ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
มือบริหารอาชีพ..
เห็นพูดกันมาก ก็อยากรู้เขาผู้นั้นเป็นใคร และจะเข้ามาบริหารประเทศชาติในขณะนี้ด้วยวิธีการแบบไหน-อย่างไร ที่สำคัญ..
เป็น “มือบริหารอาชีพ” ที่เก่ง-ฉลาดสามารถแก้ปัญหาโควิด-19ได้แค่พลิกฝ่ามือ และกอบกู้เศรษฐกิจ-GDP โตพรวดในปีครึ่งปีได้จริงหรือ?
หรือ..ที่พูดๆ นั้น แค่ต้องการจะเหยียบย่ำซ้ำเติมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในท่ามกลางสถานการณ์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและโควิด-19มือเป็นระวิง ให้ดูด้อย หมดสภาพ ไร้ราคา!
ถามตรงๆ.. “นายกรัฐมนตรีคนใหม่” ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นำเสนอ แล้วสื่อบางสำนักนำสนอง ท่านจะเหาะเหินเดินอากาศมาจากไหนล่ะ?
ถ้าหนึ่ง..ไม่ใช่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สองคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ สามคุณชัยเกษม นิติสิริ สี่คุณอนุทิน ชาญวีรกุล ห้าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
แล้วคิด-ฝันหรือว่า พล.อ.ประยุทธ์ลาออกแล้ว บรรดา 4-5ท่านเหล่านี้ จะขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรีคนใหม่”ได้สมปรารภนาน่ะ?
เอาล่ะ..หิมะอาจจะตกในเมืองไทยอีกครั้ง โดย 1 ใน 5 รายชื่อสามารถฝ่าด่านขึ้นเป็นนายกฯได้ กระนั้นก็หาใช่จะดูถูกดูแคลน แต่อยากถาม..
นี่หรือ.. “มือบริหารอาชีพ” ที่จะมาแทน หือ?
ครับ..เห็นข่าวมา2-3 วันแล้วแหละ แต่ด้วยไม่อยากไปผสมโรงให้เกิดความขัดแย้งทั้งๆที่..เรื่องไม่เป็นเรื่อง!
และวันนี้ก็ไม่ได้จะนำมาคุย เพียงแต่ด้วยจริตส่วนตัวที่ให้รู้สึกชื่นชอบ-ประทับใจกับความในใจที่คุณบอย ตรัยนักร้องนำวงฟรายเดย์ ได้โพสต์อธิบายชาวเน็ต
ที่เรียกร้องให้เขาแต่งเพลงสะท้อนปัญหาที่มาจากรัฐบาล หลังจากคุณบอยได้แต่งเพลงให้กำลังใจคุณหมอ-พยาบาลไปก่อนหน้า จึงใคร่ขอนำมาให้ผู้อ่านได้ร่วมทัศนา จะถูกใจ-ขัดใจไม่ว่ากัน..
“เมื่อคืนปล่อยเพลงให้กำลังใจคุณหมอ ตื่นเช้ามาก็เจอกับข้อความพูดลอยๆ ประมาณว่าเห็นอยู่ว่าปัญหามันเกิดจากรัฐบาลและการบริหารของนายก ถ้าศิลปินหัดแต่งเพลงสะท้อนเรื่องพวกนี้บ้างคงดี
โลกนี้มีผู้คนเยอะแยะ ศิลปินก็มีมากมาย หลากหลายแบบ ที่คุณบอกว่า ศิลปินนั้นควรจะเป็น “กระบอกเสียง” ให้ ที่จริงแล้ว เรื่องนั้นมันควรจะแตกต่างกันไป ตามสิ่งที่เขายึดถือหรือไม่
ใครจะพูดเรื่องสัตว์ป่า ใครจะปกป้องทะเล ใครชูสิทธิพลเมือง หรือใครจะแค่อยากประท้วงการฆ่าสัตว์ด้วยการกินแต่ผัก มันควรก็เป็นเจตจำนงเสรีของเขามิใช่หรือ
ผมไม่ได้หายใจเข้าออกเป็นเรื่องการเมือง ผมไม่เคยสมาทานตัวเองอยู่ข้างใคร ทุกวันยังหงุดหงิดกับใครก็ตามที่มาเป็นรัฐบาล เฉกเช่นประชาชนคนหนึ่งไม่ต่างกัน
แต่ที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าผมจะชอบหรือจะเกลียดนายกแค่ไหน มันก็ไม่ทำให้ผมมีความคิดว่าอยากจะไปแต่งเพลงด่า
ดนตรีไม่เคยเป็นอาวุธ แต่ดนตรีนั้นใช้เยียวยา ปลอบโยน คุณจะเลือกอย่างไร ในวันที่ทุกแห่งหนช่างดูแหลมคม คุณบอกว่าผมมองไม่เห็นปัญหา ต้องขอโทษด้วย ที่ปูนนี้แล้วผมยังมองโลกแบบไร้เดียงสา
อย่างว่าแหละ ก็คนเราถนัดไม่เหมือนกันไงล่ะ หากคุณคิดว่าอะไรที่มันดีกับโลกนี้ คุณก็ลุกขึ้นมาทำเลยครับ นี่พิมพ์ลอยๆ บ้าง”
ชัด-คม.. “ดนตรีไม่ใช่อาวุธ..ลุกขึ้นมาทำเองเลย”!