นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคกล่าววันนี้ (7ก.พ.) ว่า เลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครศรีธรรมราชเขต 3 จะเป็นการพิสูจน์ 3 ศรัทธาของประชาชน
คือ ศรัทธาต่อรัฐบาล ศรัทธาต่อพรรค และศรัทธาต่อผู้สมัคร
ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะยังสามารถรักษาเสียงส.ส.ได้เช่นเดิม เมื่อพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลในช่วงวิกฤตการณ์โควิด19 และวิเคราะห์จากผลการเลือกตั้งส.ส.ของนครศรีธรรมราชเขต 3
ผู้สมัครในสังกัดรัฐบาลมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 1 ถึง 3 โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.คือ นายเทพไท เสนพงศ์
สำหรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ จะยึดกติกาการเลือกตั้งบนแนวทางสุจริตยุติธรรม มุ่งนำเสนอวิสัยทัศน์ นโยบาย และผลงานทั้งระดับชาติและจังหวัด ในยุคทำได้ไวทำได้จริง ภายใต้การนำของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ ตนได้นัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค ในวันพฤหัสบดีที่
11 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.ครั้งนี้
โดยเน้นการเข้าถึงประชาชนทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ๆและผลงานพรรคจากอดีต ปัจจุบันและอนาคตเช่น
1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเช่นโครงข่ายถนนสี่เลน, รถไฟ 4 รางทางคู่ทั่วประเทศ การส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาค การพัฒนาสนามบินและท่าเรือในภูมิภาค การขยายโครงข่ายไอซีที. โครงการพัฒนาเซาเทิร์นซีบอร์ดสู่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor) และระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล
2.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ยกระดัยคุณภาพชีวิตและกระจายโอกาสลดเหลื่อมล้ำเช่นโครงการมหาวิทยาลัยในภูมิภาคโครงการนมโรงเรียน, โครงการอาหารกลางวันนักเรียน,กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ, โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ,เริ่มต้นค่าตอบแทน อสม.เดือนละ 600 บาท, ยกฐานะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) การพัฒนาฝีมือแรงงานและคุณวุฒิวิชาชีพ การส่งเสริมการออม การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ(LGBT)
3.การพัฒนาทัองถิ่นชนบทและพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากโดยนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จากสุขาภิบาลเป็นเทศบาลและเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาขิกสภาโดยตรงจากประชาชน
4.การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจBCG เศรษฐกิจบนฐานพลังงานหมุนเวียนเช่นโครงการเอทานอล
5.การลดความเหลื่อมล้ำโดยกระจายการถือครองที่ดินให้เกษตรกรและชุมชนโดยมาตรการโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน และการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร
6.การปฏิรูปภาคเกษตรด้วยโครงการประกันรายได้เกษตรกร .การจัดตั้งและขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม77จังหวัดเพื่ออัพเกรดภาคเกษตรด้วยวิทยาการและเทคโนโลยี
โครงการประมงชุมชนและชลประทานชุมชนและการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรายย่อยโดยกลไกกองทุนกฟก.
ฯลฯ
“สำหรับวิสัยทัศน์ จังหวัดนครศรีธรรมราช คือนครแห่งอารยธรรม น่าอยู่ น่าเที่ยว การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยืนซึ่งได้พัฒนาต่อเนื่องมีศักยภาพพร้อมทุกด้านที่จะต่อยอดให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาของภาคใต้ตอนกลาง ทั้งด้านการศึกษาการค้าการท่องเที่ยวโลจิสติกส์และเกษตรอุตสาหกรรม (Agroindustry) เช่นโครงการนิคมอุตสาหกรรมยาง(Rubber Valley)
โครงการศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีเกษตรอาหารและผลไม้ โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง
อนาคตของนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งเดียวกับอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด และเป็นอีกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์จะขอโอกาสในการทำงานเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันกับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชด้วยวิสัยทัศน์และการทำงานแนวใหม่โดยคนรุ่นใหม่คือนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด