วันที่ 29 มกราคม 2564 เวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศทุกประเทศ และสำนักงานพาณิชย์ทุกจังหวัดซึ่งเป็นทีมเซลล์แมนทั้งหมด แถลงข่าวเปิดตัว MOC Online One Stop Service บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวด้วยระบบออนไลน์ ของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์และลดขั้นตอนการรับบริการของประชาชน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ปีนี้มีแผนงานสำคัญ 1 ใน 14 แผนคือการเปิดให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวด้วยระบบออนไลน์ของกระทรวงพาณิชย์ “MOC Online One Stop Service” เกิดจากการรวบรวมบริการออนไลน์บนเว็บไซต์แอพพลิเคชั่นต่างๆของกระทรวงพาณิชย์รวม 9 หน่วยงาน นำมาไว้ที่จุดเดียว ผ่าน www.moc.go.th การให้บริการแบบ One Stop Service ให้บริการเบ็ดเสร็จจุดเดียวด้วยระบบออนไลน์ ทั้งสิ้น 85 บริการ 4 ด้าน 1.จดทะเบียนธุรกิจ 22 บริการ 2.ทรัพย์สินทางปัญญา 11 บริการ 3.การค้าระหว่างประเทศ 28 บริการ 4.การค้าในประเทศ 24 บริการรวม 85 บริการ โดยผ่านการสำรวจจากทุกภาคส่วนทั้งผู้รับบริการ เกษตรกร ภาคการผลิต การส่งออก ภาคบริการและภาคธุรกิจทั่วไป
รูปแบบของการให้บริการในหลายบริการนี้ ผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องไปที่กระทรวงพาณิชย์หรือไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแต่มาขอรับบริการผ่านระบบได้จบในจุดเดียว ทั้งเรื่องทะเบียนธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญา การขอใบอนุญาตใบขนสินค้าเกษตร หรือบริการอื่นๆในเวลาที่รวดเร็ว และที่สำคัญ 85 บริการนี้จะรวมการให้บริการเรื่องสถิติข้อมูลข่าวสารที่สำคัญนอกเหนือจากตัวเลขจะมีการให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่ตนเน้นเป็นพิเศษเพราะนำไปใช้ประกอบในการซื้อขายสินค้าและบริการต่างๆทั้งภาคการเกษตรและภาคอื่นที่เกี่ยวข้อง ช่วยวิเคราะห์ในภาคการลงทุนภาคธุรกิจได้ด้วยซึ่งเป็นหัวใจสำคัญและจะมีการให้บริการผ่านการแชท (Chat) โดยมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตอบคำถามและต่อไปจะให้บริการได้ 24 ชม.ให้ผู้รับบริการสะดวกที่สุด
1.เพื่อสะท้อนการมุ่งมั่นตั้งใจของการให้บริการกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการพัฒนาการให้บริการให้ง่ายต่อการรับบริการและสะดวกรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
2.เพื่อให้เห็นผลสัมฤทธิ์ของ 1 ใน 14 แผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่แถลงไว้ว่าจะเป็นผลงานของปี 2564 ที่ได้ผลสัมฤทธิ์ตั้งแต่ต้นปี ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม
3.เพื่อสนองนโยบาย e-Government ของรัฐบาลในยุค New Normal ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องการเห็นทุกกระทรวงพัฒนาไปสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยในการงานราชการเพื่อให้บริการพี่น้องประชาชน
4.มุ่งหวังในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลกซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความยากง่ายในการทำธุรกิจของไทยตัวหนึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ในปี 2563 อันดับของประเทศไทยสูงขึ้นถึง 6 อันดับ ทำให้ประเทศไทยเข้ามาสู่ลำดับที่ 21 ของโลก
หวังว่าจากนี้ไปภายใต้การร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์ในการให้บริการประชาชนให้เกิดความง่ายในการทำธุรกิจการลงทุนในประเทศ อันดับขีดความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้นต่อไป และเราจะไม่หยุดเท่านี้เราจะเร่งพัฒนาเพิ่มเติมอีกให้เร็วขึ้นกว่านี้ สะดวกกว่านี้ ง่ายกว่านี้และเพิ่มการให้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวด้วยระบบออนไลน์ให้มีการบริการมากขึ้นกว่า 85 บริการ