นายกรัฐมนตรียืนยันไทยสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยเมียนมาร์ ตามหลักการ ASEAN พร้อมใช้แอปพลิเคชัน เพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์รัฐบาลให้เข้าถึงกลุ่มคนเพิ่มขึ้น

10 ก.พ. 64 เวลา 11.30 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 1/2564 โดยที่ประชุมได้พิจารณาหารือร่วมกับภาคเอกชน อาทิ TDRI สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงการปรับหลักเกณฑ์และโครงสร้างการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมปรับกฎหมาย กฎกติกา เพื่อส่งเสริมด้านดิจิทัล ให้ประเทศไทยได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อเกิดการลงทุนระหว่างประเทศ

 ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่เสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นเป็นการตัดสินใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการออกคำสั่ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าประเทศไทยสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศเมียนมาร์ตามหลักการของ ASEAN ที่สำคัญคือ การรักษาความสัมพันธ์อันดีงามของทั้งสองประเทศและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าชายแดนด้วย

นายกรัฐมนตรียังชี้แจงถึงการชะลอเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหารือเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของการลงทุนสัมปทาน ซึ่งรัฐบาลยึดผลประโยชน์ของประชาชนมาก่อนเสมอ  ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเผยถึงการเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์นโยบายรัฐบาล และพูดคุยกับประชาชน ให้สามารถเข้าถึงประชาชนในทุกกลุ่มวัยมากขึ้น เช่น แอปพลิเคชัน TikTok หรือ PM PODCAST เพื่อสื่อสารวิสัยทัศน์การทำงานของรัฐบาล พร้อมรับฟังปัญหาและประเด็นอื่นๆ จากประชาชนด้วย

Written By
More from pp
“ธนกร” ปลื้มฝีมือบริหารของรัฐบาล และนโยบาย “บิ๊กตู่” 9 เดือนแรก นทท. ต่างชาติเดินทางมาไทยทะลุ 5.01 ล้านคน ขณะที่ ททท.มั่นใจ สิ้นปีนี้ได้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9-10 ล้านคน
“ธนกร” ปลื้มฝีมือบริหารของรัฐบาล และนโยบาย “บิ๊กตู่” 9 เดือนแรก นทท. ต่างชาติเดินทางมาไทยทะลุ 5.01 ล้านคน ขณะที่ ททท.มั่นใจ...
Read More
0 replies on “นายกรัฐมนตรียืนยันไทยสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยเมียนมาร์ ตามหลักการ ASEAN พร้อมใช้แอปพลิเคชัน เพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์รัฐบาลให้เข้าถึงกลุ่มคนเพิ่มขึ้น”