24 มีนาคม 2564 เวลา 11.30 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ว่า การประชุมของกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มุ่งจัดทำยุทธศาสตร์แผนแม่บทต่าง ๆ ในการบริหารงาน ซึ่งได้รับรายงานว่า มีความก้าวหน้าในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของไทย เป็นที่น่าภูมิใจว่า ไทยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานเรื่องของดิจิทัล เรื่อง 5 จี มีโอกาสมากมาย ซึ่งเราอยู่ในอันดับ 1 ในขณะนี้
จากข้อมูลหลายๆข้อมูลต่างๆที่ผ่านมา ทั้งการใช้ประโยชน์ด้านดิจิตอลให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร มากกว่าการใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเดียว การเข้าถึงการใช้ประโยชน์ทางด้านสุขภาพ การเรียนรู้ต่างๆ ทั้งหมด การประกอบการธุรกิจ ความมั่นคงต่างๆ ซึ่งต้องตอบสนองวิธีการต่างๆเหล่านี้ด้วย คนทุกช่วงวัยการศึกษา สุขภาพ การประกอบการค้าการลงทุน และเป็นไปตาม พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก และ พ.ร.บ.การให้ข้อมูลข่าวสาร กับประชาชน ภายใต้การบูรณาการหน่วยงานภาครัฐบนฐานข้อมูลเดียวกัน และเดินหน้าไปสู่การใช้ระบบ Cloud ขนาดใหญ่ของเราซึ่งจะมี 2 ระดับด้วยกัน คือ ระดับรัฐบาลที่เปิดเผย และระดับชั้นความลับ จะอยู่ที่หน่วยงาน เพื่อลดภาระในเรื่องของค่าใช้จ่ายลงไป ซึ่งเดิมมีการแยกกันอยู่พอสมควร
นายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานของรัฐบาลมีหลายระดับด้วยกัน โดยมีรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบาย แนวทาง แผนปฏิบัติการตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ กรอบการปฏิรูปการศึกษา กรอบการปฏิรูป พ.ร.บ.การศึกษา หากใครจะมาทำหน้าที่ต้องปฏิบัติตามนี้ ซึ่งตนให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา ทั้งการศึกษานอกระบบ การศึกษาในระบบ และการศึกษากศน.
การใช้จ่ายงบประมาณส่งเสริมโรงเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น การนำระบบดิจิตอลในใช้การศึกษา เพื่อให้เด็กนักเรียนมีโอกาส การกระจายการปฏิรูปครูให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติมีอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรียังมุ่งเน้นการขับเคลื่อนกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ เพราะทั้ง 2 กระทรวงมีบทบาทสำคัญด้านการสร้างโอกาส สร้างรายได้ สร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมารัฐบาลได้เดินหน้าเจรจา FTA อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศในเครือ EU ที่ปัจจุบันได้เข้าร่วมเจรจาและสนับสนุนประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีเผยว่าการทำงานอาจมีอุปสรรค มีความติดขัด เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จึงต้องมีอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างกัน เป็นกลไกบริหารประเทศไทย สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย