นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าที่ประชุม ครม. อนุมัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2564 ในส่วนของงบกลาง รายการใช้จ่ายเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เรื่องจัดหาวัคซีนโควิดเพิ่มเติม 35 ล้านโดส กว่า 6,387 ล้านบาท จากแอสตราเซเนก้า
แบ่งเป็น 5,600 ล้านบาท สำหรับการจัดหาวัคซีน ส่วนที่เหลือกว่า 700 ล้านบาท เป็นการบริหารจัดการวัคซีน และการเตรียมความพร้อม ในระดับพื้นที่ คาดว่าจะสามารถดำเนินการจัดหาวัคซีนได้พร้อมๆ กับวัคซีน จำนวน 26 ล้านโดส และวัคซีนของชิโนแวค 2 ล้านโดส เท่ากับว่าในปีนี้ ไทยจะมีวัคซีน 63 ล้านโดส ครอบคลุมร้อยละ 60 ของประชากรไทย
ทั้งนี้ ยังมีผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นที่ทยอยเข้าพูดคุย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลจัดหาวัคซีนต่อเนื่องไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้
ที่ประชุม ครม. รับทราบว่า ในอนาคตอาจจะให้กระทรวงการต่างประเทศ ออกวัคซีนพาสปอร์ต เพื่อเตรียมให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถเดินทางได้ โดยใช้วัคซีนพาสปอร์ตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลกและประเทศไทยโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข แจ้งต่อที่ประชุมว่า จะมีการพิจารณาให้ใบรับรอง (certificate) กับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว โดยกรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางระหว่างประเทศ