ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
จะว่าวัยทองก็ไม่น่าใช่!
แต่เห็นอาการเครียด หงุดหงิด โมโหง่าย หายไวของแม่ค้าออนไลน์ชื่อ “พิมรี่พาย” ที่เพิ่งถอนหอก-ตอกหน้านายทักษิณ ชินวัตร ไปแหม็บๆ..
รุ่งขึ้นอีกวัน เธอออดอ้อน..“สืบเนื่องจากการไลฟ์สดเมื่อวาน พิมชี้แจงไปแล้วว่าไม่อยากเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร พูดไปตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว
หากพิมพูดพาดพิงถึงลุงโทนี่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ด้วยถ้อยคำที่ขาดสติ ทำไห้พ่อแม่พี่น้องหลายๆ ท่านเกิดความเข้าใจผิด เกิดความไม่สบายใจ จนสื่อไปตีแผ่กันใหญ่โต
พิมก็พูดในฐานะเด็กพูดกับผู้ใหญ่ พิมกราบขอโทษลุงโทนี่นะคะ สองพิมกราบขอโทษพ่อแม่พี่น้อง ที่พูดจาไม่น่ารัก พูดจาปากไว
พิมสัญญาจะคิดให้เยอะกว่านี้ จะพูดจาหรือจะไตร่ตรองให้มากกว่านี้ สัญญาว่าจะเป็นเด็กที่น่ารัก”
ทำเอา คนอ่าน-คนดูปรับตัว-ปรับอารมณ์กันแทบไม่ทัน ยิ่งไปกว่านั้น หลังจบคำด้วย “สัญญา” จะเป็นเด็กที่น่ารัก แต่ไม่ทันได้พักยกแก้วน้ำซด “พิมรี่พาย”ก็ร่ายต่อ..
“พิมไม่ต้องการ ไม่ประสงค์เอาชื่อดิฉันไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง บ้านเราประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียง
ขอขอบพระคุณ คุณหมอส.ส. ท่านที่สอบตก ที่บอกว่าคุณพิมรี่พายกล้าหาญที่จะบอกคุณทักษิณตรงๆ ดิฉันจะกล้าหาญให้ท่านดูค่ะ เริ่มเลยนะคะ
ท่านเป็นหมอจริงหรือเปล่าคะ หรือท่านเรียนมาเป็นหมอ แต่แก่ไปเป็นหมาคะ ท่านเลียดิฉันเก่งมาก ถ้าดิฉันกล้าหาญอย่างที่ปากดิฉันพูดจริง
ทำไมตอนดิฉันทำโซลาร์เซลล์ ดิฉันขุดบ่อบาดาล ดิฉันติดไฟคลองเตย ทำเตียงสนาม ทำไมท่านไม่ชมดิฉันกล้าหาญบ้างล่ะคะ
ท่านอุตส่าห์แบกสังขารวัยชราของท่าน ขึ้นจากตัวเมืองเชียงใหม่ ด้วยความบุกบั่นขึ้นไปอมก๋อย เจตนาเพื่อจะทำผิดการทำบุญของดิฉัน ท่านจำได้มั้ยคะ
เมื่อท่านจับผิดแล้ว ท่านปลุกปั่นยุยง พูดจาไม่หยุด เหน็บแนมแดกดันดิฉัน ให้พวกของท่านด่าดิฉัน ท่านจำได้มั้ยคะ วันนี้ท่านไม่เขินเหรอคะที่มาชมดิฉัน ไม่รู้สึกอะไรเหรอคะ
มีแต่ไม้ซีกงัดไม้ซุง ดิฉันไม้ซีกของัดกาฝากค่ะ ถ้าดิฉันไม่ทำอะไรสักอย่างเดี๋ยวกาฝากจะมาขออาหารจนเคยตัวค่ะ แต่ก็ไม่น่าจะทันนะคะ อายุปูนนี้แล้ว
ท่านคะ สรุปแล้ว ท่านล่าล้านชื่อเพื่อไล่อีกฝั่งนึง ท่านล่าได้หรือยังคะ ถ้ายังไม่ได้ ท่านใส่ชื่อดิฉันล้านครั้งเลยค่ะ ไม่ได้ไล่ฝั่งตรงข้ามนะคะ ไล่ท่านออกจากประเทศนี้คะ
ดิฉันงงกับความแก่และไร้สาระของท่านมาก ฝากอีกเรื่องนะคะ คุณหมอส.ส.สอบตก ยืนคู่กับหมอปลา ดิฉันไหว้หมอปลาค่ะ”
เนี่ย..ทำให้ได้รู้ การเป็นเด็กที่น่ารัก ต้องอย่างนี้นี่เอง แต่ถ้อยคำเล่าลือ “ปากตลาด”..
ไม่จำเป็นต้องใช้กับคนเป็น “แม่ค้า” ก็ได้มั๊ง?