นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลบริหารประเทศไม่มีประสิทธิภาพ ตั้งงบประมาณบริหารไว้สูง แต่ไม่มีความสามารถในการดูจัดเก็บภาษีได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องกู้เพื่อโป๊ะงบประมาณ ยิ่งรัฐบาลบริหารยิ่งต้องกู้เพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งยังปล่อยให้เกิดการทุจริตเพิ่มสูงขึ้น หลายโครงการรัฐมีข่าวการทุจริตทุกประเภท ผลที่ออกมาคือ ประเทศไทยกลายเป็นรัฐล้มเหลวและรัฐบาลบริหารงานล้มเหลว
นอกจากนี้ในส่วนของการกู้เงินที่ผ่านมาที่รัฐบาลอ้างว่าต้องนำมาใช้ฉุกเฉิน โดยเฉพาะการกู้เงินฟื้นฟูประเทศจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ แต่ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้
เงินกู้ที่รัฐบาลอ้างว่านำไปช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีผู้ประกอบการไม่กี่รายที่เข้าถึงเงินกู้ของรัฐ เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบ อ้างติดขัดข้อกฎหมาย ไม่สามารถอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาหรือช่วยเหลือแบบเลือกปฎิบัติ หากผู้ประกอบการรายใดใกล้ชิดกับรัฐบาลจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
นายวิสาร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเก็บภาษีไม่ตรงตามเป้าหมาย แต่วิธีการในการใช้เงินของรัฐบาลกลับไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน เพราะใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย งบประมาณของรัฐที่จ่ายออกไปจึงไหลไปอยู่ในมือของนายทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาล ไม่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจเสียหาย
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงในปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงต้องรับศึกหนักแน่ เพราะจะได้รู้ว่าการทุจริตของรัฐบาลมีทุกกระทรวง ทุกโครงการมีการทุจริต ที่พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าถ้าพบทุจริตให้แจ้งมาพร้อมดำเนินการ ถึงเวลานั้นจะกล้าดำเนินการหรือไม่หากคนใกล้ชิดของ พล.อ.ประยุทธ์ มีผลประโยชน์ในการโครงการของรัฐ” นายวิสาร กล่าว