนตายและทำให้คนบาดเจ็บจากการรับโลหิตปนเชื้อเอชไอวี กว่า 300 คน   ในท้ายที่สุดมีการต่อสู้คดีจนหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาไปแล้วนั้นว่า  เป็นการเสนอที่ไร้การกล่าวอ้างกฎหมายไทย เอาข้อเท็จจริงในคดีต่างประเทศที่อยู่ในวิสัยและพฤติการณ์ที่แตกต่างกันมาเทียบเคียงแบบคนไม่มีความรู้ทางกฎหมาย  เหมือนจะมุ่งสร้างวาทกรรมโจมตีแบบเลื่อนลอย

“นอกจากคดีในประเทศฝรั่งเศสที่ น.ส.อรุณีนำมากล่าวอ้างอย่างงูๆปลาๆ นั้นเป็นคดีที่ผลของคดีออกมาแล้วว่า อดีตนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาแล้ว พฤติการณ์ในคดีก็มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด” น.ส ทิพานัน กล่าว

น.ส. ทิพานัน กล่าวต่อว่า กรณีในประเทศฝรั่งเศสเกิดขึ้นเมื่อปี 2542 ซึ่งเป็นเรื่องมาตรการการตรวจสอบเชื้อ HIV ในการบริจาคโลหิตที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการรับบริจาคโลหิตที่ปนเปื้อนเชื้อ HIV ที่ในขณะนั้น HIV ไม่ได้เป็นโรคอุบัติใหม่ เพราะได้เริ่มแพร่ระบาดในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2522 และมีสถานะระดับการระบาดขั้นที่ 3 คือโรคระบาด (Epidemic) ซึ่งในปี 2542 ทั่วโลกก็มีองค์ความรู้ เทคโนโลยีและวิทยาการทางการแพทย์ ยา เพียงพอที่จะรักษาและป้องกันการแพร่เชื้อ HIV ได้หมดแล้ว

ในขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ขณะนี้กำลังมีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสอย่างไม่หยุดนิ่ง เป็นโรคอุบัติใหม่ที่นักวิชาการทางการแพทย์ยังต้องศึกษาวิจัย ทดลอง วัคซีนที่ใช้ทุกยี่ห้อก็ยังอยู่ในกรณีอนุมัติให้ใช้ฉุกเฉินและสถานะการแพร่ระบาดก็เป็นระดับการระบาดสูงสุด เรียกว่า Pandemic คือเป็นการระบาดใหญ่ ลักษณะของการระบาดของโรคที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ยังไม่มีประเทศใดยุติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ได้  ดังนั้นจึงจะเอาเรื่องมาตรการการตรวจสอบเชื้อ HIV ในการบริจาคโลหิตมาเปรียบเทียบกับการจัดการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิดไม่ได้

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า รัฐบาลไทยรวมถึง ศบค. ที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางด้านการควบคุมโรค การแพทย์ การสาธารณสุข ดำเนินการด้วยเจตนามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะรักษาสุขภาพและชีวิตของประชาชนให้ได้ทุกคนให้รอดปลอดภัย แต่เหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่และเป็นโรคติดต่อร้ายแรงของไวรัสโควิด19 นี้ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์และควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะการแพร่ระบาดและกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด19 เข้าข่ายเป็นเหตุสุดวิสัย (force majeure) ที่อยู่เหนือการควบคุมได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลก็มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้คนไทยผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้

ดังนั้นการที่ยุยงให้สังคมเข้าใจผิดว่า ให้ฟ้องร้องรัฐบาลไทยจากเหตุที่มียอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตโดยกล่าวหาว่า “งดเว้น” หน้าที่ที่พึงต้องกระทำ และ “จงใจ” ที่จะให้ความเสียหายดำรงอยู่ต่อเนื่องไปนั้นจึงเป็นฐานความคิดที่เลื่อนลอย ไม่มีองค์ความรู้ทางกฎหมายที่รอบด้าน ไม่พิจารณาจากสถานการณ์จริงและลักษณะของสถานการณ์เหตุสุดวิสัย (force majeure) ที่อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้สำหรับการแพร่ระบาดและกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด19 นี้ และปัจจุบันยังเป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังเผชิญขณะนี้ น.ส. ทิพานัน กล่าว

Written By
More from pp
‘หม่อมเต่า’สั่งทูตแรงงาน ประสานนายจ้างดูแลความปลอดภัยคนงานไทยในอิรัก – อิหร่าน อย่างใกล้ชิด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการทูตแรงงาน 2 ประเทศ ประสานนายจ้างที่จ้างแรงงานไทยไปทำงานในอิรัก – อิหร่าน สำรวจความต้องการช่วยเหลือ ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมอำนวยความสะดวกตามแผนอพยพส่งคนงานไทยกลับประเทศหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น เมื่อวันที่ 8...
Read More
0 replies on “‘ทิพานัน’ตอกโฆษกเพื่อไทยเพ้อเจ้อ วิจารณ์รบ. แบบคนไม่มีความรู้กฎหมาย หยิบคำพูดคนอื่นมาตีความ แจงชัดยกคดีฝรั่งเศสเทียบเคียงไม่ได้เพราะพฤติการณ์ต่างกัน”