ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
มีคนนินทา.. “เสี่ยตา กลัวโควิด-19 ขี้ขึ้นสมอง”!
จริง-ไม่จริง ไม่ค่อยได้พบหน้าคุณปัญญา นิรันดร์กุล จึงไม่ได้ถาม แต่ถ้ากลัวจริงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร กลับกันจะดีเสียอีก..
อย่างน้อยก็ทำให้ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก!
นี่..จะว่าไป ผมเองก็กลัวขี้หดตดหายเหมือนกัน ตอนนี้ได้แต่เก็บตัวอยู่กับบ้าน เพื่อนพ้องพี่น้องชวนดริ๊ง-ดื่มที่ไหนก็จะอ้าง “ไม่ว่าง” ยันเลย!
ก็เนอะ..เห็นตัวเลขพุ่งปรู๊ดๆ จนเฉียดหลักพันต่อวัน แม้จะไม่ถึงกับขาสั่น แต่ก็ให้รู้สึกใจหวิวๆ ยิ่งได้รู้-ได้ยินข่าวคน (ดารา) รู้จัก-คนใกล้ตัวติดโควิดเข้าด้วยแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่..
ตอนนี้..ไม่เกี่ยวกับ “เพื่อชาติ” แล้วล่ะ แต่ขอ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อตัว(กู)เอง” นี้แหละ!
และไม่ว่าจะด้วย “เสี่ยตา” กลัวโควิด-19 จนขี้ขึ้นสมองหรือไม่ก็ตาม แต่การที่บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ฯ ได้ออกประกาศ..
“แจ้งยกเลิกการถ่ายทำรายการ และปิดสตูดิโอ ตั้งแต่วันที่ 10-23 เมษายน 2564 เป็นเวลา 14 วัน เพื่อทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อ
เนื่องจากทราบว่าผู้ติดเชื้อโควิด เข้ามาถ่ายรายการเมื่อวันที่ 6 เมษา ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. ณ สตูดิโอ 1 (วันและเวลาดังกล่าว มีการถ่ายทำรายการเดียวเนื่องจากวันหยุดราชการ)
โดยทั้งนี้ได้แจ้งให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณสตูดิโอ ที่มีการถ่ายทำดังกล่าว และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ทราบ และให้ไปตรวจหาเชื้อรวมถึงแจ้งกักตัว เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และป้องกันการแพร่ระบาด”
นอกจากจะเป็นการป้องกันพนักงานของบริษัทให้ปลอดภัยจากโควิดแล้ว ยังจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมที่น่าชื่นชมยิ่ง!
ซึ่ง..14 วันที่หยุดถ่ายทำ-บันทึกเทป ย่อมส่งกระทบต่อคอนเทนต์ที่จะนำแพร่ภาพออกอากาศไม่มากก็น้อย และถึงจะ “รีรัน” ของเก่าประทังไปได้แต่ละรายการแต่ละวัน..
แต่อย่าลืมว่า เจ้าของสินค้า-โฆษณา เขาไม่ได้ “ใจมหาสมุทร” ที่จะยอมควักเงินเต็มทุกบาท-ทุกสตางค์จ่ายให้กับ “รายการรีรัน” ที่นำเทปเก่ามาหากิน!
ฉะนั้น..การปิดสตูฯ จึงถือเป็นการ “เสียสละ” ไม่ว่าจะเพราะ “ขี้ขึ้นสมอง” ของเจ้าของบริษัทฯ หรือไม่ก็ตามเถอะ!
ส่วนนู่น..ต้องบอกว่า “พยายามจะป้ายขี้” ก็ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยด้วยหนีคดี โพสต์ข้อความว่า..
“แต่วันนี้ ดิฉันกลับรู้สึกเศร้าใจที่ยังไม่เห็นความพยายามในการแก้ปัญหา (โควิด-19) ของรัฐบาลที่จะบริหารจัดการ ทำให้ความหวังของประชาชนเป็นจริง
ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมถึงปัญหาการเข้าถึงวัคซีนที่ยังต่ำไม่ทั่วถึง และการเปิดกว้างให้ทุกโรงพยาบาล เพื่อนำเข้าวัคซีนที่หลากหลายเพื่อชะลอและป้องกันการติดเชื้อแก่พี่น้องประชาชนในอีกทางเลือกหนึ่ง”
ขอโทษนะ..รู้สึกเศร้าใจกับที่รัฐบาลไม่พยายามการแก้ปัญหาโควิด หรือเศร้าใจที่ไม่ได้กลับมา..
ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ในประเทศไทยกันแน่..หือ?