สมัยนี้ผู้คนนิยม forward รูป ดอกไม้ แปลกๆสวยๆ ส่งไปทาง online เพื่อทักทาย ญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง และคนรัก ผมเองไม่เคยส่งรูปดอกไม้ที่ผมไม่ได้เป็นคนถ่ายเองให้ใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ปีที่แล้วผมได้ซื้อ ต้นเฟิร์นเขา (กวางมูส) กวาง มาเลี้ยงต้นหนึ่งที่บ้านเชียงราย พอถึงวันนี้เป็นชว่ง “ปลายฝน ต้นหนาว” ผมก็เอาเฟิร์นต้นนี้มาตัดใบ แต่งก้าน พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ตกใจว่า ทั้งต้น ทั้งใบ ทั้งก้าน ช่างใหญ่ อวบอ้วนและยาวเสียจริงๆ …อย่ากระนั้นเลยเห็นจะต้อง “ถ่ายรูป” ส่งเข้า Line ไปอวดเพื่อนๆ และญาติๆ เสียหน่อย
ผ่านไป 2 วันหลังจากที่ได้ forward รูปที่ผมเอามาลงวันนี้ ก็มีเรื่อง ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องมาทำให้ผมหงุดหงิดใจ
เรื่องแรกคือ ลูกชายผมไปซื้อต้นไม้ เอามาเสริมแต่งสวนที่ “เวียงเหล็ก Cafe” ก็อยากจะซื้อ ต้นเฟิร์นแบบที่ผมอวดรูปใน Line ปรากฎว่า นอกจาก ราคาจะแพงสูงขึ้นไปกว่าเดิมมากแล้ว ก็ยังหาซื้อไม่ได้อีกต่างหาก ลูกเขาบ่นมา แถมกำชับว่า พ่อเป็นคนที่มีชื่อเสียง พอคนเขาเห็นพ่อมีต้นไม้อย่างในรูปใน Line เขาก็แห่กันไปซื้อ คนขายก็ขึ้นราคาทีหน้าทีหลัง พ่ออย่าทำ
เออ โดนลูก อบรมเสียแล้ว คุณดำรง
เรื่องที่สอง รายที่ 2 เป็นเพื่อนสมัยเรียนกินนอนมาด้วยกัน ที่ฝึกหัดครูอยุธยา เกษียณแล้วมาทำรีสอร์ต ก็ต้องมีไม้ดอกไม้ประดับ ได้เห็นรูปผมกับต้นเฟิร์น ก็โทรศัพท์มาบ่นว่า เคยมีนางเอกหนังคนสวยดาราดัง เธอได้ถ่ายรูปกับดอกไม้ในกระถางต้นไม้พลาสติกใบเล็กๆ ดูจากภาพใน social media ใบหน้าเธองามพริ้งเหลือเกิน ส่วนดอกไม้กับต้นไม้ ก็ดูสวยกว่าดอกอื่นต้นอื่นๆ ไปหมด ส่งผลให้ต้นไม้ชนิดนั้นขายแพงขึ้น ขายดีขึ้น ทั่วประเทศไทย จนขาดตลาดอยู่ระยะหนึ่งเลย
สรุป ประเด็นที่ถือว่าเป็น “สาระ” ซึ่งได้หยิบเอามาเล่ากันในวันนี้ก็คือ โลกของเราในยุคที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า ได้ทำให้ การสื่อสารแบบโซเชียลมีเดียได้เข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตคนอย่างที่เรานึกไม่ถึง และผมก็นึกไม่ถึงว่าการส่งรูปภาพของตัวเองที่ถ่ายกับต้นไม้ไปให้ญาติมิตรสหายได้ดู จะถึงกับส่งผลต่อการตลาด ส่งเสริมการขาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้ขาย และ ผู้ผลิต แต่เกิดผลเสียต่อ “ผู้ซื้อ” ที่ต้องซื้อแพงขึ้น ดังเหตุผลที่เล่ามา
ถามว่าแล้วมันมีผลกระทบอะไรต่อตัวผมเอง “I don’t give a damn” อิอิ !
สวัสดี จากเชียงราย
