นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่าได้สั่งการให้สมอ. เร่งรัดดำเนินการประกาศใช้มาตรฐานโควิด-19 หรือมาตรฐานมตช. 45005-2564 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยข้อกำหนดทั่วไปสำหรับการทำงานอย่างปลอดภัยระหว่างการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
หลังบอร์ดให้ความเห็นชอบพร้อมกับมาตรฐานระบบการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจและมาตรฐานในกลุ่มบีซีจี (BCG – Bio Circular Green Economy) ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมนำไปใช้ในการจัดระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าวเพื่อควบคุมป้องกันและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้โรงงานทั่วประเทศนำไปใช้เพื่อให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19
“มาตรฐานโดวิด-19 จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และทุกภาคส่วนมีความเชื่อมั่นในสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งในด้านการบริหารจัดการ และคุณภาพของสินค้าว่าจะมีความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายผลักดันให้โรงงานทั่วประเทศซึ่งมีมากกว่าหมื่นราย นำมาตรฐานนี้ไปใช้ เพื่อร่วมกันบริหารจัดการให้เชื้อไวรัสโควิด-19 หมดไปจากประเทศไทย” นายสุริยะฯ กล่าว
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรฐานโควิด-19 หรือมาตรฐาน มตช. 45005 – 2564 เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก สามารถนำไปใช้จัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยภายในโรงงาน และสถานประกอบการทั่วไป เพื่อการทำงานอย่างปลอดภัยในระหว่างการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีแนวทางการปฏิบัติหลักๆ ดังนี้
1) สถานประกอบการที่จะนำมาตรฐานไปใช้ต้องมีการวางแผนการประเมินความเสี่ยง 2) มีความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการเพื่อรับมือกับความเสี่ยง 3) ผู้บริหารองค์กรต้องมีมาตรการเตรียมการป้องกันกรณีมีผู้ติดเชื้อเข้ามาภายในองค์กร 4) มีมาตรการจำกัดจำนวนคนในพื้นที่
5) มีการบริหารจัดการบุคลากร การกำหนดสถานที่การทำงาน และการสื่อสาร 6) มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้เพียงพอ ทั้งนี้ มาตรฐานดังกล่าวเป็นข้อแนะนำให้สถานประกอบการนำไปปรับใช้ สามารถใช้ได้กับองค์กรทุกขนาดและทุกประเภท
“การประชุมบอร์ดคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานด้านการตรวจสอบและรับรองในครั้งนี้ นอกจากจะเห็นชอบมาตรฐานโควิด-19 แล้ว ยังเห็นชอบมาตรฐานระบบการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ มตช.22313-2564 ซึ่งเป็นระบบการจัดการที่ใช้ในองค์กรเพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก เช่น อุบัติภัยทางธรรมชาติ การก่อวินาศกรรม การก่อจลาจล การเกิดโรคระบาด หรือการเกิดวิกฤตทางสถาบันการเงิน
ให้สามารถฟื้นฟูองค์กรกลับสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็วรวมทั้งดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีการนำมาตรฐานนี้มาใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับบีซีจี โมเดล (BCG – Bio Circular Green) ตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย รวม 10 มาตรฐาน ได้แก่มาตรฐานก๊าซเรือนกระจก รีไซเคิล ขวดพลาสติกสี และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น” เลขาธิการ สมอ. กล่าวทิ้งท้าย