วันที่ 10 มิ.ย.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ส่วนราชการในแต่ละกระทรวงที่ได้รับจัดสรรอัตราพนักงานราชการเฉพาะกิจ 10,000 อัตรานี้ เร่งประชาสัมพันธ์การรับสมัครงานและบรรจุบุคคลเข้าปฏิบัติงานตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ได้มีงานทำ และให้มีการกระจายการจ้างงานลงสู่ระดับพื้นที่โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี อัตราค่าตอบแทน 18,000 บาท/เดือน ระยะเวลาจ้างไม่เกิน 1 ปี สิ้นสุดการจ้างงานไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 65 ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ. จะได้มีหนังสือถึงส่วนราชการเพื่อเร่งดำเนินการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2564 ต่อไป
สำหรับ 28 ส่วนราชการใน 14 กระทรวง ที่ได้รับการจัดสรรอัตรากำลัง ประกอบด้วยหน่วยงานส่วนกลางที่ตั้งในภูมิภาค/ส่วนราชการในภูมิภาคระดับจังหวัด ดังนี้
2. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด จำนวน 406 อัตรา
4. กระทรวงเกษตรและหกรณ์ จำนวน 1,664 อัตรา ประกอบด้วย สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด จำนวน 406 อัตรา สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ 60 อัตรา สำนักงานประมงจังหวัด 406 อัตรา สำนักงานเกษตรจังหวัด 406 อัตรา สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 386 อัตรา
6. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานสถิติจังหวัด จำนวน 406 อัตรา
7. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด จำนวน 406 อัตรา
8. กระทรวงพลังงาน สำนักงานพลังงานจังหวัด จำนวน 406 อัตรา
10. กระทรวงยุติธรรม จำนวน 505 อัตรา ได้แก่ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด 99 อัตรา และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด จำนวน 406 อัตรา
13. กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จำนวน 406 อัตรา
14. กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จำนวน 406 อัตรา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “การกระจายการจ้างงานลงสู่ระดับพื้นที่ และให้ส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรอัตรากำลังเร่งบรรจุบุคคลเข้าปฏิบัติงานให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาปัญหาการว่างงาน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน”