ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์
เมื่อผมได้เห็นรูปนี้ก็เกิดอาการ “ถวิลหาอดีต” ขึ้นมาในบัดดล สมองก็ flashback เห็นภาพในอดีต เห็นพ่อเห็นแม่เห็นปู่ย่าตาทวดและเห็นบ้านที่เราเกิดและโตปรากฏขึ้นมาในมโนสำนึก
พ่อแม่ผมเอง มีลูกชายเจ็ดคนและลูกสาวเพียงหนึ่งคน ผมยืนยันว่าลูกทั้งแปดคนสามารถที่จะ “หุงข้าว” ได้เหมือนในรูปนี้อย่างคล่องแคล่วและชำนิชำนาญ
ภาพนี้ เรียกว่า “เช็ดข้าว” อันเป็นหนึ่งในหลายหลายขั้นตอนของกระบวนการ หุงข้าว แบบโบราณ
ตอนผมเกิด คนไทยคงยังไม่รู้จักและไม่เคยเห็น “หม้อหุงข้าวไฟฟ้า” ช่วงนั้นในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาก็ยังไม่มีไฟฟ้าด้วยซ้ำ การหุงข้าวหรือทำครัวจึงต้องอาศัยความร้อนจากถ่านหรือไม้ฟืน แต่บ้านผมใช้ถ่านแบบทำเอง
ด้วยสมัยนี้ ผู้คนไม่ชอบอ่านอะไรที่มันยาวๆ สอดคล้องกับที่ตัวผมเองก็ขี้เกียจเขียนขี้เกียจเล่าเรื่องอะไรที่มันยาวยาวด้วยจึงขอลัด ขั้นตอนอื่นๆ ของกระบวนการหุงข้าวในอดีตมาอธิบายเรื่องจากรูปนี้กันดีกว่า
น้ำที่ไหลออกมาจาก หม้อข้าวเป็นน้ำข้นๆ เหนียวๆ เรียกว่า “น้ำข้าว” ส่วนไม้ไผ่หรือบางบ้านก็ใช้ไม้จริง ที่อยู่บนฝาหม้อเรียกว่า “ไม้ขัดหม้อ” ซึ่งผู้ใหญ่ผู้เฒ่าบางบา้น รวมทั้งบ้านผมด้วยก็จะนำไม้นี้ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกเป็น by products เช่นทำเป็นไม้เรียว ตีลูกตีหลานได้เพราะหยิบก็ง่ายจะหาได้ในครัวของทุกข์บ้าน
ส่วนน้ำข้าวนั้น ถ้าเอาเกลือป่นโรยลงไปซักหน่อย จะกินได้อร่อยดีนัก และพวกเราก็กินกันเป็นประจำโดยไม่เคยรู้เลยว่า น้ำข้าว ที่ผู้ใหญ่ให้กินนั้นเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย และจริงๆ แล้วผู้ใหญ่รุ่นนั้นก็ไม่รู้ด้วย แต่ที่พวกเรากินกันก็เพราะสมัยนั้นมันไม่มีอะไรจะให้กิน แต่ถ้าคนไม่กินหรือกินเหลือก็จะเอาน้ำข้าวนี้ไปให้สุนัขกิน สุนัขใต้ถุนบ้าน สมัยนั้นได้กินอาหารที่ทรงคุณค่าเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ อาหารหมาสมัยนี้ที่เป็นเม็ดๆ จะไม่มีสารอาหารที่ว่านั้น
ว่ากันว่าคนสมัยก่อนใช้น้ำข้าวนี้ปราบหมาที่ดุๆ ที่ชอบไปกัด ชาวบ้านให้เจ้าของต้องเดือดร้อนอยู่เสมอๆ เจ้าของจึงมีความจำเป็นที่จะต้องถอนเขี้ยวหรือฟันของสุนัขตัวนั้นออกเสียโดยใช้วิธีง่ายง่าย คือเอาน้ำข้าวที่ กำลังเดือดร้อนร้อนใส่กระถางมาให้หมาตัวนั้นกิน หมาเคยกินน้ำข้าวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันพอเห็นเจ้าของเอากระถางน้ำข้าวมาตั้งให้ก็สวาปามเข้าไปเต็มที่และร้องเอ๋ง ไปเลย คราวนี้ เหงือกก็พอง ไม่ช้า เขี้ยวและฟันก็หลุด ก็คงจะไม่ไปกัดใครอีก นี่เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาซึ่งในความเป็นจริงผมก็ยังไม่เคยเห็นการกระทำโหดๆ เช่นนั้นเลยครับ
ทุกวันนี้ถ้าจะถอนฟัน “น้องหมา” นั้น ต้องเสียเงินเป็นพัน เป็นหมื่น ทีเดียวละครับ
สวัสดี จากพระนครศรีอยุธยา