ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องกำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย เพื่อควบคุมคุณภาพของแอลกอฮอล์เจลให้มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร
โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา ซึ่งตั้งแต่ประกาศฯ ดังกล่าวมีผลใช้บังคับ อย. ได้ดำเนินการตรวจสอบ เฝ้าระวังสถานที่ผลิต สถานที่ขาย ผลิตภัณฑ์ และโฆษณาแอลกอฮอล์เจล ทั่วประเทศอย่างเข้มงวด ซึ่งมีผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. เก็บตัวอย่างแอลกอฮอล์เจลส่งตรวจวิเคราะห์ จำนวน 135 รายการ พบว่า ผลวิเคราะห์ผ่าน 108 รายการ (ร้อยละ 80) ไม่ผ่าน 27 รายการ (ร้อยละ 20) ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
2. ประกาศผลการตรวจวิเคราะห์แอลกอฮอล์เจลที่ตรวจพบสารเมทานอล จำนวน 8 รายการ
3. เพิกถอนใบรับจดแจ้งแอลกอฮอล์เจลที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 70% หรือผลิตไม่ตรงตามที่จดแจ้ง จำนวน 82 รายการ
4. ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเครือข่ายทลายแหล่งผลิตและขายแอลกอฮอล์เจลที่ผิดกฎหมาย เช่น โกดังลักลอบผลิตแอลกอฮอล์เจลย่านจังหวัดปทุมธานี สถานที่ผลิตแอลกอฮอล์เจลผสมเมทานอลย่านจังหวัดสมุทรสาคร
โดยการดำเนินการดังกล่าวนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 70 ราย มูลค่าของกลางกว่า 148 ล้านบาท
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินงานทั้งหมด อย. ได้เผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความรู้และเตือนภัย ไม่ให้ผู้บริโภคต้องตกเป็นเหยื่อของผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ อย. ขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนว่าจะมุ่งมั่นทำงานและพร้อมให้ความร่วมมือ สนับสนุนต่อยอดการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัย และสามารถรับข่าวสารที่เป็นประโยชน์ และติดตามผลการดำเนินงานของ อย. ผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ Oryor Smart Application ไลน์ @FDAThai เฟสบุ๊ก FDA Thai และ เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th