ผักกาดหอม
วันนี้พาไปเที่ยวต่างประเทศครับ
ไปดูสถานการณ์โควิดกันหน่อย
แล้วค่อยเลี้ยวกลับเมืองไทย
ข่าวล่ามาเมื่อวานซืน อินเดียประกาศระงับการส่งออกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ทั้งหมดเป็นการชั่วคราวแล้ว
สาเหตุเพราะพบผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งปรี๊ด!
ช่วงต้นเดือนผู้ติดเชื้อที่อินเดียเจอวันละหมื่นนิดๆ
กราฟพุ่งล่าสุดอยู่ที่เกือบๆ ๖ หมื่น
ฉะนั้น อินเดีย ซึ่งเป็นศูนย์ในการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ย่านเอเชียใต้ รวมถึงแอฟริกา ต้องระงับการส่งออกทั้งหมด เพื่อฉีดในประเทศก่อน
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
ก็กระเทือนไปทั้งโลกซิครับ
๑๙๐ ประเทศ ที่รอรับวัคซีนภายใต้โครงการ Covax ต้องรอกันต่อไป
รอกี่เดือนไม่มีใครทราบได้ แต่อินเดียจะส่งออกอีกครั้งก็ต่อเมื่อ ผู้ติดเชื้อในประเทศลดลง
Covax คือโครงการของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่า การแบ่งปันวัคซีนระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะเป็นธรรมและทั่วถึง
ว่ากันตามแนวโน้ม ก็คงต้องว่ากันเป็นไตรมาส เพราะขณะนี้ถือเป็นการระบาดรอบ ๒ ในอินเดีย และยังไปไม่ถึงจุดสูงสุด
กลับมาที่ไทย จำประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน ที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นำมาโจมตีรัฐบาล รวมไปถึง สยามไบโอไซเอนซ์ ได้มั้ยครับ?
เคยเขียนถึงไปหลายครั้งว่า เรื่องวัคซีนโควิดให้ดูกันยาวๆ
สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว “ธนาธร” โจมตีอย่างหนัก
ได้วัคซีนล่าช้า
ทำไมต้องเป็นแอสตร้าเซนเนก้า
ทำไมไม่เข้าโครงการ Covax
ฯลฯ
ชี้แจงไป เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
ตีมึนเพราะเจตนาแอบแฝงอื่น
ความเข้าใจผิดในประเด็นเหล่านี้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะสามนิ้วไม่พยายามจะเข้าใจว่าความจริงคืออะไร
ทำไมต้อง แอสตร้าเซนเนก้า และ สยามไบโอไซเอนซ์
กรณีอินเดียคือคำตอบ
ไม่มีใครทราบล่วงหน้าได้ว่าสถานการณ์การระบาดโควิด-๑๙ จะรุนแรงเมื่อไหร่ เวลาใด
ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้ว่า ไทยจะต้องเจอกับการระบาดรอบ ๓ รอบ ๔ หรือไม่
แต่การมีโรงงานผลิตวัคซีนในประเทศ คือหลักประกัน ว่า เมื่อไหร่ก็ตามหากเกิดวิกฤติขึ้นมา ก็สามารถพึ่งพาตัวเองได้ อย่างเช่นที่อินเดียกำลังเป็นอยู่
และเชื่อมโยงไปถึงการเข้าโครงการ Covax
หากเอาตามที่ ธนาธร ก้าวไกล ก้าวหน้า บอกให้เข้าโครงการ Covax ตอนนี้เราคงทำได้แค่รอ
ทั่วโลกขณะนี้การขอโควตาวัคซีน ไม่ว่าจากประเทศไหนล้วนต้องรอคิวกันทั้งสิ้น
นับจากนี้ไปถึงเดือนมิถุนายนหลายๆ อย่างจะยิ่งชัดเจนขึ้นอีก
และจะเป็นการอธิบายว่า สิ่งที่ภาครัฐ บุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกันวางแผนมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วนั้น คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย
คนไทยทั้งประเทศจะทยอยฉีดวัคซีน แอสตร้าเซนเนกาจาก สยามไบโอไซเอนซ์ จนครบภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า
ที่น่ากังวลคือประเทศเพื่อนบ้านครับ
ก่อนนี้สามนิ้วบอกว่า ไทยแย่กว่าช้ากว่าแม้กระทั่งลาว กัมพูชา พม่า
ตอนนี้เห็นยัง เมื่อวัคซีนจากโครงการ Covax ไม่มา วัคซีนบริจาคจากจีนไม่มี ก็ต้องรอต่อไปแบบไม่มีกำหนด
สุดท้ายน่าจะใช้บริการ แอสตร้าเซนเนก้า จาก สยามไบโอไซเอนซ์
อีกเรื่องที่ต้องเข้าใจ การนำเข้าวัคซีนทุกประเทศทั่วโลกยังต้องผ่านกลไกรัฐ
สาเหตุเพราะวัคซีนโรคโควิด-๑๙ ยังเป็นวัคซีนที่อนุญาตให้ใช้กรณีฉุกเฉิน
กระบวนการหลักต้องเป็นกลไกรัฐของแต่ละประเทศที่จะต้องเร่งจัดหาจัดซื้อนำเข้ามา ภาคเอกชน โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ไม่สามารถทำได้เอง
ฉะนั้นใครที่บอกว่ารัฐบาลหวงก้าง กลัวว่าจะเสียคะแนน หรือต้องการให้สยามไบโอไซเอนซ์ค้ากำไร ก็ขอให้คิดเสียใหม่
ขณะที่ฟากฝั่งการเมือง นั่งนับนิ้วเรื่องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดโควิด-๑๙ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓
ผ่านไป ๑ ปี ต่ออายุมาหลายครั้ง
หลังสุดเมื่อ ๒๓ มีนาคมที่ผ่านมา ขยายสถานการณ์ฉุกเฉินไปรวดเดียว ๒ เดือน คือ ๑ เมษายน ถึง ๓๑ พฤษภาคม
เหตุผลไม่มีอะไรพิเศษ เพราะยังอยู่ในช่วงการระบาดตัวเลขหลักร้อยทุกวัน
แต่การเมืองฝ่ายค้าน กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล เขาไม่แฮปปี้
มองว่าประกาศเพื่อปราบม็อบ มากกว่าจะปราบโควิด-๑๙
กระจองอแงอ้างว่าเผด็จการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ถ้าพูดแค่ว่าฝ่ายหนึ่งอยากชุมนุม แต่อีกฝ่ายไม่อยากให้ชุมนุม แบบนั้นมันก็เผด็จการจริงๆ
แต่รายละเอียดมันมีมากกว่านั้น
ที่ผ่านมา สามนิ้ว โดยการสนับสนุนของนักการเมืองฝ่ายค้าน ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จัดการชุมนุมเพื่อล้มล้างสถาบัน
ถามจริงถ้า เพื่อไทย ก้าวไกล เป็นรัฐบาลจะยอมให้มีการชุมนุมแบบนี้หรือ
ถ้ายอมก็เท่ากับเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการล้มล้างสถาบัน
แล้วคิดว่าคนที่จงรักภักดีต่อสถาบันเขาจะยอมหรือ
สุดท้ายจะต้องเจอม็อบขนาดใหญ่
ยืนยันว่าจะเป็นม็อบที่ใหญ่กว่า กปปส.หลายเท่าตัว
จะเอาแบบนั้นหรือเปล่า
ฉะนั้น ขณะนี้ทั่วโลกกำลังต่อสู้กับโควิด-๑๙ และเศรษฐกิจที่ชะงักงัน ประเทศจะเดินหน้าไปได้ต้องแก้ ๒ ปัญหานี้ให้ได้
การล้มล้างสถาบันไม่ช่วยอะไรเลย แต่จะเป็นการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น
และจะเป็นความขัดแย้งที่ยาวนาน
อาจจะชั่วอายุคน.