ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ผมฝากบอกเขาด้วยว่า ถึงเขาจะขังผมได้ แต่เขาไม่อาจขังความจริงได้”
เนี่ย..เป็นประโยคที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แหกปากตะโกนที่หน้าศาลเมื่อวันวาน ก็อยากฝากบอกกลับถึงเขาเหมือนกันว่า..
ใช่เลย-ถูกแล้วล่ะที่ “เขาไม่อาจขังความจริงได้” ส่วนเพนกวินไม่ใช่ความจริงไง มีแต่ความโกหก บิดเบือน เขาจึงขังได้ และคงจะขังต่อไปๆ เรื่อยๆ อย่างงี้แหละ!
อีกประโยค “สันดานคน ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง” ..นี่คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว จะหมายถึงใครก็ไม่อาจทราบได้
แต่ที่ทราบ ข้อความนี้เขียนขึ้นเพื่อจะอธิบายความ กรณีคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้พ้นคุกออกมา หลังเข้าไปอยู่ในเรือนจำ 1 ปีกับ 2 เดือน จากคดีโกง!
ผมนั้นจะรวมอยู่ในประเภท “คนหัวขวดบางคน” ตามที่คุณชูวิทย์บอก “ขอเรียน” ด้วยหรือไม่ก็ช่าง แต่ให้รู้สึกขอบคุณที่ทำให้ได้รู้เรื่องกฎเกณฑ์ของกรมราชฑัณท์ว่า..
“การพักโทษ ในแต่ละเดือน นักโทษที่เข้าเกณฑ์พักโทษ ต้องเป็นนักโทษที่กระทำความผิดครั้งแรก ไม่ใช่ทำผิดซ้ำซาก และไม่เป็นคดีอุกฉกรรจ์
อย่างคดีฆ่า ความผิดเกี่ยวกับเพศ ข่มขืน รุมโทรม หรือฉ้อโกงประชาชน อย่างนี้พักโทษไม่ได้”
อ๋อ..ครับ แล้วโกงเงินอสมท.เป็นร้อยล้าน จัดอยู่ประเภทไหนล่ะ ไม่ได้จะกวน..คุณชูวิทย์ แต่อยากรู้จริงๆ!
และที่ว่า.. “คนทำผิดแล้วไม่หนี เดินก้มหน้าเข้าคุก” นั้น ขอถามคุณชูวิทย์..การสู้ (คดี) แบบหัวชนฝา ถึง 3 ศาล นั่นแสดงว่าตัวเองไม่ยอมรับผิดใช่ไหม?
คุณสรยุทธไม่ได้เดินก้มหน้าเข้าคุก เพราะสำนึกได้-ยอมรับผิด หากแต่สู้คดีไม่ได้เพราะหลักฐาน (โกง) มัดตัวแน่นมิใช่รึ?
ส่วนที่คุณชูวิทย์ถาม.. “คนอย่างนี้ ควรให้เขาออกมาทำประโยชน์ดีกว่าไหม?..ไม่รู้สิ ตอบยากนะ เพราะถ้าจะเอาออกมาทำประโยชน์ ในคุกก็มีให้ทำเยอะแยะอยู่นา?
อีกอย่าง ที่คุณชูวิทย์บอก.. “หากเทียบกับคนไร้ประโยชน์ที่เอาแต่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นแล้ว เขายังทำประโยชน์ให้สังคมมากกว่าแยะ” นั่นน่ะ..
พฤติกรรมคนโกงที่ศาลตัดสินจำคุก คุณชูวิทย์ยัง (กล้า) จะยกยอ และเอาไปเทียบกับคนบริสุทธิ์ที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาอยู่อีกหรือ?
ที่สำคัญ คุณชูวิทย์เอาอะไรเป็นตัววัดว่าเขา-คนที่วิพากษ์วิจารณ์เป็น “คนไร้ประโยชน์” ล่ะ..หือ?
ทำไมไม่คิด ว่าที่เขาพูด-วิจารณ์ เขาต้องการคำอธิบายเพื่อให้เกิดความกระจ่างในความสงสัย ซึ่งก็ไม่ใช่จะมี (คนไร้ประโยชน์) แค่คนสองคน หากแต่ครึ่งค่อนสังคมไทย..
ที่ก็อยากรู้ โดยไม่ได้มีใจจงเกลียดจงชัง หรืออิจฉาคุณสรยุทธแต่อย่างใด!
แต่ก็จริง.. “สังคมไทยมักมีคนทำนองนี้ คืออยากดัง แต่ไม่รู้จะทำให้ตัวเองดังยังไง เลยต้องเกาะกระแสวิพากษ์วิจารณ์คนดังไปเรื่อย เข้าทำนอง “อยากดัง แต่หาตัวเองไม่เจอ”..
คุณชูวิทย์เอง ก็เกาะกระแสได้ทุกเรื่องเหมือนกันนะ?