เปลว สีเงิน
ขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ ลูกกล้วยฆ่าต้นกล้วย
ตอนนี้….
“เพื่อไทย-ระบอบทักษิณ” กำลังเป็นอย่างนั้น!
ไม่ต้องโทษใคร เพราะนี่คือ “วงเวียนกรรม”
คนนอกไม่ต้องทำอะไร วันนี้ คนในเพื่อไทยเขายำกันเอง
ใครยำใคร เรื่องเล็ก
แต่ “จตุพร พรหมพันธุ์” ยำกับ “ทักษิณ ชินวัตร” นี่เรื่องใหญ่ ในเมื่อจตุพร คือ ขุนศึกกู้บัลลังก์ตระกูลชิน เมื่อชนกับทักษิณจ้าวบัลลังก์เอง
ต้องบอกว่า ศึกนี้ สะท้านยุทธภพการบ้าน-การเมือง รวมทั้งเรื่อง “แดง+ส้ม ล้มเจ้า” ชนิดที่จะไม่สนใจไม่ได้แล้ว
“ศึกนี้หนักนัก”…….
แต่หนักนี้ จตุพรและทักษิณไม่ถึง “ตกตายไปตามกัน” และไม่ถึงขั้น “ผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ”
แค่ๆ จะกลับมา “เป็นนาย-เป็นทาส” ด้วยจิตพิศวาทเหมือนเดิม คงไม่มี
ส่วนที่จะแตกหัก ไหลลงไปในทางเสื่อม รอสูญสลาย
คือ “พรรคเพื่อไทย”!
เพื่อไทยตาย = ระบอบทักษิณตาย นี่คือ ความเป็นไปไม่ได้ ที่กำลัง “เป็นไปได้”
“ขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่-คนในพรรคหักเอง” มันเป็นสัจจกรรม!
พรรคเพื่อไทยวันนี้ เป็นมะเร็งระยะ ๓ ก็ต้องบอกว่า หมั่นสวดมนต์เข้าไว้ ก่อนพลัดพราก-จาก-ลา สิ้นวาสนาต่อกันไป
กระทอกแรก “คุณหญิงสุดารัตน์” ลาขาดจากพรรค คนรู้ข่าวหน้าจอ บอกงั้นๆ ไม่เห็นเป็นไร
แต่คนรู้จริงหลังจอ ตบอกผาง ระดับเจ๊หน่อยลาออก แสดงว่า อวัยวะภายในเพื่อไทยแหลกเหลวชนิด “หนักหนา-สาหัส” ยากผนึกเป็นพรรคใหญ่คืนเดิม
ขนาดต้องไปขุดเอา “ป๋าเหนาะ” มาเป็นอะไหล่ แสดงว่า “ก้นถัง” เพื่อไทย หมดแล้วจริงๆ
ไม้ใหญ่ “ยืนต้นตาย” คือเพื่อไทยที่จะเป็น!
ทักษิณกับพจมาน “จันทร์ส่องหล้า” นั่นคือครอบครัว
แต่ทักษิณกับสุดารัตน์ “เพื่อไทย” นั่นคือพรรคการเมือง
ทักษิณเป็นแกนพรรค แต่สุดารัตน์เป็นแก่นการเมืองของพรรค ในความเป็นกำเนิดการเมืองเต็มตัว-เต็มระบบของเพื่อไทย
ใครอยากรู้เบื้องหลัง ถ้าพบ “พลตรีจำลอง ศรีเมือง” ถามท่านดู อาจได้ฟังอะไรดีๆ เป็นธรรมนิยาย ฉบับในถ้ำมืด
วันนี้ เพื่อไทยยังไม่สะเทือน แต่ถ้าเลือกตั้งตอนไหน จะรู้สึกได้ ว่าที่นั่งหน้าแป้นเป็นผู้อาวุโสของพรรคตอนนี้ ใครบ้าง มีบารมีใช้หาคะแนนพาลูกน้องเข้าสภาได้
ยกตูดมาตั้งเป็นเจว็ดแทบทั้งนั้น!
ก่อนๆ พะยี่ห้อ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ที่เสาไฟฟ้า คนก็เลือกเสาไฟฟ้าเป็นสส.โดยเฉพาะทางเหนือและอีสาน
แต่วันนี้ เนื้องานประยุทธ์เป็นที่ประจักษ์ ยึดครองใจคนเหนือ-ใต้-อีสาน-ออก-ตก-กทม.เกิดเป็นศรัทธาบารมี
เสาไฟฟ้าเพื่อไทย จากนี้ จะมีก็แต่หมายกขาเยี่ยวรดเท่านั้น
เหนือ อาจจะยังเนื้อชิน………
แต่อีสาน โขง ชี มูล จะไม่ไหลลงเหมือนเดิม!
เลือกตั้ง พรรคไหนยึดอีสานได้ พรรคนั้นมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล ๙๐% เพราะอีสานภาคเดียว มีสส.มากกว่า ๑ ใน ๔ ของจำนวน ๕๐๐
ในพรรคก็ยอมรับความจริงข้อหนึ่งที่ว่า คนอื่นไปช่วยหาเสียงตามพื้นที่ ได้เสียง แต่ไม่ได้คะแนน
หญิงหน่อยไป ได้ทั้งเสียงและคะแนน และให้สังเกต จะกี่ร้อยโพล-พันโพล สำรวจทีไร สุดารัตน์ไม่เคยหลุดอันดับ ๑ ใน ๕ ของ “ว่าที่นายกฯ” ทุกโผ
แสดงว่า สุดารัตน์ เป็นดาวฤกษ์ มีแสงในตัวพอสมควร
ในอีสาน สุดารัตน์ เป็นขวัญใจพ่อยก-แม่ยกมาก ไปช่วยใครหาเสียง จะได้ทั้งเสียงทั้งคะแนน
เพราะอย่างนี้ ตอนนี้ พรรคยังไม่สะเทือน แต่เลือกตั้งเมื่อไหร่ สะเทือนแน่!
และผมเชื่อ สุดารัตน์ เธอแตกลายงา เกินกว่าจะไปเป็นหางอยู่ในพรรคไหนๆ ได้แล้ว ดังนั้น ไม่ต้องเดา บอกได้เลย
เธอ “ตั้งพรรค” แน่
เมื่อถึงวันนั้น สส.อีสานและสส.กทม.ของเพื่อไทย “จำนวนหนึ่ง” ต้องไปร่วมก่อร่างสร้างพรรคกับสุดารัตน์แน่
แน่ถึง ๓ แน่ อย่างนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ปกติ ใครจะออกจากพรรคไป ทักษิณจะร้องเพลงไล่ส่ง
แต่กับสุดารัตน์ นอกจากเป็นคนรู้ใจและรู้ไส้กันมา ยังรู้น้ำหนักในพรรค, ในสนามเลือกตั้งว่า ขาดเจ๊เหมือนขาดใจ แต่ขาดสุดารัตน์ เหมือนตลิ่งพัง
สส.ส่วนหนึ่งจะไหลออก!
สส.อีสาน จะเป็นเหมือนผึ้ง โบยบินตามราชินีผึ้งไปสร้างรังใหม่ เค้กส้มแดงในอีสานที่เพื่อไทยเคยครอง คราวนี้จะมีตัวหารแบ่งเพิ่ม
ไม่เพียงพลังประชารัฐ ยังจะมีก้าวไกล ภูมิใจไทย พรรคกล้าของกรณ์ และพรรคใหม่ของสุดารัตน์
ดังนั้น ทักษิณจึงออกอาการ ถึงขั้นโพสต์ข้อความถึงไพร่ราบพลเลวในพรรค ว่า
“ช่วงนี้ได้ข่าวมีหลายคนที่เดินออกจากพรรคเพื่อไทย หลายคนออกมาโจมตีบ้านเดิมของตัวเอง
……..ดังนั้น ผมไม่เสียใจที่วันนี้จะมีคนเดินจากไปเพื่อไปมีเส้นทางใหม่ เพราะผมคงไปบังคับหัวใจใครให้อยู่กับพรรคตลอดไปไม่ได้
ผมจึงขอขอบคุณคนที่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย พรรคที่ผมเคยวางรากฐานไว้…ฯลฯ
แสดงว่า ไม่ใช่ศึกเดียวในอกทักษิณเวลานี้ จากข้อความมีถึง ๒ ศึก คือนอกจากศึกรักแล้ว ยังมีแค้นเป็นศึกสองเข้าระคน
“…….หลายคนออกมาโจมตีบ้านเดิมของตัวเอง”
จะหมายถึงใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “ตู่-จตุพร”
ใครจะไปคิด ทักษิณ “คนเลี้ยงเสือ” ต้องสู้กับเสือที่ตัวเองเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ
เลือกตั้งนายกฯ อบจ.เชียงใหม่ คนเพื่อไทยลงแข่งกันเอง ๒ คน นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ กับนายนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ก๊อง ผู้ดังจากเรื่องพยานคดีบอส-กระทิงแดง
ทักษิณสนับสนุนนายพิชัย เพื่อไทยจึงส่งนายพิชัยลงสมัครในนามพรรค
นายบุญเลิศ เลือดเนื้อเดิมของพรรค ซึ่งเคยเป็นนายกฯ อบจ.มาก่อน จึงต้องลงสมัครในนาม “กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม”
จตุพรไปเป็นพี่เลี้ยงหาเสียงให้นายบุญเลิศ
ในขณะที่ทักษิณ-เพื่อไทยเป็นพี่เลี้ยงให้นายก๊อง จึงเกิดศึกเดิมพันขึ้นว่า
มวยจตุพรจะน็อคมวยเพื่อไทย หรือมวยเพื่อไทยจะน็อคมวยจตุพร?
“บุญเลิศ ศิษย์ตู่” กับ “พิชัย ศิษย์ทักษิณ” ที่สนามเชียงใหม่ จึงกลายเป็น “มวยคู่เอก” ในศึกชิงตำแหน่งนายกฯอบจ.ของทั้ง ๗๖ จังหวัด!
“แพ้ไม่ได้” ทั้งคู่ แต่ ๒๐ ธันวา.นี้ ต้องมีคนหนึ่งแพ้-คนหนึ่งชนะ
บุญเลิศชนะ เท่ากับจตุพรชนะ พิชัยชนะ เท่ากับทักษิณ-เจ๊แดงชนะ
แต่ทั้งหมด ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะหรือแพ้ ผู้แพ้ยับเยินตลอดกาล คือ “พรรคเพื่อไทย”!
ฟังบางช่วง-บางตอนจตุพรแหวะอกเพื่อไทย ลากไส้เจ๊ออกมากองที่เชียงใหม่วานซืนดูซี
“……….สาเหตุที่นายบุญเลิศไม่สมัครในนามเพื่อไทย เนื่องจากถูกพรรคทอดทิ้ง แล้วบิดเบือน ยัดข้อหาซ้ำเติมว่า นายบุญเลิศ เป็นพวกเผด็จการ ทั้งที่ไม่จริง
การป้ายสีใส่ร้ายของพรรคเช่นนั้น เพื่อเปิดข้ออ้าง เปิดทางให้อีกคนหนึ่งมาสมัครในนามพรรคเพื่อไทย
……….จึงสะท้อนถึงพรรคเพื่อไทย ไม่มีความยุติธรรม หามาตรฐานทางการเมืองไม่เจอ
………………อีกด้านแล้ว แสดงถึงพรรคเพื่อไทยมีความอยุติธรรมชัดเจน คือในคดีบอส กระทิงแดง ที่เกิดการทำลายระบบยุติธรรมของประเทศครั้งสำคัญ เนื่องจากมีขบวนการปั้นพยานให้การช่วยเหลือ
โดยพยานอยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งคนหนึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์อย่างน่ากังขา แต่อีกคนหนึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้ตาย และยังมีชีวิตอยู่ แต่เปลี่ยนชื่อ ส่วนพฤติกรรมติดตัวเดิมๆ นั้น คงเปลี่ยนได้ยาก
……..ขอเตือนว่า เจ๊ที่ชอบหลบอยู่ในที่มืดทางการเมืองนั้น ทำพังมามากต่อมากแล้ว โดยรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็พังด้วยอิทธิฤทธิ์ของเจ๊คนนี้เช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น อิทธิฤทธิ์ของเจ๊ ยังลุกลามแยกสลายพลัง นปช.จนอ่อนแอ ด้วยการให้นักการเมือง พวกนักเลือกตั้งมาจัดการประสานงานกับมวลชนเสื้อแดง
จนทำให้พลังต่อสู้ทางประชาธิปไตยอ่อนด้อยลง มวลชนไม่เข้าร่วมชุมนุมกับฝ่ายประชาธิปไตยเมื่อปี ๒๕๕๗ จนไร้พลังมาเป็นดุลถ่วง ต่อต้านการยึดอำนาจของฝ่าย คสช.ได้
อีกอย่าง เจ๊มักสั่งการอยู่เบื้องหลัง
โดยในช่วงพรรคเพื่อไทยชนะทางการเมือง กลับผลักไสไล่ส่งให้นักสู้ประชาธิปไตยไปอยู่ปลายนา ไม่เห็นคุณค่า ต้องการให้ออก พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย
พวกผมคัดค้านไม่เห็นด้วย ก็ถูกถอดทิ้งจากรายการทีวีทั้งชุด แล้ว พรบ.สุดซอยก็ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ล้มลง
ถูกฝ่าย กปปส.ใช้เป็นเงื่อนไขปลุกคนมาชุมนุมขับไล่ แล้วดึงทหารยึดอำนาจได้สำเร็จ
……….ผมมาช่วยนายบุญเลิศ ต้องการให้คนเชียงใหม่ได้ตาสว่างกับพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคไม่มีมาตรฐานทางการเมือง ประกาศตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่เป็นประชาธิปไตยของเจ๊สั่งการ
…….รวมทั้งผมย้ำเสมอว่า คดีบอส กระทิงแดง เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ในครั้งนี้ ที่ชาวเชียงใหม่ไปใช้สิทธิ์ในวันที่ ๒๐ ธ.ค.นี้ จะให้พรรคที่อยุติธรรมกับนายบุญเลิศ แล้วไปอุ้มคนที่เจ๊สั่งการหรือไม่…ฯลฯ
เอ้อเฮอ…
ดอกนี้ จี้จุดคี้มึ้งทักษิณ จนต้องร่อนสารจากดูไบถึงคนเชียงใหม่ทันที
“ปี้น้องจาวเจียงใหม่ตี้เคารพฮักทุกท่านครับ วันนี้ผมต้องเขียนจดหมายมาถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่เพื่อขออย่าได้ทิ้งผมนะครับ ผมอาจจะถูกทิ้งโดยนักการเมืองบางคนไปบ้าง….ฯลฯ
…..เลยต้องรีบเขียนจดหมายมาฝากผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่เบอร์ 1 พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง)
ครับ…
คราวเลือกตั้งสส. ทักษิณแตกพรรค
คราวนี้ เลือกตั้งอบจ.ทักษิณพรรคแตก (จริงๆ)!