วันที่ 25 มีนาคม 2564 เวลา 11.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ต้อนรับและหารือ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการ การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขานุการคณะกรรมาธิการ การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ
โดยคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา เข้าพบเพื่อปรึกษาหารือแลกเปลี่ยน ข้อคิดเห็น ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักปลัดกระทรวงพาณิชย์
จากนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำของวุฒิสภา ได้นำคณะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกระทรวงพาณิชย์ การช่วยส่งเสริมสินค้าฮาลาลและช่วยกันแก้ไขปัญหายางพาราในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ประเด็นที่มีความเห็นร่วมกัน
1.ยางพาราเห็นตรงกันว่าควรช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนให้ราคายางในประเทศดีขึ้นจากการดำเนินการของรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯที่ผ่านมาราคายางสูงกว่ารายได้ที่ประกันแล้ว สำหรับราคายาง วันที่ 24 มีนาคม 2564 ยางแผ่นดิบตลาดกลางสงขลา กิโลกรัมละ 61.90 บาท ยางแผ่นรมควันชั้น 3 กิโลกรัมละ 64.79 บาท ราคาน้ำยางสด กิโลกรัมละ 64 บาท ยางก้อนถ้วย กิโลกรัมละ 24.25 บาท
ภาพรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สูงกว่ารายได้ที่ประกันตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางทุกตัว
2.ช่วยกันส่งเสริมตลาดถุงมือยางธรรมชาติ ส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ ขณะนี้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่สามารถทำถุงมือยางธรรมชาติแบบโปรตีนต่ำ กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกได้แล้ว และได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังบริษัทถุงมือยางหลายราย ตรงกับยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” หวังว่าภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์กับคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาจะช่วยทำการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับทราบในตลาดโลกต่อไป
3.เห็นร่วมกันในการส่งเสริมการส่งออกไม้ยางพารา ในตลาดต่างประเทศมากขึ้น รัฐบาลมีหลายโครงการที่ส่งเสริม
1)รัฐบาลจัดวงเงิน 20,000 ล้านบาท ให้ผู้ที่ต้องการส่งออกไม้ยางพาราไปยังต่างประเทศช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3
2)กระทรวงพาณิชย์เคยนำสมาคมไม้ยางไทยไปเปิดตลาดที่อินเดียแล้ว 2 ครั้ง จะเป็นตลาดสำคัญในอนาคต รัฐบาลอินเดียต้องการส่งเสริมให้คนอินเดีย 1,000 กว่าล้านคน มีบ้านจำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์และไม้ยางจะไปแทนไม้สักที่มีอยู่ได้เป็นอย่างดี
3)กระทรวงพาณิชย์ได้เจรจากับรัฐเตลังกานาและกำลังจะทำ mini FTA คาดว่าจะสามารถลงนามได้เร็วนี้ จะช่วยส่งเสริมให้มีตลาดไม้ยางพาราไทย และได้มีการแนะนำเอายางไปผลิตเป็นแผ่นมุงหลังคา ตนรับไปที่จะช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชน เช่นบริษัทเอสซีจี เพื่อเพิ่มการใช้ยางในประเทศส่งเสริมการใช้ยางพาราในหลังคาบ้าน
4.ส่งเสริมสินค้าฮาลาล กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายชัดเจนส่งเสริมอาหารไทยอาหารโลกทำให้อาหารไทยเป็นอาหารของโลก ปัจจุบันอาหารไทยอยู่ในลำดับที่ 1 ใน 10 และเชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถผงาดมาเป็น 1 ใน 3 ของโลกได้ อาหารที่เป็นเป้าหมายมี 3 ตัว คืออาหารมังสวิรัติ อาหารแนวใหม่ และอาหารฮาลาล ในการจัดงานเทศกาลอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คืองาน THAIFEX จะให้ความสำคัญต่อไปในอนาคต และประเด็นที่สองจะส่งเสริมเอสเอ็มอีที่ขายสินค้าฮาลาลได้มีพื้นที่ร่วมส่งเสริมการขายของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเรามีนโยบายเอสเอ็มอีทุกประเภทต้องได้รับโอกาสในการไปแสดงในงานสินค้าระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป รวมทั้งจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
“ประเด็นที่สามวันนี้หารือร่วมกันกับเรื่องการขึ้นทะเบียนจดทะเบียนฮาลาลถือเป็นตราที่มีความสำคัญรับรองคุณภาพกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามหลักศาสนา ได้รับแจ้งว่าขณะนี้การขอตราฮาลาลเปิดระบบออนไลน์สามารถขึ้นทะเบียนได้แล้ว” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว