ผักกาดหอม
วัคซีนสปุตนิกจะมาไทย…..
เขาบอกว่าเป็นเพราะพลังแห่งโทนี่ ถ้า “โทนี่” ไม่พูด วัคซีนก็ไม่มา
แถมมาแบบไม่ผ่าน อย.ด้วย
ขอโทษครับ…ควาย
เห็นแชร์กันในโซเชียลยกก้น “โทนี่” ว่า เก่งกว่าลุงเป็นล้านเท่า แค่พูดว่าจะไปคุยกับ “ปูติน” วัคซีนสปุตนิกก็เตรียมโผล่เมืองไทยทันที
ถ้าไม่ได้พลังแห่งโทนี่ ไม่มีทางที่คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนยี่ห้ออื่น
แล้วพานไปโจมตี แอสตราเซเนกา สยามไบโอไซเอนซ์
รวมทั้งในหลวงรัชกาลที่ ๑๐
ว่าไปมันน่าอนาถใจ โลกยุคใหม่ ที่พากันอวดอ้างเป็นผู้ทันสมัย อยู่กับโซเชียล ท่องโลกออนไลน์ ไม่ตกเทรนด์
กลายเป็นว่า….เป็นแค่ฝูงวิลเดอบีสต์ในไซเบอร์
สมัครใจเป็นแค่เหยื่อ
แค่ตะโกนสิงโตมา ก็แตกตื่นวิ่งเหยียบกันเอง ไม่มีตัวไหนมองว่าสิงโตมาจริงหรือเปล่า
ครับ…ฝูงวิลเดอบีสต์ในโซเชียล รองับข้อมูล จริงไม่จริงไม่รู้ ไม่สังหรณ์ใจ ไม่ตั้งคำถาม นิ้วกับคีย์บอร์ดมีไว้แค่แชร์ และคอมเมนต์ด่า
โลกยุคนี้ตัดสินกันแค่ “ชอบ-ไม่ชอบ” ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องไร้ค่า
กรณีวัคซีนสปุตนิก คือคำถามกลับไปยังคนรุ่นใหม่ รวมทั้งนักการเมืองฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพวกสมุนนักโทษหนีคุก สมองมีไว้เพื่ออะไร?
เห็นวงจรในโซเชียล ทำให้นึกถึง “คำพิพากษา” ของ “ชาติ กอบจิตติ”
“ฟัก” ชายหนุ่มผู้ตกเป็นจำเลยสังคมจากความผิดที่ตัวเขาเองไม่ได้ก่อ ถูกตีตราว่าเป็นคนเลวที่ประพฤติผิดแผกไปจากจารีตประเพณีอันดีงามของสังคม กระทั่งกลายเป็นตัวประหลาด เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์
ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวกับพลังแห่งโทนี่ ที่สาวกพากันด่า “ลุงตู่” ว่าเป็นคนไร้ค่าพาชาติฉิบหาย
สนุกสนานกับ “เฮตสปีช” เชิดชูพลังแห่งโทนี่ โดยไม่มีใครเสาะหาว่าความจริงคืออะไร
ทีนี้มาดูกันว่า วัคซีนสปุตนิก มาไทย และไม่ต้องผ่าน อย. เพราะพลังแห่งโทนี่ จริงหรือไม่
การจัดหาวัคซีนของแต่ละประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ยกเว้นประเทศผู้ผลิต ฉะนั้นการดีลระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลเขาทำกันทั่วโลก และไม่ใช่เพิ่งมาดีลกันตอนนี้่อย่างที่ “โทนี่” พูดเรื่องวัคซีน
ไทม์ไลน์ วัคซีนสปุตนิก ตามนี้ครับ
๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๓ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อโควิด-๑๙ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
การประชุมครั้งนั้นมี นาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และมีรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทั้งหมด รวมถึงเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมด้วย
เนื้อหาการประชุม คือแนวทางความร่วมมือในกรอบอาเซียน-รัสเซียในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
“ดอน ปรมัตถ์วินัย” ย้ำความสำคัญของการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอาเซียนกับรัสเซียด้านการป้องกัน ควบคุม และรับมือกับโรคระบาด รวมทั้งด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาเวชภัณฑ์ วัคซีน และยาต้านไวรัส
๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้อนรับนายเยฟเกนี โตมีฮิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ระหว่างการเข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสที่เอกอัครราชทูตฯ เข้ารับตำแหน่งใหม่
ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความสัมพันธ์ทวิภาคีอันดีระหว่างไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย และการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเตรียมจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย ครั้งที่ ๘ (The 8th Thai-Russian Joint Commission on Bilateral Cooperation) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าสหพันธรัฐรัสเซีย และความร่วมมือด้านวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙
มีความเคลื่อนไหวในเพจ สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย วันที่ ๑๒ มีนาคม โดยเผยแพร่ข่าวสารว่า
เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๔ ที่เจ้าหน้าที่จากสถานทูตรัสเซียได้เข้าพบกับรองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ในระหว่างการสนทนา มีประเด็นความร่วมมือทวิภาคีในด้านการต่อสู้กับไวรัสโควิด-๑๙ ที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน ในระหว่างการพบกันนั้นได้มีการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ในการประสานงานกันระหว่างองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคและความเป็นอยู่ของมนุษย์แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Rospotrebnadzor) เพื่อดำเนินโครงการร่วมกัน และจัดการประชุมเฉพาะทาง
ฝ่ายไทยยังยืนยันความพร้อมที่จะสร้างความร่วมมือกับรัสเซียในด้านการต่อต้านการแพร่ระบาด ภายใต้กรอบของความร่วมมือพหุภาคีในรูปแบบการประชุมสุดยอดรัสเซีย-อาเซียน และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก
๑๐ มีนาคม ๒๕๖๔ “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าพบเพื่อหารือด้านความร่วมมือกับ กองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund: RDIF) ณ ตึกบัญชาการ ๑ ชั้น ๓ ทำเนียบรัฐบาล
มีนายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมหารือด้วย
สำหรับประเด็นการหารือ สืบเนื่องจากที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ร่วมมือกับ Gamaleya Research Institute of Epidemiology and Microbiology, RDIF ของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์และผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙ Sputnik V ใน ๓ ประเด็น
ประกอบด้วย การนำเข้าวัคซีนโควิด-๑๙ Sputnik V เพื่อการวิจัยและการใช้แบบฉุกเฉิน (Emergency Use), ความร่วมมือในการศึกษาและวิจัยทางคลินิก Sputnik Lite (Sputnik 26) และความร่วมมือในการจัดทำ Travelling Vaccine Passport
สำหรับ การนำเข้าวัคซีนโควิด-๑๙ “Sputnik V” เพื่อการวิจัยและการใช้แบบ Emergency Use จะดำเนินการโดยบริษัท จุฬารัตน์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นผู้นำเข้าและยื่นขออนุญาตจาก อย.
“รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เห็นว่าเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะได้ศึกษาวัคซีนโควิด-๑๙ ได้หลากหลายขึ้น ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็เปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้อยู่แล้ว เพียงแต่ดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไขและและขั้นตอนทางเอกสารที่ครบถ้วน”
RDIF เป็นองค์กรในสังกัดรัฐบาลรัสเซียที่นอกจากจะเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนของรัสเซีย ที่ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศในสินทรัพย์ของรัสเซียแล้ว ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ RDIF ได้มีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่โครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ของรัสเซีย หรือโครงการ Sputnik V
วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๔ ได้มีความคืบหน้าสำคัญของการจัดหาวัคซีนสปุตนิก โดยคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รายงานว่า วัคซีนสปุตนิก ไฟว์ ของประเทศรัสเซีย ได้เข้าหารือกับ อย. เพื่อเตรียมการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-๑๙ แล้ว
นอกจากนี้ อย.ยังได้เปิดเผยว่า วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ได้รับอนุมัติทะเบียนจาก อย.แล้วเป็นรายที่ ๓ ต่อจากวัคซีนซิโนแวค และแอสตราเซเนกา
๑๖ เมษายน ๒๕๖๔ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า
“ในการจัดหาวัคซีน มีการพูดคุยไปทางรัสเซีย มีแนวทางจัดหามากขึ้น เช่น วัคซีนสปุตนิก วี, วัคซีน Ad5-ncov หรือ Convidecia บริษัท CanSino Biologics จากจีน, วัคซีน COVAXIN บริษัท Bharat Biotech ของอินเดีย มีแนวโน้มจัดหาได้มากขึ้น และวัคซีนไฟเซอร์ ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นความสัมพันธ์อันดี”
๒๐ เมษายน น.ช.โทนี่ โผล่ในคลับเฮาส์ เสนอตัวจะประสาน “ปูติน” จัดหาวัคซีนสปุตนิก
๒๒ เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ข่าวผ่านเพจ Prayut Chan-o-cha ว่า
“…ตามที่ผมได้สั่งการกระทรวงการต่างประเทศ เจรจาหารือกับรัฐบาลรัสเซียโดยตรง เรื่องวัคซีนสปุตนิก ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ เพิ่มมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ปัจจุบัน กระทรวงการต่างประเทศได้รับคำตอบจากรัสเซียว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย ยินดีให้การสนับสนุนรัฐบาลไทยในเรื่องดังกล่าว เนื่องด้วยไทยและรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องกับรัฐบาลปัจจุบัน
ผมจึงได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการต่อไปให้เป็นรูปธรรม และได้รับทราบว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการตามสั่งการแล้ว โดยได้นัดบริษัทตัวแทนสปุตนิกในไทย มาหารืออย่างเร่งด่วนแล้วครับ…”
นั่นคือไทม์ไลน์ วัคซีนสปุตนิก
เราได้มาเพราะพลังแห่งโทนี่หรือเปล่า
ถ้าใช่ “น.ช.โทนี่” คงจะขี่ไทม์แมชชีนไปคุยกับ “ปูติน” ก่อนไทม์ไลน์ที่ว่านี้เป็นแน่แท้.