๒๐ ปีระบอบทักษิณ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

สีสันการเมืองวันนี้!

            หากไม่นับสามนิ้วที่ฝ่อไป ขณะนี้มีอยู่ ๒ กลุ่มออกมาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

กลุ่มไทยไม่ทน ของ จตุพร พรหมพันธุ์

            กลุ่มประชาชนคนไทย โดย ทนายนกเขา-นิติธร ล้ำเหลือ

            สองกลุ่มมีธงเดียวกัน คือหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากนอกบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง

            แล้วแม่น้ำสองสีนี้ไหลมารวมกันได้อย่างไร?

            กลุ่มจตุพรแดงกลายพันธุ์ กับกลุ่มทนายนกเขาเหลืองผ่าเหล่า ต่างเดินมาถึงจุดลงตัว นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของมวลชนกลุ่มใหม่ เป้าหมายล้มรัฐบาลประยุทธ์

            ขณะที่รัฐบาลประยุทธ์ยังเหลือเวลาบริหารราชการแผ่นดินอีก ๑ ปี ๙ เดือน จึงจะพ้นวาระ

            อะไรทำให้ ๒ กลุ่มนี้รอไม่ได้?

            โดยสถานการณ์ทางการเมืองและการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ภายในปี ๒๕๖๔ นี้ยังเกิดม็อบขนาดใหญ่ได้ยากมาก

            ที่สำคัญทั้ง “จตุพร” และ “ทนายนกเขา” ต่างผ่านประสบการณ์ไล่รัฐบาลไม่สำเร็จมาเหมือนๆ กัน         

            “จตุพร” ไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์เดือนพฤษภาคมปี ๒๕๕๓ 

            แต่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อยู่ต่ออีก ๑ ปีเต็ม ยุบสภาเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ 

            ทนายนกเขา ร่วมกับ กปปส.ไล่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”  ข้ามปี

            สุดท้ายเกิดรัฐประหาร

            ฉะนั้นอดีตทั้งคู่ไม่ต่างกัน

            ไม่เคยมีใครใช้ม็อบไล่รัฐบาลด้วยตัวเองได้สำเร็จ

            การก่อตัวใหม่ของทั้งคู่จึงน่าสนใจ เมื่อแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง เคลื่อนไหวอิสระจากกัน แต่ใช้วิธีเดียวกันและมีเป้าหมายเดียวกัน

            และที่เหมือนกันจนน่าประหลาดใจคือ ต้องการนายกฯ นอกบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองเหมือนกัน

            ก็มีคำถามว่าคุ้มแล้วหรือไม่กับการใช้วิธีนี้ กับรัฐบาลที่มีอายุเหลือเพียง ๑ ปี ๙ เดือน  

            การยอมรับนายกรัฐมนตรีที่มาจากบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ อาจบ่งบอกถึงเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทางการเมืองได้มากโขทีเดียว

            เพราะเมื่อมีการตั้งคำถามว่า มีใครบ้างที่เห็นด้วยกับบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ก็สามารถตีวงได้แคบลงอย่างมาก

            ก่อนอื่นไปดูกันว่าการที่ทนายนกเขาขีดเส้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกภายในวันที่ ๒๔ มิถุนายน

            ขณะที่ จตุพร ไม่มีเส้นตาย นั้นมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

            เส้นตายไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสามารถขีดใหม่ได้

            แต่ประเด็นใหญ่คือ ทั้งคู่รู้ดีว่าภายในปีนี้ ไม่มีใครไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สำเร็จแน่นอน

            เพราะอารมณ์คนครึ่งปีหลังคือ “ฉีดวัคซีน” เท่านั้น

            แล้วทำไมต้องมาไล่กันตั้งแต่ไก่โห่

            นี่คือประเด็นสำคัญที่จะอธิบายว่า มีใครบ้างที่เห็นด้วยกับบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ อยากได้นายกรัฐมนตรีนอกบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง

            แน่นอนตัดพรรคการเมืองฝ่ายค้านออกไป

            ทุกพรรคการเมืองไม่สนองตอบแนวทางนี้แน่นอน

            แม้พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคอาจสนใจ แต่รู้ดีว่าถึงทางตัน ถึงจะได้เป็นรัฐบาล ก็เป็นเพียงรัฐบาลเสียงข้างน้อย เสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ในสภาไม่ถึงครึ่ง

            ตัดสามนิ้วออกไป เพราะต่อต้านรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง

            ก็จะเหลือไม่กี่กลุ่มที่พอเป็นแนวร่วมให้ ทนายนกเขา และ จตุพร ได้

            แต่พอลงในรายละเอียด จะเจอประเด็นใหม่

            เอาทนายนกเขา ไม่เอาจตุพร

            หรือเอาจตุพร ไม่เอาทนายนกเขา

            สรุปแล้วสูตรการเมืองไล่รัฐบาลช่วงนี้ ถูกเซตขึ้นมาเป็นสีสันคลายเครียดจากโควิด หรือบางคนอาจเครียดหนักกว่าเดิม 

            ก้าวเข้าสู่ปีที่ ๘ ของระบอบประยุทธ์

            มีการพูดถึงความเสียหาย ว่าหนักหน่วงประหนึ่งประเทศกำลังล่มจมเพราะประยุทธ์

            คิดเล่นๆ ว่า หากเพิ่มสมการโควิดเข้าไปในรัฐบาลระบอบทักษิณ จะเกิดอะไรขึ้น

            ปีนี้ครบ ๒๐ ปีระบอบทักษิณ เราอาจเห็นหลายอย่างแตกต่างออกไป

            แต่ละรัฐบาลเจอวิกฤติไม่เหมือนกัน

            รัฐบาลบิ๊กจิ๋วเจอพิษต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นวิกฤติระดับโลก  ประเทศไทยทรุดหนักต่อเนื่องถึงรัฐบาลชวน หลีกภัย

            เศรษฐกิจโลกขาขึ้นตรงกับยุครัฐบาลทักษิณ และทักษิณ ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้

            ทักษิณเจอ “หวัดนก” เกิดอาการเซ เพราะปกปิดข้อมูล จนต้องกินไก่โชว์ แต่หวัดนกไม่ใช่เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในโลก

            รัฐบาลยิ่งลักษณ์เจอภัยน้ำท่วม แต่ก็แค่ภัยในประเทศ ไม่ใช่ระดับโลก

            หากเรานำโควิดเข้าไปใส่ในรัฐบาลทักษิณ ยิ่งลักษณ์  คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น

            นิสัยกล้าได้กล้าเสียของทักษิณ นั่งรอคำสั่งของยิ่งลักษณ์ กับการบริหารจัดการโรคระบาดครั้งใหญ่ของโลก จะพาประเทศไทยไปสู่อะไร

            ฉะนั้นก่อนไล่รัฐบาลอย่าแทงม้าตัวเดียว ต้องดูม้าตัวอื่นประกอบด้วย

            “ต่อตระกูล ยมนาค” เผยแพร่บทความของ  ศาสตราจารย์ชาวอเมริกัน ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เขียนบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทมส์ และถูกนำเสนอซ้ำเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

                “เป็นเรื่องยากลำบากเสมอที่จะอ้างเหตุผลความชอบธรรมให้แก่การทำรัฐประหาร แม้กระทั่งในกรณีที่เป็นการเข้าแทนที่ระบอบปกครองที่ย่ำแย่เต็มที”

                “ถ้าหากจะให้เหตุผลความชอบธรรมแก่การต่อต้านการรัฐประหารคราวนี้ ก็จำเป็นจะต้องไปให้ความสนับสนุนต่อทักษิณ บุรุษผู้ซึ่งจะไม่ยอมอดทนต่อการคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งจากสถาบัน

                และเป็นผู้ซึ่งจะปกครองด้วยกำปั้นเหล็กตราบเท่าที่เขา – หรือผู้ที่เขาคัดเลือกให้มาสืบทอดต่อจากเขา ยังมีชีวิตอยู่”

                “การเลือกให้ระบอบทักษิณปกครองประเทศต่อไป ก็คือการรับประกันให้ประชาธิปไตยในไทยตายดับสูญไปภายในอนาคตอันใกล้

                ขณะที่การสนับสนุนการก่อรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายทหาร อาจจะ (แค่อาจจะ) เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถฟื้นฟูประชาธิปไตยให้กลับคืนมาได้

                ความจริงทางประวัติศาสตร์ทั่วๆ ไปนั้นมีอยู่ว่า  ระบอบปกครองต่างๆ ที่นำมาซึ่งระเบียบเรียบร้อย อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย

                ขณะที่แทบไม่ปรากฏเลยว่าระบอบปกครองในทางตรงกันข้ามจะสามารถทำอะไรเช่นนี้ได้

                ทั้งนี้ระบอบปกครองที่ปล่อยให้ทำอะไรตามใจนั้น มีความโน้มเอียงที่จะนำไปสู่การปราบปรามอย่างรุนแรง ซึ่งกลายเป็นการสร้างความย่อยยับให้แก่การปกครองอันเรืองปัญญา”

            ก็ใช่ว่าจะเดินตามก้นฝรั่ง

                แต่แปลกใจที่เห็นฝรั่งไม่กอดตำราฝรั่งเหมือนคนไทยบางกลุ่ม

            ดร.สกอตต์ ธอมป์สัน ทำงานการเมืองมานานตั้งแต่ ประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ดโรนัลด์ เรแกน

            เห็นอะไรมาเยอะ จึงเข้าใจการเมืองภาพกว้างได้เยอะ

            รู้ว่าประชาธิปไตยไทยจะฉิบหายเพราะอะไร

            การฟื้นฟูประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

            ครับ….อะไรดีบุ๋มก็ว่าดี.

Written By
More from pp
โครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับสำหรับผู้ป่วยติดเตียงหรือมีปัญหาการกลั้นขับถ่าย ครอบคุลมคนไทยทุกสิทธิแล้ว สามารถแจ้งรับสิทธิที่สายด่วน 1330 หรือลงทะเบียน รพ.สต. ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน อบต.-เทศบาล
13 สิงหาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้บรรจุให้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับเป็นสิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ...
Read More
0 replies on “๒๐ ปีระบอบทักษิณ-ผักกาดหอม”